xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.สรุปสำนวนแจ้งข้อหา จ่อเชือด“ธาริต” รวยผิดปกติ-คิวต่อไป“ปลัดพันล้าน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ป.ป.ช.ดีเดย์สรุปสำนวนแจ้งข้อหา “ธาริต” ร่ำรวยผิดปกติต้นเดือนหน้า หลังคณะอนุกรรมการไต่สวนได้อายัดทรัพย์สินไปแล้ว 40 ล้านบาท ส่วน “สุพจน์” อดีตปลัดคมนาคม เข้าคิวโดนคดีอาญา เหตุเข้าข่ายเรียกรับประโยชน์จากตำแหน่ง

วานนี้ (18 ต.ค.) นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวน กรณีกล่าวหา นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่ำรวยผิดปกติ ว่า ภายหลังคณะอนุกรรมการไต่สวนได้อายัดทรัพย์สินของนายธาริตไปเมื่อเดือน เม.ย.58 มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งนายธาริตได้ขอต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม โดยมีการฟ้องศาลอาญาต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน แต่ศาลชั้นต้นได้ยกคำร้องไปแล้ว และศาลอุทธรณ์เตรียมจะพิจารณาอยู่

นอกจากนี้ยังมีการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. 100 ล้านบาท ด้วย อย่างไรก็ดีในต้นเดือน พ.ย.58 จะสรุปสำนวนคดีนี้ให้เสร็จสิ้น และดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีของนายธาริต ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่า มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการโอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติ จึงได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของนายธาริต และนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส ไว้เป็นการชั่วคราวตามมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ได้แก่ เงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ รวมมูลค่า 40,954,720.58 บาท

** คดี “ปลัดพันล้าน” ใกล้เสร็จ

ส่วนกรณีกล่าวหาทางอาญา นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม กรณีร่ำรวยผิดปกติ เนื่องจากมาจากกระทำผิดหรือทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่นหรือไม่นั้น นายปรีชา เปิดเผยว่า ใกล้เสร็จแล้ว ตอนนี้คืบหน้าไปประมาณ 90% สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ในเร็วๆนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของ นายสุพจน์ ถูกกล่าวหาว่าเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ และจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จนั้น ต่อมามีการไต่สวนความผิดในทางอาญาด้วย เนื่องจากกรณีที่นายสุพจน์ร่ำรวยผิดปกตินั้นมาจากกระทำผิด หรือทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. หรือไม่.
กำลังโหลดความคิดเห็น