นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ระบุว่า จากนี้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี ต้องทำงานควบคู่กันไปเพราะเป็นการวางโครงสร้างไม่ใช่การชี้นำ ว่า ก็ถือว่าถูกต้อง ส่วนที่มีการเสนอให้มีการปฏิรูปสื่อมวลชนนั้น ตนไม่ทราบ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดี และอยากเห็น สปท. เสนอขึ้นมาก่อน เพราะเรื่องนี้ถ้าเป็นองค์กรภาครัฐเสนอ มันจะถูกมองว่าไปตั้งธงชี้นำ
เมื่อถามถึงการที่ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิก สปท.ระบุว่าสปท.ต้องมาเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อรับนโยบายนั้นนายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้พบ แต่อาจจะมาเยี่ยมคารวะซึ่งตนมองว่าไม่จำเป็น เพราะนายกรัฐมนตรีตั้งใจจะไปกล่าวในที่ประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สายอยู่แล้ว โดยตนได้ประสานกับทาง ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)แล้ว ส่วนวันที่เท่าไรนั้น กำลังรอนายกรัฐมนตรีกำหนดอยู่ ส่วนเรื่องสถานที่ หากคนมาเป็นจำนวนมาก ก็คงต้องใช้ที่รัฐสภา เนื่องจากจะมีทั้ง สนช. และ สปท. กรธ. ทุกคน เป็นจำนวนกว่า 400 คน เพราะทุกครั้งที่ผ่านมา การประชุมที่สโมสรทบ. วิภาวดี จะมีเพียง แค่ประธานไม่กี่คน บางทีจะไปเล่าต่อ ก็เล่าไม่ถูก และบางทีอยากจะถามอะไร ก็ไม่มีโอกาสถาม ที่มันจำกัด คับแคบ จึงใช้ที่รัฐสภา มีการถ่ายทอดการประชุมไปทั่วประเทศด้วยยิ่งดี ส่วนใครจะมาหรือไม่ ก็แล้วแต่ แต่เชิญหมดทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่าใครจะเป็นผู้นั่งบัลลังก์ประธานที่ประชุม นายวิษณุ กล่าวว่า "คิดเล่นๆนะ ว่าคงต้องเป็นเจ้าของสถานที่ ซึ่งก็คือประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ทางที่ดีคือขึ้นมานั่งคู่กัน แต่เดี๋ยวจะเบียดกันตกบัลลังก์ไปอีก ประธาน สนช. กับ ประธานสปท. น่าจะเหมาะที่สุด ส่วนหัวหน้าคสช. จะเป็นคนพูดในฐานะหัวหน้าคสช. อาจจะตรงที่นั่งเลขาฯ ส่วนประธาน ก็มีหน้าที่ชี้ว่าใครพูด" รองนายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เร็วช้าอยู่ที่ว่าแม่น้ำทั้ง 5 สาย พร้อมทั้งหมดส่วนความจำเป็นที่ต้องประชุมในครั้งนี้คือ ไม่เคยพบกันเลย ในกรธ.และสปท. ทั้งหมด และเรากำลังจะให้ สปท.นั้นรับไม้ต่อ ทั้งหมดนั้นพูดกันผ่านสื่อทั้งนั้น ไม่เคยพูดกันตรงๆ และไม่เคยถาม จึงจำเป็นต้องพบและการประชุมแม่น้ำ 5 สายนั้น มีเดือนละครั้งอยู่แล้ว แต่จะมาเป็นประเภทตัวแทนของแต่ละสาย แต่ถ้าจะถามว่าเร็วไหมนั้น ต้องเร็วแน่
เมื่อถามว่าจุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คืออะไร นายวิษณุ กล่าวว่า จุดประสงค์ใหญ่ คือ นายกรัฐมนตรีต้องการส่งสารอะไรบางอย่างในฐานะหัวหน้าคสช. ซึ่งเป็นต้นตอของแม่น้ำ 5 สาย เพื่อบอกความประสงค์ว่า ที่เข้ามาขับเคลื่อนนั้น เป็นอะไร อย่างไร ตนคงไปเดาเนื้อหาก่อนคงไม่เหมาะ
" สมาชิกสภาบางคนท่านก็ไม่เคยดูโทรทัศน์ รายการวันศุกร์ สารอะไรก็ไม่เคยอ่าน ก็มานั่งฟังหน่อย" นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรี จะมีการสั่งการให้ทำอะไร หรือไม่ ในการประชุมนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ทุกวันนี้ก็ไม่เคยสั่งอะไร นายกรัฐมนตรี จะไปสั่ง สนช.ได้อย่างไร คงเป็นการชี้แจงความประสงค์ว่า อย่าลืมว่าตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ท่านเป็นผู้ตั้ง สปท.- กรธ. ขึ้นมา เพราะฉะนั้น ในภาพรวมต่อไปนี้ จะเดินกันไปอย่างไร ในช่วง 6-4 6-4 แต่ในส่วนเนื้อหานั้น ตนไม่รู้ และหลังจากการประชุมนี้ไปคงกลับไปเป็นอย่างเดิม คือ มากันบางคนเท่านั้น ในสถานที่อันจำกัด
เมื่อถามว่า จะมีการเปิดโอกาสให้ซักถามนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมด้วยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จากที่เตรียมการนั้น มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าจะลุกขึ้นถามกันอุตลุดวุ่นวายเหมือนประชุมสภา ก็คงใช้เวลากันหลายวัน
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 กล่าวถึงการประชุมแม่น้ำ 5 สายว่า เท่าที่ทราบ จะมีการประชุมในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ส่วนวาระยังไม่ทราบว่า จะหารือในประเด็นใดบ้าง เบื้องต้นน่าจะใช้รัฐสภาเป็นสถานที่ในการประชุม ซึ่งน่าจะมีการหารือถึงการประสานงานร่วมกัน โดยเฉพาะระหว่าง สนช. -สปท. และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ในประเด็นเรื่องการรวบรวมความเห็นจากประชาชนต่อการร่างรัฐธรรมนูญ โดย สนช.จะมีส่วนช่วยในการเก็บรวบรวมความเห็นได้อย่างไร รวมถึงระยะเวลาในการส่งมอบหรืออาจจะมีการจัดเวทีร่วมกันใน ต่างจังหวัดกับกรธ.ได้อย่างไรได้บ้าง ขณะที่ สปท. ก็คงต้องสานงานต่อจากสปช.ที่ได้ศึกษาการปฏิรูปไว้ 37 วาระ เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ถ้าเรื่องใดจำเป็นต้องออกกฎหมาย ทางสนช. ซึ่งทำหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติก็จะสนับสนุนงานของสปท.อย่างเต็มที่ ส่วนแนวโน้มที่จะมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ(คปป.) ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกลไกลโดยรวมที่ของรัฐธรรมนูญด้วย หากต้องการให้มีเครื่องมือกำหนดให้รัฐบาลใหม่ไม่ออกจากแนวทางปฏิรูปที่ทำกันไว้ ซึ่งต้องรอดูท่าทีของนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรธ.ว่าจะมีความเห็นและตัดสินใจอย่างไร
เมื่อถามถึงการที่ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิก สปท.ระบุว่าสปท.ต้องมาเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อรับนโยบายนั้นนายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้พบ แต่อาจจะมาเยี่ยมคารวะซึ่งตนมองว่าไม่จำเป็น เพราะนายกรัฐมนตรีตั้งใจจะไปกล่าวในที่ประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สายอยู่แล้ว โดยตนได้ประสานกับทาง ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)แล้ว ส่วนวันที่เท่าไรนั้น กำลังรอนายกรัฐมนตรีกำหนดอยู่ ส่วนเรื่องสถานที่ หากคนมาเป็นจำนวนมาก ก็คงต้องใช้ที่รัฐสภา เนื่องจากจะมีทั้ง สนช. และ สปท. กรธ. ทุกคน เป็นจำนวนกว่า 400 คน เพราะทุกครั้งที่ผ่านมา การประชุมที่สโมสรทบ. วิภาวดี จะมีเพียง แค่ประธานไม่กี่คน บางทีจะไปเล่าต่อ ก็เล่าไม่ถูก และบางทีอยากจะถามอะไร ก็ไม่มีโอกาสถาม ที่มันจำกัด คับแคบ จึงใช้ที่รัฐสภา มีการถ่ายทอดการประชุมไปทั่วประเทศด้วยยิ่งดี ส่วนใครจะมาหรือไม่ ก็แล้วแต่ แต่เชิญหมดทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่าใครจะเป็นผู้นั่งบัลลังก์ประธานที่ประชุม นายวิษณุ กล่าวว่า "คิดเล่นๆนะ ว่าคงต้องเป็นเจ้าของสถานที่ ซึ่งก็คือประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ทางที่ดีคือขึ้นมานั่งคู่กัน แต่เดี๋ยวจะเบียดกันตกบัลลังก์ไปอีก ประธาน สนช. กับ ประธานสปท. น่าจะเหมาะที่สุด ส่วนหัวหน้าคสช. จะเป็นคนพูดในฐานะหัวหน้าคสช. อาจจะตรงที่นั่งเลขาฯ ส่วนประธาน ก็มีหน้าที่ชี้ว่าใครพูด" รองนายกฯกล่าว
เมื่อถามว่า จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เร็วช้าอยู่ที่ว่าแม่น้ำทั้ง 5 สาย พร้อมทั้งหมดส่วนความจำเป็นที่ต้องประชุมในครั้งนี้คือ ไม่เคยพบกันเลย ในกรธ.และสปท. ทั้งหมด และเรากำลังจะให้ สปท.นั้นรับไม้ต่อ ทั้งหมดนั้นพูดกันผ่านสื่อทั้งนั้น ไม่เคยพูดกันตรงๆ และไม่เคยถาม จึงจำเป็นต้องพบและการประชุมแม่น้ำ 5 สายนั้น มีเดือนละครั้งอยู่แล้ว แต่จะมาเป็นประเภทตัวแทนของแต่ละสาย แต่ถ้าจะถามว่าเร็วไหมนั้น ต้องเร็วแน่
เมื่อถามว่าจุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คืออะไร นายวิษณุ กล่าวว่า จุดประสงค์ใหญ่ คือ นายกรัฐมนตรีต้องการส่งสารอะไรบางอย่างในฐานะหัวหน้าคสช. ซึ่งเป็นต้นตอของแม่น้ำ 5 สาย เพื่อบอกความประสงค์ว่า ที่เข้ามาขับเคลื่อนนั้น เป็นอะไร อย่างไร ตนคงไปเดาเนื้อหาก่อนคงไม่เหมาะ
" สมาชิกสภาบางคนท่านก็ไม่เคยดูโทรทัศน์ รายการวันศุกร์ สารอะไรก็ไม่เคยอ่าน ก็มานั่งฟังหน่อย" นายวิษณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรี จะมีการสั่งการให้ทำอะไร หรือไม่ ในการประชุมนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ทุกวันนี้ก็ไม่เคยสั่งอะไร นายกรัฐมนตรี จะไปสั่ง สนช.ได้อย่างไร คงเป็นการชี้แจงความประสงค์ว่า อย่าลืมว่าตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ท่านเป็นผู้ตั้ง สปท.- กรธ. ขึ้นมา เพราะฉะนั้น ในภาพรวมต่อไปนี้ จะเดินกันไปอย่างไร ในช่วง 6-4 6-4 แต่ในส่วนเนื้อหานั้น ตนไม่รู้ และหลังจากการประชุมนี้ไปคงกลับไปเป็นอย่างเดิม คือ มากันบางคนเท่านั้น ในสถานที่อันจำกัด
เมื่อถามว่า จะมีการเปิดโอกาสให้ซักถามนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมด้วยใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จากที่เตรียมการนั้น มีความเป็นไปได้ แต่ถ้าจะลุกขึ้นถามกันอุตลุดวุ่นวายเหมือนประชุมสภา ก็คงใช้เวลากันหลายวัน
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 กล่าวถึงการประชุมแม่น้ำ 5 สายว่า เท่าที่ทราบ จะมีการประชุมในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ส่วนวาระยังไม่ทราบว่า จะหารือในประเด็นใดบ้าง เบื้องต้นน่าจะใช้รัฐสภาเป็นสถานที่ในการประชุม ซึ่งน่าจะมีการหารือถึงการประสานงานร่วมกัน โดยเฉพาะระหว่าง สนช. -สปท. และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ในประเด็นเรื่องการรวบรวมความเห็นจากประชาชนต่อการร่างรัฐธรรมนูญ โดย สนช.จะมีส่วนช่วยในการเก็บรวบรวมความเห็นได้อย่างไร รวมถึงระยะเวลาในการส่งมอบหรืออาจจะมีการจัดเวทีร่วมกันใน ต่างจังหวัดกับกรธ.ได้อย่างไรได้บ้าง ขณะที่ สปท. ก็คงต้องสานงานต่อจากสปช.ที่ได้ศึกษาการปฏิรูปไว้ 37 วาระ เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ถ้าเรื่องใดจำเป็นต้องออกกฎหมาย ทางสนช. ซึ่งทำหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติก็จะสนับสนุนงานของสปท.อย่างเต็มที่ ส่วนแนวโน้มที่จะมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ(คปป.) ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับกลไกลโดยรวมที่ของรัฐธรรมนูญด้วย หากต้องการให้มีเครื่องมือกำหนดให้รัฐบาลใหม่ไม่ออกจากแนวทางปฏิรูปที่ทำกันไว้ ซึ่งต้องรอดูท่าทีของนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรธ.ว่าจะมีความเห็นและตัดสินใจอย่างไร
