"สุขุมพันธุ์"รับมือน้ำท่วม คาดตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 11 ต.ค. เกือบทุกพื้นที่จะมีฝนตกหนัก พร้อมสั่งให้พร่องน้ำในคลองแสนแสบระดับต่ำสุดที่ ขณะที่ อธิบดีปภ.เตือนพื้นที่เสี่ยง 21 จังหวัดในภาคเหนือและอีสาน เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศเที่ยงวัน ไทยตอนบนยังมีฝนตกหนาแน่นกทม. ฝนร้อยละ 70
วานนี้ (11 ต.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่องจากฝนตกหนัก พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร นำโดย นายสมพงษ์ เวียงแก้วรอง ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำเป็นผู้บรรยายสรุปสถานการณ์ฝน และแผนการเตรียมความพร้อมในการแก้ปัญหาน้ำท่วม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันให้เพิ่มมากขึ้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่าเนื่องจากขณะนี้หลายพื้นที่เกิดภาวะฝนตกอย่างหนัก ประกอบกับสภาวะอากาศตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า มีความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยประกอบกับมีร่องมรสุมผ่านประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้เกิดมีฝนตกชุกหนาแน่นเกือบทุกภาคของปรเทศไทยได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันตกและภาคกลางรวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา กทม.ได้รับผลกระทบเกิดภาวะน้ำท่วมขังรอระบายหลายจุด ทำให้น้ำระบายได้ค่อยข้างช้าอีกทั้งยังมีภาวะน้ำทะเลหนุนสูงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1-2 วันนี้ คาดว่าจะเกิดฝนตกหนักร้อยละ60-70 ของพื้นที่ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคมมีปริมาณฝนสะสมแล้ว 220 มิลลิเมตร ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปี 2557 ที่ตลอดเดือน ต.ค.จะมีฝนสะสม 280-300 มิลลิเมตร ดังนั้น กทม.จึงได้มีการจัดเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือปัญหาน้ำท่วมดังนี้ 1.ขุดลอกคลองและเปิดทางน้ำไหล ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้ว 98% 2.การล้างท่อระบายน้ำ 98% 3.เตรียมเครื่องสูบน้ำทั้งไฟฟ้าและเครื่องยนต์จำนวน 1,594 เครื่องตามจุดอ่อนไหวทั่ว กทม.พร้อมสำรองไว้ที่สำนักงานเขตแต่ละแห่ง 4.ติดเครื่องผลักดันน้ำตามคลองสายหลัก เพื่อเร่งระบายน้ำในคลองจำนวน 51 ลำ
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยที่คอยควบคุมระดับน้ำในคลองสายหลัก และอุโมงค์ระบายน้ำสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงสุด
ทั้งนี้สำนักระบายน้ำได้มีการคาดการณ์ว่า ตั้งแต่คืนวันที่11 ต.ค.นี้กรุงเทพฯ จะเกิดฝนตกหนักเกิน 60 มิลลิเมตรเกือบทุกพื้นที่ ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมเข้าประจำพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแม้ว่าจะไม่สามารถระบายน้ำให้แห้งได้ในทันที
นอกจากนี้ ได้สั่งให้พร่องน้ำในคลองแสนแสบระดับต่ำสุดที่- 80 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง(รทก.) ดังนั้นอาจมีผลต่อการเดินเรือคลองแสนแสบ ซึ่งขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการก้าวขึ้นเรือและวางแผนในการเดินทางในช่วงนี้ โดย กทม.ยังได้มีการเสนอโครงการขยายท่อระบายน้ำของเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำต่อกระทรวงมหาดไทยซึ่งภายหลังก็ได้รับสัญญาณที่ดีจากรัฐมนตรีเห็นชอบในโครงการดังกล่าว กทม.อาจจะดำเนินการในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมที่เชื่อมต่อกับอุโมงค์ยักษ์ เพื่อให้การลำเลียงน้ำทำได้เร็วขึ้น
ปภ.เตือนปชช.21จว.ทางภาคเหนือ-อีสานระวังน้ำ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ร่องมรสุมที่พาดบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงประสานแจ้งเตือนให้ 21 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาวาตภัย อุทกภัย และดินถล่มจากภาวะฝนตกหนัก จนถึงวันพรุ่งนี้
โดย 21 จังหวัดแบ่งเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก, ตาก, สุโขทัย, เพชรบูรณ์, อุตรดิตถ์, ลำปาง, เชียงใหม่, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน, เชียงราย, น่าน, พะเยา และ แพร่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสกลนคร, นครพนม, มุกดาหาร, อุดรธานี, หนองคาย, บึงกาฬ, เลย และหนองบัวลำภู
นอกจากนี้ ยังให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน พื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสมในระยะนี้ และสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ทางสายด่วนนิรภัย 1784.
อุตุฯพยากรณ์ไทยยังมีฝนตกชุก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป วันที่ 11 ตุลาคม 2558 บริเวณความกดอากาศสูงแผ่ปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล เวลา 12.00 น. วันนี้ - 12.00 น. วันพรุ่งนี้ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.
ฝนถล่มตัวเมืองเชียงราย ส่งผลน้ำท่วมขังหลายจุด
ฝนที่ตกแต่ช่วงเย็นจนถึงช่วงกลางคืน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนในตัวเมืองเขตเทศบาลนครเชียงรายหลายจุด โดยเฉพาะถนนหน้าวัดเจ็ดยอด และด้านหน้าโรงแรมวังคำ ถนนหน้าโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ บริเวณแยกหมอพีระ มีน้ำท่วมขังบางจุดสูงกว่า 30 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรไปมายากลำบาก
นอกจากนั้นน้ำยังท่วมถนนพหลโยธินสายเชียงราย-แม่สาย เป็นช่วงๆ อีกหลายจุด เช่น ฝั่งขาเข้าเมืองเชียงราย หน้าห้างเซ็นทรัล เชียงราย และบริเวณทางแยกก่อนขึ้นสถานีวิทยุ 914 บ้านปงอ้อ ตำบลแม่จัน น้ำท่วมเป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม คาดว่าน้ำที่ท่วมขังตามจุดต่างๆ จะค่อยๆ ระบายลงแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา และจะเข้าสู่ภาวะปกติในคืนนี้หากฝนไม่ตกเพิ่มมาอีก
วานนี้ (11 ต.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่องจากฝนตกหนัก พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร นำโดย นายสมพงษ์ เวียงแก้วรอง ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำเป็นผู้บรรยายสรุปสถานการณ์ฝน และแผนการเตรียมความพร้อมในการแก้ปัญหาน้ำท่วม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันให้เพิ่มมากขึ้น
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่าเนื่องจากขณะนี้หลายพื้นที่เกิดภาวะฝนตกอย่างหนัก ประกอบกับสภาวะอากาศตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า มีความกดอากาศสูงยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยประกอบกับมีร่องมรสุมผ่านประเทศไทยตอนบน ส่งผลให้เกิดมีฝนตกชุกหนาแน่นเกือบทุกภาคของปรเทศไทยได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคตะวันตกและภาคกลางรวมถึงกรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา กทม.ได้รับผลกระทบเกิดภาวะน้ำท่วมขังรอระบายหลายจุด ทำให้น้ำระบายได้ค่อยข้างช้าอีกทั้งยังมีภาวะน้ำทะเลหนุนสูงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1-2 วันนี้ คาดว่าจะเกิดฝนตกหนักร้อยละ60-70 ของพื้นที่ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคมมีปริมาณฝนสะสมแล้ว 220 มิลลิเมตร ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปี 2557 ที่ตลอดเดือน ต.ค.จะมีฝนสะสม 280-300 มิลลิเมตร ดังนั้น กทม.จึงได้มีการจัดเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือปัญหาน้ำท่วมดังนี้ 1.ขุดลอกคลองและเปิดทางน้ำไหล ซึ่งมีการดำเนินการไปแล้ว 98% 2.การล้างท่อระบายน้ำ 98% 3.เตรียมเครื่องสูบน้ำทั้งไฟฟ้าและเครื่องยนต์จำนวน 1,594 เครื่องตามจุดอ่อนไหวทั่ว กทม.พร้อมสำรองไว้ที่สำนักงานเขตแต่ละแห่ง 4.ติดเครื่องผลักดันน้ำตามคลองสายหลัก เพื่อเร่งระบายน้ำในคลองจำนวน 51 ลำ
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยที่คอยควบคุมระดับน้ำในคลองสายหลัก และอุโมงค์ระบายน้ำสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงสุด
ทั้งนี้สำนักระบายน้ำได้มีการคาดการณ์ว่า ตั้งแต่คืนวันที่11 ต.ค.นี้กรุงเทพฯ จะเกิดฝนตกหนักเกิน 60 มิลลิเมตรเกือบทุกพื้นที่ ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมเข้าประจำพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแม้ว่าจะไม่สามารถระบายน้ำให้แห้งได้ในทันที
นอกจากนี้ ได้สั่งให้พร่องน้ำในคลองแสนแสบระดับต่ำสุดที่- 80 เซนติเมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง(รทก.) ดังนั้นอาจมีผลต่อการเดินเรือคลองแสนแสบ ซึ่งขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการก้าวขึ้นเรือและวางแผนในการเดินทางในช่วงนี้ โดย กทม.ยังได้มีการเสนอโครงการขยายท่อระบายน้ำของเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำต่อกระทรวงมหาดไทยซึ่งภายหลังก็ได้รับสัญญาณที่ดีจากรัฐมนตรีเห็นชอบในโครงการดังกล่าว กทม.อาจจะดำเนินการในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมที่เชื่อมต่อกับอุโมงค์ยักษ์ เพื่อให้การลำเลียงน้ำทำได้เร็วขึ้น
ปภ.เตือนปชช.21จว.ทางภาคเหนือ-อีสานระวังน้ำ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ร่องมรสุมที่พาดบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จึงประสานแจ้งเตือนให้ 21 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาวาตภัย อุทกภัย และดินถล่มจากภาวะฝนตกหนัก จนถึงวันพรุ่งนี้
โดย 21 จังหวัดแบ่งเป็น ภาคเหนือ 13 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก, ตาก, สุโขทัย, เพชรบูรณ์, อุตรดิตถ์, ลำปาง, เชียงใหม่, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน, เชียงราย, น่าน, พะเยา และ แพร่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสกลนคร, นครพนม, มุกดาหาร, อุดรธานี, หนองคาย, บึงกาฬ, เลย และหนองบัวลำภู
นอกจากนี้ ยังให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน พื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัด เตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและฝนตกสะสมในระยะนี้ และสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ทางสายด่วนนิรภัย 1784.
อุตุฯพยากรณ์ไทยยังมีฝนตกชุก
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป วันที่ 11 ตุลาคม 2558 บริเวณความกดอากาศสูงแผ่ปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล เวลา 12.00 น. วันนี้ - 12.00 น. วันพรุ่งนี้ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24 - 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 - 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 - 30 กม./ชม.
ฝนถล่มตัวเมืองเชียงราย ส่งผลน้ำท่วมขังหลายจุด
ฝนที่ตกแต่ช่วงเย็นจนถึงช่วงกลางคืน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังถนนในตัวเมืองเขตเทศบาลนครเชียงรายหลายจุด โดยเฉพาะถนนหน้าวัดเจ็ดยอด และด้านหน้าโรงแรมวังคำ ถนนหน้าโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ บริเวณแยกหมอพีระ มีน้ำท่วมขังบางจุดสูงกว่า 30 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรไปมายากลำบาก
นอกจากนั้นน้ำยังท่วมถนนพหลโยธินสายเชียงราย-แม่สาย เป็นช่วงๆ อีกหลายจุด เช่น ฝั่งขาเข้าเมืองเชียงราย หน้าห้างเซ็นทรัล เชียงราย และบริเวณทางแยกก่อนขึ้นสถานีวิทยุ 914 บ้านปงอ้อ ตำบลแม่จัน น้ำท่วมเป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร บางจุดระดับน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม คาดว่าน้ำที่ท่วมขังตามจุดต่างๆ จะค่อยๆ ระบายลงแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา และจะเข้าสู่ภาวะปกติในคืนนี้หากฝนไม่ตกเพิ่มมาอีก