xs
xsm
sm
md
lg

ส่งฟ้อง"อาเดม-ยูซุฟู"สัปดาห์หน้า เตรียมออกหมายจับแก๊งบึ้มเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน-"จักรทิพย์"เผยคดีบึ้มคืบหน้า 90% เล็งสรุปสำนวนส่งฟ้องสัปดาห์หน้า มั่นใจหลักฐานมัดแน่น ทั้งอาเดมและยูซุฟู ส่วน "อ๊อด" ยังส่งชุดไล่ล่าอยู่ เผยยังไม่จำเป็นต้องเรียกการ์ด นปช. สอบ แย้มจะออกหมายจับเพิ่มอีก หลังตรวจสอบยังมีคนเอี่ยวอีกเยอะ ตำรวจนำ 2 ผู้ต้องหาฝากขังผลัดที่ 4 หลังยังสอบพยานไม่แล้วเสร็จ ทูตบังคลาเทศเผยพร้อมร่วมมือไทยจับคนร้าย ด้านบีทีเอสช่องนนทรีป่วน เจอกระเป๋าต้องสงสัย แต่ตรวจสอบแล้วเป็นกระเป๋าเปล่า

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าน้ำสาทร ว่า ขณะนี้ได้มีการติดตามตัวนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทนผู้ช่วย ผบ.ตร.ไปดำเนินการ ส่วนมีข่าวล่าสุดว่านายอ๊อดได้หลบหนีไปทางภาคใต้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยังไม่มีข้อมูลจาก พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.รายงานเข้ามา

สำหรับบทบาทของนายอ๊อดในขบวนการนี้ การสืบสวนสอบสวนยังไม่มีเพิ่มเติมจากที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้ให้ข้อมูลว่าเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนในการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ใช้ผลิตระเบิด ส่วนนายอ๊อดเคยเป็นการ์ดแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นั้น มีเพียงคดีเก่าๆ ทั้งนี้ ยังไม่มีการเรียกการ์ด นปช. มาให้ข้อมูลแต่อย่างใด เพราะยังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำไปตามแนวทางสืบสวนได้

***ยังไม่จำเป็นต้องเรียกการ์ดนปช.สอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการ์ด นปช.คนอื่นๆ เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวหรือมีเพียงนายอ๊อดเกี่ยวข้องแค่คนเดียว พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ยังไม่มีการสืบสวนไปถึงขนาดนั้น หากมีการสืบสวนไปถึงขั้นนั้นเมื่อใดต้องมีการเรียกมาสอบสวนแน่นอน ตนรู้จักการ์ด นปช.ทุกคน เบื้องต้นยังทิ้งประเด็นไม่ได้ว่าการ์ดเกี่ยวข้องกับระเบิดครั้งนี้หรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์เป็นผู้ที่ดูแลในส่วนนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการพูดคุยกับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ในส่วนของสำนวนคดี

***เผยคดีคืบหน้าไปแล้วกว่า90%

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า สัปดาห์หน้าจะหารือกับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ เรื่องการสรุปสำนวนส่งฟ้องผู้ต้องหา โดยขณะนี้สำนวนมีความคืบหน้าไป 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว รวมถึงจะมีการคุยถึงเรื่องเงินบริจาคทั้งหมดจากคดีนี้ด้วย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของ พล.ต.ต.หญิง ขนิษฐา เที่ยงทัศน์ ผู้บังคับการกองการเงิน (ผบก.กง.) เพิ่งนำเข้าตามระเบียบงบประมาณการคลัง โดยการจัดสรรเงิน ต้องเป็นไปตามดุลพินิจของคณะกรรมการที่จะแต่งตั้งขึ้นมาว่าจะมอบไปในส่วนไหน ใครเกี่ยวข้องและทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารที่มาร่วมปฏิบัติงานด้วย รวมทั้งต้องขอขอบคุณสำหรับผู้บริจาคเงินเข้ามาในส่วนนี้ ถือว่าเป็นการสร้างสรรค์และช่วยกันในการมีส่วนร่วมในทุกเรื่อง

ส่วนกรณีที่นายพานทองแท้ ชินวัตร ระบุว่าต้องมีการมอบเงินให้เจ้าของหอพักเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาทนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า จะมีการพิจารณาทุกเรื่อง เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่จะต้องจัดสรร ส่วนจะมีประชาชนหรือนอกเหนือจากเจ้าหน้าที่รัฐแจ้งเบาะแส หรือเป็นการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนั้นต้องมีการประชุม กรรมการทุกท่านอาจจะได้เบาะแสมาอีกที่หนึ่ง ตนได้อีกที่หนึ่ง มีหลายส่วนก็ต้องมาหารือกันว่าเบาะแสมากี่ทิศทาง จริงหรือไม่ก็ต้องตรวจสอบ ต้องให้เฉพาะเบาะแสที่มีส่วนในการจับกุม แต่เราก็ไม่ได้ตัดสิทธิผู้ที่ให้ข่าวให้เบาะแส

สำหรับกรณีที่มีผู้ต้องหา 2-3 คนหลบหนีไปยังประเทศมาเลเซียนั้น พล.ต.ท.สุชาติจะไปรับตัวกลับมาเมื่อใด พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการติดต่อเพิ่มเติม ในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านอย่าไปมุ่งเน้นว่าเป็นประเทศมาเลเซีย อาจจะหลบหนีไปยังประเทศอื่นก็ได้ สำหรับนายซูแบร์ อังดุลลาร์ หรือชายเสื้อฟ้านั้น ตนได้พูดไปตั้งแต่ต้นแล้ว จากการสืบสวนโดยใช้เทคนิคพิเศษพบว่าเคลื่อนไหวทางชายแดนภาคใต้

***แย้มจะขอออกหมายจับเพิ่มอีก

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวด้วยว่า ในส่วนคดีเบื้องต้นจะมีการสั่งฟ้องกี่คนนั้นเป็นไปตามพยานหลักฐาน เชื่อว่าพยานหลักฐานจะเพียงพอต่อการส่งฟ้องนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด หรือนายอาเดม คาราดัก และนายไมไรลี ยูซุฟูแน่นอน และอาจจะมีการขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม เพราะว่าคดียังไม่สุด อาจจะหลายราย แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องอะไร ส่วนจะเป็นคนไทยหรือไม่นั้นอยู่ในสำนวนคดี

ทั้งนี้ การสอบสวนนายบิลาลเติร์ก และนายยูซูฟู ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้ความร่วมมือดีมาก โดยจากการจะออกหมายจับเพิ่มเติมมาจากคำให้การของทั้ง 2 คนส่วนหนึ่ง รวมทั้งมาจากเส้นทางการเงินด้วย ซึ่งยังไม่สามารถระบุแน่ชัดว่ามาจากประเทศใดหรือเป็นประเทศที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยเป็นจำนวนเงินมากพอสมควร ส่วนเงินที่โอนนั้นเพื่อนำมาให้นายอิซาน หรือนายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หนึ่งในผู้ต้องหาหรือไม่นั้นไม่ขอเปิดเผย ส่วนการโอนเข้ามาจะโอนเข้ามาในลักษณะไหนต้องมีการตรวจสอบก่อนว่าเพื่อการก่อเหตุ หรือเพื่อใช้จ่ายในขบวรการขนคนข้ามประเทศ

ส่วนการสรุปสำนวนจะมีการลงสาเหตุของคดีว่าอย่างไรนั้น ศาลคงจะดูในพยานหลักฐาน ไม่มาถามถึงสาเหตุ และจะเข้าข่ายก่อการร้ายหรือไม่และสามารถแจ้งขอหาก่อการร้ายได้หรือไม่นั้น อยู่ในส่วนที่ต้องมีการหารือกันอยู่แล้วว่าจะไปในทิศทางไหน ไม่ได้ตัดทิ้ง ทุกประเด็นทุกสาเหตุจนกว่าจะส่งสำนวนจึงจะรู้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีชายคล้ายแขกขาวที่ไปเดินป้วนเปี้ยนในศาลทหาร จนมีหมายจับออกมาแล้วนั้น ทราบหรือไม่ว่าเป็นใคร และมีความเกี่ยวข้องกับคดีระเบิดหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ได้มีการสั่งการให้ไปตรวจสอบความชัดเจนแล้ว ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือเป็นเหตุบังเอิญกันแน่ คาดว่าน่าจะทราบชื่อชายคนดังกล่าวแล้ว แต่ตนยังไม่ทราบ

***นำตัวผู้ต้องหาฝากขังผลัดที่ 4

วันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายอาเดม คาราดัก และนายไมไรลี ยูซุฟู ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์และท่าน้ำสาทร มาขออำนาจศาลทหารฝากขัง ผลัดที่ 4 โดยมีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารจากสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งคู่ได้เดินทางมาจากกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) ซึ่งใช้เป็นเรือนจำชั่วคราว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ คอยดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างแน่หนา ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนสวมชุดเรือนจำ สวมกุญแจข้อมือ และสีหน้าเรียบเฉย โดยมีเจ้าหน้าที่เดินประกบตลอดเวลา

ทั้งนี้ เวลา 10.30 น. ศาลออกนั่งบัลลังก์ ไต่สวนคำร้องขอฝากขังผัดที่ 4 ของเจ้าพนักงานสอบสวน เนื่องจากยังสอบพยานอีกหลายปากไม่เสร็จ พร้อมทั้งรอผลจากพยานวัตถุที่ตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ศาลจึงอนุญาตให้ฝากขังต่อผัดที่ 4 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.-19 ต.ค. ก่อนให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำกลับไปควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราว แขวงนครชัยศรี

***บังคลาเทศพร้อมร่วมมือไทยจับคนร้าย

ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นางซะอีดะฮ์ มุนา ตัสนีม เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังคลาเทศประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่

ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า เอกอัครราชทูตบังคลาเทศเข้าพบ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ซึ่งตนก็ดีใจที่มีโอกาสได้ต้อนรับ เราได้มีการพูดคุยถึงเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ทางการบังคลาเทศเองให้ความร่วมมือกับประเทศไทยอย่างเต็มที่ จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้แจ้งว่ามีคนร้ายบางส่วนหลบซ่อนตัวอยู่ในบังคลาเทศ ซึ่งนางซะอีดะฮ์ ได้ยืนยันว่าทางการบัคลาเทศได้ช่วยติดตามคนร้าย และเมื่อค้นหาแล้วก็ไม่พบแต่อย่างใด

***พบกระเป๋าต้องสงสัยบีทีเอสช่องนนทรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น. วานนี้ (7 ต.ค.) ได้มีการตรวจสอบพบกระเป๋าต้องสงสัยเป็นกระเป๋าหิ้วสีน้ำเงิน บริเวณทางเชื่อมบีทีเอสสถานีช่องนนทรี เชื่อมไปยังสถานีรถโดยสารบีอาร์ที โดยกระเป๋าวางอยู่บริเวณริมสะพานทางเชื่อมด้านนอก ซึ่งหลังตรวจสอบพบ เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้น และให้ประชาชนออกจากบริเวณ โดยได้ขอให้ประชาชนเดินทางออกโดยใช้ทางออกหมายเลข 3 และ 4 และได้แจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิด (EOD) เข้ามาตรวจสอบ

ทั้งนี้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ EOD ได้เข้ามาตรวจสอบ พบว่า ข้างในเป็นกระเป๋าเปล่า ไม่มีสิ่งของภายในกระเป๋า
กำลังโหลดความคิดเห็น