ทูตบังคลาเทศประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยความสัมพันธ์ไทยกับบังกลาเทศอยู่ในระดับที่ดี และให้ความร่วมมือช่วยติดตามคนร้ายเหตุระเบิดที่ราชประสงค์อย่างเต็มที่ “ปนัดดา” กำชับ สปน. เฝ้าระวังประชาชนทำร้ายตัวเองระหว่างร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม แจง “เอก” นั่งปลัด สปน. คนใหม่เบื้องต้น รอแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
วันนี้ (7 ต.ค.) ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นางซะอีดะฮ์ มุนา ตัสนีม เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ โดย ม.ล.ปนัดดา ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเข้าพบว่า เอกอัครราชทูตบังกลาเทศเข้าพบ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ซึ่งตนก็ดีใจที่มีโอกาสได้ต้อนรับ เราได้มีการพูดคุยถึงเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ทางการบังกลาเทศเองให้ความร่วมมือกับประเทศไทยอย่างเต็มที่จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ได้แจ้งว่ามีคนร้ายบางส่วนหลบซ่อนตัวอยู่ในบังกลาเทศ ซึ่ง นางซะอีดะฮ์ ได้ยืนยันว่า ทางการบังกลาเทศได้ช่วยติดตามคนร้ายและเมื่อค้นหาแล้วก็ไม่พบแต่อย่างใด
ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า นางซะอีดะฮ์ ยังได้แจ้งให้ตนทราบว่า ทางสถานทูตบังกลาเทศประจำประเทศไทย จะร่วมกับสถาบันการศึกษาจะจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 5 ธ.ค. นี้ จึงขอความร่วมมือสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกันจัดงาน ซึ่งตนก็ได้แจ้งกลับไปว่าทางสำนักนายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่จะร่วมจัดงาน จึงขอให้แจ้งรายละเอียดมา ส่วนการแจ้งถึงการประชุมนานาชาติเรื่องการท่องเที่ยวที่ทางบังกลาเทศเป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ นางซะอีดะฮ์ ได้เชิญ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรากูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมประชุมด้วย ทั้งนี้ ท่านทูตยืนยันกับตนว่าขณะนี้ความสัมพันธ์ไทยกับบังกลาเทศอยู่ในระดับที่ดี และโดยส่วนตัวตนคิดว่านางซะอีดะฮ์เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ จึงเป็นโอกาสดีที่ไทยได้ให้การต้อนรับและร่วมงานด้วย
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีประชาชนหลายคนเข้ามาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมและมีบางรายทำร้ายตนเองที่ศูนย์ดำรงธรรมนั้น ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ตนจะกำชับไปทางสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ให้เข้มงวดกวดขันและเฝ้าระวังประชาชนที่เข้ามาร้องเรียนให้มากกว่านี้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่ามีประชาชนเข้ามาร้องเรียนจำนวนมาก เพิ่มจากในอดีตถึง 3 เท่า ดังนั้น คุณภาพและปริมาณจะต้องไปด้วยกันให้ได้ ซึ่งเท่าที่สังเกตหลายเรื่องที่ประชาชนไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมต่างจังหวัดประชาชนมักไม่พอใจในผลลัพธ์ที่ออกมา จึงเข้ามาร้องเรียนที่ส่วนกลาง ตนจึงอยากเห็นศูนย์ดำรงธรรมและศูนย์บริการประชาชน กรุงเทพฯ ทำงานใกล้ชิตกันมากกว่านี้ เพราะหลายเรื่องต้องประสานงานกัน เท่าที่ตนทราบศูนย์ดำรงธรรมบางพื้นที่ยังมีบุคลากรไม่เพียงพอ ต้องเร่งให้มีเพียงพอต่อการบริการ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานของแต่ละพื้นที่ว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ดีแค่ไหน
เมื่อถามว่า ได้มีการมอบนโยบายแก่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัด สปน. คนใหม่แล้วหรือไม่ ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ตนได้ชี้แจงไปเบื้องต้นถึงส่วนงานของ สปน. ว่ามีด้านใดบ้าง แต่ พล.ต.อ.เอก ยังไม่เข้ามาทำงาน เนื่องจากรอพระบรมราชโองการอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งคงจะในเร็ว ๆ นี้ แต่ก็ไม่ถือว่าจะทำให้การทำงานของ สปน. ติดขัดแต่อย่างใด เพราะยังมีข้าราชการที่ทำงานและบริหารจัดการอยู่
