xs
xsm
sm
md
lg

“จักรทิพย์” ตั้ง “ศรีวราห์” คุมคดีบึ้มแทน รับแล้วเงิน “โอ๊ค” 7 ล้าน ตั้ง กก.บริหารจัดสรร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร.ตั้ง “ศรีวราห์” คุมคดีบึ้มแทน ประสานตามตัวตัว “วรรณา” ขณะที่ “อ๊อด” มีชุดติดตาม 4-5 ชุด กรณีเงิน 7 ล้านที่ “โอ๊ค” มามอบนั้นเตรียมตั้งกรรมการจัดสรรจ่ายทั้งตำรวจและทหาร ยังไม่ตัดประเด็นโยงการเมือง-อุยกรู์ ส่วน “ซูแบร์” ชายเสื้อฟ้าได้ประสานทางการมาเลย์เนื่องจากพบหนีไปทางชายแดนไทย-มาเลเซีย เตรียมขอหมายจับเพิ่ม


วันนี้ (4 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ และท่าน้ำสาทร ว่าล่าสุดได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รักษาราชการแทน ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน และเป็นผู้กำกับดูแลคดีนี้ ทั้งการสืบสวนและสอบสวนแทนตน ขณะนี้มีการติดตามผู้ต้องหาที่ออกหมายจับไปแล้วอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่หลบหนีไปต่างประเทศก็ประสานผ่านช่องทางตำรวจสากล รวมทั้ง น.ส.วรรณา สวนสันต์ หรือนางไมซาเราะห์ หนึ่งในผู้ต้องหาด้วย ขณะนี้ไม่ทราบว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วหรือไม่ สำหรับผู้ต้องหาที่อยู่ต่างประเทศเรามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนอยู่ ไม่ต้องกังวล สำหรับนายอ๊อด พยุงวงศ์นั้น ขณะนี้ติดตามอยู่ มีชุดทำงาน 4-5 ชุดในการติดตาม

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า สำหรับกรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร นำเงิน 7 ล้านบาทมอบให้แก่ผู้ที่สามารถจับกุมคนร้ายในคดีระเบิดได้ ขณะนี้ได้รับเงินมาแล้ว โดยเก็บไว้ที่ พล.ต.ต.หญิง ขนิษฐา เที่ยงทัศน์ ผู้บังคับการกองการเงิน (ผบก.กง.) รวมทั้งเงิน 3 ล้านบาท ที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.มอบให้ก่อนหน้านี้ด้วย โดย ผบก.กง.รับไปดำเนินการตามระเบียบบริหารการคลัง และตนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยให้รอง ผบ.ตร.ฝ่ายบริหารเป็นประธานกรรมการเข้ามาบริหารจัดการจัดสรรให้เหมาะสม หารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนจับกุม ยืนยันว่าไม่มีการใช้จ่ายอย่างไม่ถูกต้องแน่นอน โดยจะต้องพิจารณาว่าจะจัดสรรปันส่วนอย่างไร ทั้งตำรวจ ทหาร และที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนกรณีนายพานทองแท้ ตั้งข้อสังเกตมีเจ้าหน้าที่บางรายพยายามกล่าวหาโยงใยฝ่ายการเมืองบางกลุ่มเข้าไปเกี่ยวข้องเหตุระเบิดนั้น ตนมองว่าที่มีการออกไปพูดโยงถึงการเมืองเพราะตอนแรกแนวโน้มลักษณะเหตุการณ์น่าจะเป็นเช่นนั้น ต่อมาก็มีข้อมูลใหม่ เป็นการคิดไปในตอนแรก ส่วนตนไม่เคยพูดว่าสาเหตุการระเบิดมาจากเรื่องอะไร ตราบใดที่ยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ

“ทุกสาเหตุอยู่บนโต๊ะหมด ผมเองไม่เคยบอกว่าสาเหตุจากเรื่องใด ทุกสาเหตุที่สงสัยเป็นไปได้หมด คดีนี้ยังไม่จบ ยังต้องตรวจสอบสาเหตุและเรื่องอื่นๆ ให้ตอบวันนี้พรุ่งนี้ยังไม่ได้ แม้ได้ตัวนายอ๊อดมาก็ต้องสืบสวนสอบสวนไปที่ประเด็นอื่นๆ ด้วย” ผบ.ตร.กล่าว

เมื่อถามว่าให้น้ำหนักระหว่างเรื่องอุยกูร์ กับการเมืองอย่างไร พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ปมยังซ้อนกันอยู่ ส่วนชายที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดของศาลทหารนั้นยังตรวจสอบอยู่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ คาดว่าคงไม่เกี่ยวข้อง ชุดสืบสวนสอบสวนต้องเอาเบาะแสข้อมูลทุกอย่างมาดู หากเกี่ยวข้องก็สืบสวนสอบสวนต่อ ไม่เกี่ยวก็ตัดทิ้ง อย่างกรณีนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวางระเบิด ที่ตอนแรกไม่พบภาพวงจรปิด ต่อมาสืบสวนจนพบตนก็สั่งทำโทษตำรวจที่อาจเผอเรอ มีตำรวจชุดที่สั่งการให้ตรวจสอบแต่แรกแล้วไม่พบแล้ว

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ส่วนกรณีการติดตามตัวนายซูแบร์ อับดุลลาห์ หรือชายเสื้อฟ้าที่นำระเบิดไปทิ้งที่ท่าน้ำสาทรนั้น มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร.สืบสวนติดตาม โดยให้ไปประสานกับประเทศมาเลเซียต่อเนื่อง จากการสืบสวนที่ตนทำเองพบว่าหนีไปทางชายแดนไทย-มาเลเซียแน่นอน ทั้งนี้ได้ไปพูดคุยกับผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์ที่มาเลเซียควบคุมตัวไว้แล้ว ได้ข้อมูลเป็นประโยชน์ ทราบว่ารู้จักนายซูแบร์ อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนสอบสวนในขณะนี้น่าจะมีการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม สำหรับการทำภาพเชิงซ้อนเปรียบเทียบนายบิลาเติร์ก กับภาพวงจรปิดนั้นเป็นเรื่องทางเทคนิค ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างรอบคอบ ขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ เราไม่เร่ง แต่ขอทำให้ละเอียดที่สุด

สำหรับผลการตรวจสอบพฤติกรรมไม่เหมาะสมของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตามที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.ตั้งข้อสังเกตและสั่งการให้จเรตำรวจตรวจสอบนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียด แต่รับว่าจะตรวจสอบต่อเนื่องตามที่จเรตำรวจมีความเห็นหากใครผิดก็ต้องดำเนินการ ตนเคยเป็นผู้บังคับตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานแห่งชาติมาก่อน เคยมีข้อมูลของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเช่นเดียวกับ พล.ต.อ.สมยศอยู่บ้าง แต่ไม่แน่ใจว่าข้อมูลที่มีเก่าไปหรือไม่

ผบ.ตร.กล่าวว่า ใน 6 ประเด็นที่ พล.ต.อ.สมยศสั่งการให้ตรวจสอบนั้นถือว่าครบหมดแล้ว ตนจะเข้าไปเติมเต็มบางส่วน เน้นเรื่องการป้องกันไม่ให้เอาคนไม่ดีเข้ามาในประเทศ รวมถึงการดูแลบริหารจัดการกลุ่มที่โอเวอร์สเตย์ (อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต) การอนุญาตคนเข้าออกยังมีจุดหละหลวมเพราะงานของ สตม.นั้นมี 2 ด้าน คือ บริการคนเข้าออกให้รวดเร็ว ไม่ติดขัด ให้ได้รับความสะดวกสบาย ขณะที่มีมิติด้านความมั่นคงที่คาบเกี่ยวกัน แต่ปัญหาคือไทยมีช่องทางชายแดนธรรมชาติอยู่มาก
กำลังโหลดความคิดเห็น