xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มน้ำมันหนุนดัชนีตลาดพุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - ตลาดเริ่มคลายความกังวลว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉุดดัชนีดอลล่าร์อ่อนค่าลง หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,400 จุด บล.ไทยพาณิชย์ ประเมินหุ้นไทยฟื้นตัวปี 2559 ฟื้นตัว ด้านราคาทองวายแอลจีคาดฟื้นตัวเพียงระยะสั้น แนะนำซื้อขายภายในกรอบ 1,120-1,185 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 7 ตุลาคม 58 ปิดที่ จุด เพิ่มขึ้น จุด เปลี่ยนแปลง % มูลค่าการซื้อขาย ล้านบาท โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ จุด และต่ำสุดที่ จุด

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย สรุปภาพความเคลื่อนไหวดัชนีวานนี้ปรับตัวขึ้นได้ด้วยการนำของกลุ่มพลังงาน สอดรับกับกลับมาของสินค้า Commodity อย่างราคาน้ำมันที่เริ่มฟื้นตัวแรงและต่อเนื่อง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49.54 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นผลจากผู้ค้าน้ำมันจะมีการหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำมันในสิ้นเดือนนี้ และทาง EIA ก็ได้มีการปรับลดคาดการณ์ supply ของสหรัฐฯในปีหน้าด้วย

เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ คาดว่า Fund Flow เริ่มกลับเข้ามาลงทุนในหุ้น Big Cap อันเนื่องมาจากตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ส่งผลให้ US Dollar เริ่มอ่อนค่าลง

"ดัชนีรักษาระดับ 1,380 จุด อาจมีเหวี่ยงถึง 1,385 จุด จากการปรับขึ้นของหุ้น PTT, PTTEP, PTTGC เป็นหลัก ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็น Fund Flow ไหลกลับเข้ามาซื้อในหุ้น Big Cap รวมไปถึงการซื้อหุ้นที่ถูก Short Sell ไปก่อนหน้าคืนแล้ว ซึ่งจุดนี้จะเป็นคีย์สำคัญที่ทำให้ดัชนีฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง และจะกลายเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดให้กลับขึ้นทดสอบ 1,384 และ 1,400 จุดได้ในระยะถัดไป” นักวิเคราะห์ กล่าว

ด้านนายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ คาดการณ์ว่าดัชนีมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นกลางไตรมาส 4/58 เนื่องจากเริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ขณะที่ปัจจัยในประเทศแผนการลงทุนภาครัฐ อีกทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะกลาง จะส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม ข่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ช่วยสนับสนุนให้ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้นตามโดยคาดการณ์ ดัชนีหุ้นไทยในปลายปีนี้อยู่ที่ 1,450 จุด

สำหรับหุ้นกลุ่มที่น่าลงทุน คือ กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่นกลุ่มค้าปลีก รับเหมาก่อสร้าง และด้านการท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัว ส่วนกลุ่มที่ไม่น่าลงทุน คือ น้ำมัน ธนาคารพาณิชย์ และ กลุ่มสินค้าคงทน

ขณะที่นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สรุปภาพรวมราคาทองคำตลาดโลกได้รับผลกระทบจากท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed หนักที่สุดในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการปรับตัวลดลง 19.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 1.72% ราคาทองคำมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 1,102 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,156 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้น 100 บาทต่อบาททองคำ หรือ 0.52% โดยเหวี่ยงตัวในระดับ 850 บาทต่อบาททองคำ หรือ 4.53.%จากราคาปิดในเดือนก่อนหน้าที่ 19,250 บาทต่อบาททองคำ

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือการประชุม Fed ในวันที่ 27- 28 ตุลาคม 2558 นี้โดยความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดพบว่า หากจะมีการขึ้นดอกเบี้ย Fed จะขึ้นดอกเบี้ยจากระดับ 0%-0.25% มาอยู่ที่ 0.375%นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่มีความสำคัญอีกคือเรื่อง เพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ถึงแม้จะมีการพูดคุยกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมก็ตาม เพราะสหรัฐฯมีเงินที่จะใช้จ่ายได้ถึงวันที่ 11 ธันวาคมนี้เท่านั้น เนื่องจากใกล้ถึงระดับเพดานหนี้เดิมแล้ว ซึ่งหากสหรัฐฯตกลงเรื่องเพดานหนี้ไม่ได้ก็จะเป็นการผิดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ผลเสียที่ตามมาคือการเสียเครดิต อาจทำให้เกิดการถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงได้ต่อเนื่องไปอีกนาน

นางพวรรณ์ กล่าวถึงกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเดือนตุลาคมนี้ วายแอลจีแนะนำให้ซื้อขายภายในกรอบ 1,120-1,185 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 19,300-19,750 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากขณะนี้ดอลลาร์เกิดการอ่อนค่าลงอย่างมาก ประกอบกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมาก ส่งผลให้นักลงทุนหันเข้ามาถือครองทองคำมากขึ้นในฐานะ Safe Haven หรือ สินทรัพย์ปลอดภัย ระยะชั่วคราว

“มองว่าเดือนนี้ทองคำน่าจะเป็นขาขึ้นระยะสั้นไปสักพัก จนกระทั่งเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะมีความชัดเจน ทั้งนี้แนวรับในช่วงนี้จะอยู่บริเวณ 1,120-1,130 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 19,300 -19,400 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวต้านอยู่บริเวณ 1,170 -1,185 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 19,650 -19,750บาทต่อบาททองคำ” นางพวรรณ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น