ผู้พักอาศัยสายลมคอนโดร้องศาลปกครอง สั่งระงับก่อสร้างอาคารชินวัตร 4 เหตุ ผอ.เขตพญาไท-ผู้ว่าฯ กทม. ปล่อยให้ก่อสร้างจนสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อยู่อาศัย
วานนี้ (5 ต.ค.) สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นำโดย นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในอาคารชุดสายลมคอนโดมิเนียม ซ.สายลม ถ.พหลโยธิน ซ. 8 ซึ่งได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการก่อสร้างอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 4 ของบริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) เข้ายื่นฟ้อง ผู้อำนวยการเขตพญาไท, ผู้อำนวยการสำนักการโยธา และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3
โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ทางบริษัทฯได้เริ่มก่อสร้างอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 4 เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ สูง 24 ชั้น เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยการก่อสร้างได้มีการใช้อุปกรณ์ก่อสร้าง และเครื่องกลหนักเข้าดำเนินการ มีการขุดดิน ตอกเสาเข็มขนาดความลึก 40-60 เมตร เสียบปลอกเหล็กเพื่อทำเข็มเจาะที่ไม่เป็นไปตามหลักการป้องกันและหลักวิชาการวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2526) ออกตามความ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ระยะเวลาการทำงานในแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่ 06.00-22.00 น. ซึ่งถือว่าเกินกว่าเวลาที่กำหนด ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง เขม่า เสียงดังเกินมาตรฐาน ซึ่งที่ผ่านมา นิติบุคคลฯ ของคอนโดมิเนียมได้พยายามเจรจากับบริษัทผู้ก่อสร้าง แต่ก็ไม่มีการแก้ไขปรับปรุง และแม้จะมีการตกลงเยียวยาความเสียหาย แต่ก็จะประวิงเวลาไปเรื่อยๆ
เมื่อผู้เดือดร้อน มีการร้องเรียนไปยัง ผอ.เขตพญาไท ผอ.สำนักโยธา และผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ก็เพิกเฉยต่อกรณีดังกล่าว จึงขอให้ศาล มีคำสั่ง หรือพิพากษาอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ผู้ถูกฟ้องคดีร่วมกันรับผิดชอบในผลแห่งความละเมิด รวมทั้งบังคับให้ผู้ประกอบการ หรือผู้ก่อสร้างอาคารชินวัตร 4 ดังกล่าว ชดเชยค่าสินไหมทดแทน หรือค่าเสียหายทั้งหมดมูลค่ากว่า 20 ล้าน ให้กับเจ้าของห้องชุด และนิติบุคคล อาคารสายลมคอนโดมิเนียม ในฐานละเมิด และฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการก่อสร้างและสิ่งแวดล้อมต่อไป
ด้านน.ส. พัชรินทร์ หาญวงษ์บูรณา กรรมการนิติบุคคลอาคารชุดสายลมฯ กล่าวว่า อาคารชุดสายลมฯ เป็นอาคารขนาด 7 ชั้น มีทั้งหมด 150 ห้อง มีอายุการก่อสร้างมาแล้ว 20 ปี ก่อนจะมีการก่อสร้างอาคารชินวัตร ทุกครอบครัวอยู่กันอย่างปกติสุข แต่เมื่อปลายปี 57 เริ่มก่อสร้างโดยมีการเกลี่ยหน้าดิน ผู้พักอาศัยก็เริ่มป่วย คนที่มีอาการภูมิแพ้อยู่ อาการก็กำเริบถึงขั้นเสียชีวิต ปัจจุบันผลจากการก่อสร้าง ทำให้เกิดผนังอาคาร ผนังห้องชุดเกิดการหลุดร่อน แตกร้าว มีรอยรั่วซึมของระบบน้ำในท่อประปา และเมื่อเดือนพ.ค. ทางโครงการก็มีการลากสายไฟจากเสาไฟฟ้าแรงสูงมาทำการตอกน็อตติดพุกยึดติดต่อกำแพงรั้วของอาคารชุดสายลมฯ โดยไม่มีการขออนุญาตจากคอนโด เพื่อทำการต่อสายไฟฟ้าสำหรับใช้ไฟฟ้าในโครงการก่อสร้างของตนเอง
สำหรับอาคารชินวัตร 4 เป็นอาคารสำนักงานแห่งใหม่ที่ทาง SC อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 59 และเปิดจองพื้นที่ต้นปี 2560
วานนี้ (5 ต.ค.) สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นำโดย นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในอาคารชุดสายลมคอนโดมิเนียม ซ.สายลม ถ.พหลโยธิน ซ. 8 ซึ่งได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการก่อสร้างอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 4 ของบริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) เข้ายื่นฟ้อง ผู้อำนวยการเขตพญาไท, ผู้อำนวยการสำนักการโยธา และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3
โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ทางบริษัทฯได้เริ่มก่อสร้างอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 4 เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ สูง 24 ชั้น เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยการก่อสร้างได้มีการใช้อุปกรณ์ก่อสร้าง และเครื่องกลหนักเข้าดำเนินการ มีการขุดดิน ตอกเสาเข็มขนาดความลึก 40-60 เมตร เสียบปลอกเหล็กเพื่อทำเข็มเจาะที่ไม่เป็นไปตามหลักการป้องกันและหลักวิชาการวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อม เข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2526) ออกตามความ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ระยะเวลาการทำงานในแต่ละวัน เริ่มตั้งแต่ 06.00-22.00 น. ซึ่งถือว่าเกินกว่าเวลาที่กำหนด ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง เขม่า เสียงดังเกินมาตรฐาน ซึ่งที่ผ่านมา นิติบุคคลฯ ของคอนโดมิเนียมได้พยายามเจรจากับบริษัทผู้ก่อสร้าง แต่ก็ไม่มีการแก้ไขปรับปรุง และแม้จะมีการตกลงเยียวยาความเสียหาย แต่ก็จะประวิงเวลาไปเรื่อยๆ
เมื่อผู้เดือดร้อน มีการร้องเรียนไปยัง ผอ.เขตพญาไท ผอ.สำนักโยธา และผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ก็เพิกเฉยต่อกรณีดังกล่าว จึงขอให้ศาล มีคำสั่ง หรือพิพากษาอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ผู้ถูกฟ้องคดีร่วมกันรับผิดชอบในผลแห่งความละเมิด รวมทั้งบังคับให้ผู้ประกอบการ หรือผู้ก่อสร้างอาคารชินวัตร 4 ดังกล่าว ชดเชยค่าสินไหมทดแทน หรือค่าเสียหายทั้งหมดมูลค่ากว่า 20 ล้าน ให้กับเจ้าของห้องชุด และนิติบุคคล อาคารสายลมคอนโดมิเนียม ในฐานละเมิด และฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการก่อสร้างและสิ่งแวดล้อมต่อไป
ด้านน.ส. พัชรินทร์ หาญวงษ์บูรณา กรรมการนิติบุคคลอาคารชุดสายลมฯ กล่าวว่า อาคารชุดสายลมฯ เป็นอาคารขนาด 7 ชั้น มีทั้งหมด 150 ห้อง มีอายุการก่อสร้างมาแล้ว 20 ปี ก่อนจะมีการก่อสร้างอาคารชินวัตร ทุกครอบครัวอยู่กันอย่างปกติสุข แต่เมื่อปลายปี 57 เริ่มก่อสร้างโดยมีการเกลี่ยหน้าดิน ผู้พักอาศัยก็เริ่มป่วย คนที่มีอาการภูมิแพ้อยู่ อาการก็กำเริบถึงขั้นเสียชีวิต ปัจจุบันผลจากการก่อสร้าง ทำให้เกิดผนังอาคาร ผนังห้องชุดเกิดการหลุดร่อน แตกร้าว มีรอยรั่วซึมของระบบน้ำในท่อประปา และเมื่อเดือนพ.ค. ทางโครงการก็มีการลากสายไฟจากเสาไฟฟ้าแรงสูงมาทำการตอกน็อตติดพุกยึดติดต่อกำแพงรั้วของอาคารชุดสายลมฯ โดยไม่มีการขออนุญาตจากคอนโด เพื่อทำการต่อสายไฟฟ้าสำหรับใช้ไฟฟ้าในโครงการก่อสร้างของตนเอง
สำหรับอาคารชินวัตร 4 เป็นอาคารสำนักงานแห่งใหม่ที่ทาง SC อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 59 และเปิดจองพื้นที่ต้นปี 2560
