ASTVผู้จัดการรายวัน-ทนาย "อาเดม" ยันผู้ต้องหายอมรับเป็นผู้นำระเบิดไปวางที่ราชประสงค์จริง พร้อมซัดทอด "อับดุลเลาะห์" เป็นคนสั่งการ "จักรทิพย์"เผยซุกบึ้มอาจโยง 3 จังหวัดใต้ สั่งเร่งสอบขยายผล "ศรีวราห์"จัดชุดไล่ล่า "ไอ้อ๊อด" ยันไม่พบข้อมูลเผ่นออกนอกประเทศ ตามแกะรอยผ่านลูกชาย ลูกสาว และแม่ "ประวิตร"สั่งเพิ่ม รปภ. ศาลทหาร หลังพบมีแขกข่าวโผล่ "ถาวร"เชื่อคดีนี้โยงกลุ่มการเมืองแน่ ซัด "ตู่-เต้น" รีบปัดพ้นตัว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่า การทำงานคลี่คลายคดีดังกล่าวนับจากนี้ไป จะใช้ชุดทำงานชุดเดิม รวมทั้ง พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ที่มา รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดปัจจุบันที่ทำคดีนี้อยู่ มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจการทำงานเป็นอย่างดีอยู่แล้ว จึงสามารถเดินหน้าทำคดีต่อไปได้ทันทีไม่มีปัญหาแน่นอน
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีอะไรออกมาเพิ่มเติมในคดีระเบิดอีกหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนตระหนักดีว่าตำแหน่ง ผบ.ตร. เป็นตำแหน่งที่มีความท้าทายมาก จึงต้องทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว
ถามต่อว่าผู้ต้องหาอีก 15 คนที่เหลือในขบวนการนี้ คาดว่าจะได้ตัวเพิ่มหรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องหาในคดีระเบิดหรือคดีทั่วไป ตนก็ต้องดำเนินการติดตามจับกุมให้ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง
เมื่อถามถึงความมั่นใจในการดำเนินคดีต่อนายอ๊อด พยุงวงศ์ , น.ส.วรรณา สวนสัน และนายซูแบร์ ผู้ต้องหาตัวการสำคัญในขบวนการนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน หากไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ศาลคงไม่ออกหมายจับอยู่แล้ว ส่วนการทำงานของชุดสืบสวนสอบสวน ตนเชื่อในประสบการณ์และความละเอียดรอบคอบของ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ผบช.น.อยู่แล้ว
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ลักษณะระเบิดที่ใช้ก่อเหตุที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ที่มีการระบุว่าใส่ในหม้อแขก (หม้อลักษณะเฉพาะไม่มีหูจับด้านข้าง) นั้น จากประสบการณ์ที่ทำงานด้านความมั่นคงมา ระเบิดลักษณะนี้ ถูกนำมาใช้น้อยครั้งมาก โดยเป็นความถนัดของผู้ก่อเหตุแต่ละพื้นที่ เรียกว่าเป็นลายเซ็นของแต่ละกลุ่ม เช่น การตัดสติกเกอร์บางคนถอดออก บางคนฉีกเลย เป็นต้น เหล่านี้จะมีความแตกต่างกับเหตุการณ์อื่นๆ จึงอาจจะนำไปสู่การค้นหาตัวผู้ต้องหาได้
ขณะที่กรณีการพบฝักแคระเบิดที่ใช้เป็นตัวจุดชนวนระเบิดครั้งนี้นั้น เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบติดตามอยู่ โดยจะนำเหตุการณ์ที่มีลักษณะคล้ายกันมาตรวจสอบ ที่ผ่านมา เคยพบว่ามีบางกลุ่มเคยใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ ในการก่อเหตุบริเวณพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เช่นกัน ต้องตรวจสอบและขยายผลไปถึงกลุ่มนี้ เมื่อหลักฐานโยงไปถึง โดยที่ผ่านมา ก็ตรวจสอบไปที่จังหวัดภาคใต้โดยตลอด หากไปถึงใครก็ออกหมายจับ
***ยังไม่ฟันธง "อาเดม"เป็นชาวอุยกูร์
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล ผบช.น. กล่าวว่า ได้มีการเรียกประชุมชุดทำงานทุกชุดเพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี ซึ่งหลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องดูหลักฐานว่าพาดพิงถึงใคร ก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย
ส่วนการที่นายชูชาติ กันภัย ทนายความของนายอาเดม คาราดัค หรือนายบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ยืนยันว่านายอาเดม ไม่ใช่ชาวตุรกี แต่เป็นชาวอุยกูร์ ตนยังไม่เห็นมีหลักฐานอะไรมายืนยันได้ เป็นเพียงคำให้การของผู้ต้องหาเท่านั้น และกรณีทนายความบอกว่านายอาเดม ไม่รู้จักกับนายอ๊อด ก็ให้เขามาให้การกับตำรวจ หากจะเรียกร้องอะไรก็มาให้การกับพนักงานสอบสวน
***ผบช.น. จัดชุดไล่ล่า "ไอ้อ๊อด"
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว มีคดีติดตัว 9 ข้อหา แต่ไม่มีเลขบัตรประชน 13 หลัก และไม่ทราบตัวบุคคล พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ทราบตัวบุคคล เพราะเคยถูกจับกุม แต่ในชั้นตำรวจ ถ้าไม่มีบัตรประชาชนก็ปรับ เพราะอำนาจตำรวจมีแค่นั้น ซึ่งทางตำรวจตรวจสอบหมดไม่ว่าจะเป็นในเรือนจำ ก็ไม่พบตัวของนายอ๊อด โดยนายอ๊อดเคยถูกฟ้องศาลดำเนินคดี 9 คดี ส่วนคดีที่ออกหมายจับไปยังไม่ได้ส่งฟ้องศาล เพราะยังจับไม่ได้
ทั้งนี้ นายอ๊อด มีความเชื่อมโยงกับ น.ส.วรรณา สวนสัน คือ ร่วมกันดำเนินการ ปรากฎรายละเอียดตามหมายจับ ส่วนข้อมูลที่บอกว่านายอ๊อดเป็นการ์ดเสื้อแดง เป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวน ตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินปี 53 เจ้าหน้าที่ตำรวจมีภาพใบหน้าที่ชัดเจนของนายอ๊อด แต่ไม่สามารถเผยแพร่ได้ ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้ตำรวจชุดจับกุมที่เคยจับนายอ๊อด 4 ชุด ไปตามจับตัวมาให้ได้ เพื่อไม่ให้ผิดตัว อย่างไรก็ตาม ตนได้ส่งภาพของนายอ๊อด ไปที่ ทว. ประกาศสืบจับแล้ว
***ยังไม่พบข้อมูลหนีออกไปต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่านายอ๊อด มีศักยภาพแค่ไหน หรือเป็นแค่คนจัดหาอุปกรณ์ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า เขาถูกคดีมาตั้ง 9 คดี ปี 57 ยังถูกออกหมายจับเรื่องมีวัตถุระเบิดอีก โดยยังไม่พบข้อมูลการเดินทางออกนอกประเทศ เพราะเลข 13 หลักยังตรวจสอบไม่ได้ แต่ถามว่านายอ๊อดมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ ก็มีอยู่จริง อย่างไรก็ตาม จะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานแต่ไม่สามารถตัดประเด็นใดทิ้งได้
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่นและระเบิดพื้นที่ สน.มีนบุรี นายอ๊อด มีความเกี่ยวข้องอย่างไร พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า นายอ๊อด ถูกออกหมายจับที่มีนบุรี ที่เดียว แต่เป็นกลุ่มเดียวกับผู้ต้องหาที่สมานเมตตาแมนชั่น โดยมีนายกษิ ดิฐธนรัชต์ เป็นหัวหน้า
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณี น.ส.วรรณา กระทรวงต่างประเทศ ยังไม่ได้รับเรื่องการยกเลิกหนังสือเดินทาง ตำรวจได้มีการส่งเรื่องไปแล้วหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ตนส่งเรื่องไปนานมากแล้ว โดยรายงานผ่านผู้บังคับบัญชา บช.น. ไม่ใช่นิติบุคคล ซึ่งเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
***เผย "ไอ้อ๊อด"เคยต้องโทษ9คดี
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 ฐานะรองโฆษก บช.น. กล่าวว่า สำหรับพยานหลักฐานในการขอออกหมายจับนายอ๊อด ได้มีการนำหลักฐานจากการสอบปากคำพยานแวดล้อมว่าเคยเห็นนายอ๊อดมาพบปะกับน.ส.วรรณา ที่ไมมูณาการ์เด้นโฮม ไปขออนุมัติออกหมายจับ เนื่องจากไม่มีหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับประวัตินายอ๊อด ที่เคยต้องโทษ 9 คดี ได้แก่ ปี 55 คดีพนันฟุตบอล ปี 56 คดีพนันยี่กี โดยนายอ๊อดเคยมีภรรยา 1 คน ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคเอดส์ และยังมีลูกสาวอีก 1 คน ซึ่งชุดสืบสวนจะเร่งติดตามตัวมาสอบถามหาตัวนายอ๊อดว่าไปกบดานอยู่ที่ใดต่อไป
***"อาเดม"รับคนชื่อ “อับดุลเลาะห์” สั่งการ
นายชูชาติ กันภัย ทนายความได้เข้าเยี่ยมนายอาเดม คาราดัก หรือบิลาเติร์ก มูฮัมหมัด ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดแยกราชประสงค์ ที่มณฑลทหารบกที่ 11 นานกว่า 3 ชั่วโมง
นายชูชาติ กล่าวว่า การเข้าเยี่ยมครั้งนี้ ได้พูดคุยกับนายอาเดม ซึ่งได้ข้อยุติว่ายอมรับสารภาพอย่างเต็มใจว่าเป็นผู้นำระเบิดไปวางที่บริเวณรั้วศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ โดยมูลเหตุจุงใจ ทำตามนายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน ที่เป็นผู้สั่งการให้ไปวางกระเป๋า แต่ไม่รับค่าจ้าง แต่ไม่ได้บอกว่าสาเหตุใดถึงการทำตาม โดยเข้ามาในประเทศไทยก่อนวันที่ 17 ส.ค. และเป็นผู้สวมเสื้อสีเทาที่มีข้อความว่าไอเลิฟไทยแลนด์ และไม่เคยรู้จัก นายยูซูฟูมาก่อน
โดยนายอาเดมเล่าว่า มีเชื้อชาติอุยกูร์ แต่ไม่มีหนังสือเดินทางของประเทศตุรกีกับประเทศจีน โดยนายอาเดมเกิดในประเทศตุรกี ก่อนที่จะมาอยู่ที่อุรุมฉี ทางตอนเหนือของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่วนที่เข้ามาในประเทศไทย เพื่อจะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย โดยมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นตั้งแต่อยู่ในจีน 1,200 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเดินทางมาที่เวียนาม โดยเสียอีก 200 ดอลลาร์ และมาที่ประเทศลาวเสียอีก 600 ดอลลาร์ จนเข้ามาที่ประเทศไทย ก่อนที่จะมาอยู่ที่พูลอนันต์อพาร์ทเมนต์ ถนนเชื่อมสัมพันธ์ 11 ที่ห้อง 414 ซึ่งเคยเข้าไปพบนายอับดุลเลาะห์ที่ห้อง 412 เพียงแค่ครั้งเดียว
***ปัดไม่เกี่ยวเคยทำคดีให้คนเสื้อแดง
นายชูชาติกล่าวอีกว่า จากการที่พบนายอาเดมในวันนี้ดูมีรูปร่างที่ผอมลง ผิดกับครั้งที่เคยเจอ เนื่องการอยู่ในช่วงถือศีลอด โดยก่อนหน้านี้ถือศีลอดไม่ครบกำหนด จึงทำให้ต้องชดเชยวัน จากการพูดคุยนายอาเดมก็มีท่าทีผ่อนคลาย โดยใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร นายอาเดมสามารถสื่อสารได้เพียงภาษาอังกฤษแค่ขั้นพื้นฐานเท่านั้น มีการร้องขอล่ามภาษาอุยกูร์เพื่อให้ติดต่อญาติที่อยู่ในประเทศตุรกี หลังจากนี้จะทำการแจ้งต่อทางพนักงานสอบสวนเพื่อขอล่ามภาษาอุยกูร์มาร่วมสอบถามข้อมูลต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่มาเป็นทนายนายอาเดม จะทำให้ถูกเชื่อมโยงกับกรณีที่เคยเป็นทนายให้คนเสื้อแดงหรือไม่ นายชูชาติกล่าวว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน และไม่อยากนำประเด็นนี้มาเกี่ยวข้อง เพราะจะทำให้สังคมแตกแยก ที่ตนมาทำคดีนี้ เพราะว่าเคยทำคดีให้กับชาวตุรกีมาก่อน ซึ่งได้รับการไว้วางใจจากนายอาเดม และศาลยังอนุญาตให้เป็นทนายแต่งตั้ง ส่วนชื่ออาเดมหรือชื่อบีลา อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะที่ประเทศจีนและประเทศตุรกีมีชื่อนี้ซ้ำกันหลายชื่อ
***"บิ๊กป้อม"ยันหลักฐานชัด"อ๊อด"เอี่ยวบึ้ม
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการยังจับไม่ได้อีกหลายคน โดยเฉพาะนายอ๊อด หรือนายยงยุทธ์ พบแก้ว ยังจับไม่ได้ ซึ่งชัดเจนว่า มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด เป็นพยานหลักฐานสำคัญ ซึ่งก็ต้องว่ากันไป ตอนนี้จับคนวางระเบิดได้ มีความชัดเจนในระดับหนึ่ง ถือว่าโอเคแล้ว หลักฐานแน่นหนา
เมื่อถามว่า ชัดเจนอย่างนี้สามารถส่งฟ้องได้เลยไหม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าทางตำรวจก็ต้องดูหลักฐานก่อน ถ้าฟ้องได้ ก็ฟ้องเลย
***สั่งเข้มงวดเข้าออกศาลทหาร
เมื่อถามว่า ในคลิปภาพวงจรปิดก่อนหน้านี้ ปรากฎชายต้องสงสัยต่างชาติแขกขาวไปเดินที่ศาลทหาร พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ตัวสูงๆ เหมือนกัน แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร กำลังตามอยู่ ไม่รู้ว่าขึ้นไปที่ศาลทหารทำไม ปกติก็ไม่น่าขึ้น เพราะมันไม่มีอะไรอยู่แล้ว กำลังติดตามตัวอยู่ โดยปกติศาลทหาร ก็ไม่เปิดให้คนนอกเข้าไปอยู่แล้ว ต่อไปก็ต้องเข้มงวด ได้กำชับปลัดกระทรวงกลาโหมแล้ว ต้องดูแลเข้มงวดมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านตำแหน่งทางราชการ งานด้านความมั่นคงเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ห่วงเลย เพราะข้าราชการ นักการเมือง และประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ประเทศไทยตอนนี้อยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน กำลังทำตามโรดแมปที่วางไว้อยู่ ถ้าบ้านเมืองสงบ เศรษฐกิจเดินได้ ประเทศก็ไปได้ ซึ่งนายกฯ ก็ได้ชี้แจงกับเลขาธิการสหประชาชาติแล้วว่า ทุกอย่างก็จะเดินไปตามโรดแมป กลางปี 60 จะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
***เชื่อคดีนี้โยงกลุ่มการเมืองแน่
นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์เกี่ยวข้องกับนายอ๊อด ที่ยังหลบหนีคดีว่า ชัดเจนว่าเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคนไทย ที่โยงถึงกลุ่มการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง จึงขอฝากให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. คนใหม่ ที่จะเข้ารับหน้าที่ ขอให้เร่งรัดเจ้าหน้าที่ในการจับกุมนายอ๊อด ให้ได้เร็วที่สุด เพราะเป็นกุญแจสำคัญที่จะเชื่อมโยงถึงผู้ว่าจ้างที่อยู่เบื้องหลัง
"ขอให้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และครบถ้วน โดยขอให้ดูถึงสำนวนคดีและเหตุระเบิดที่เคยเกิดขึ้นในหลายที่ตลอด4-5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เหตุเสื้อแดงประกอบระเบิดที่ สมานเมตตา แมนชั่น ที่บางบัวทอง กรณีประกอบระเบิด และระเบิดจนตัวขาด ที่เขตมีนบุรี รวมถึงกรณีการวางระเบิดตามจุดต่างๆ และการปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่แยกเจริญผล บรรทัดทอง และที่อนุเสารีย์ชัย กรณีการจับกุมชาย 2 หญิง 1 พร้อมระเบิดและอาวุธปืน ที่สี่แยกบางนา ในคืนที่มีการปาระเบิดใส่บ้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ การวางระเบิดทางเชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า กับทางเข้าห้างพารากอน การวางระเบิดที่ลานจอดรถห้างเซ็นทรัล เฟลติวัล ที่ เกาะสมุย และการขว้างระเบิดที่หน้าศาลอาญา" นายถาวรกล่าว
นายถาวร กล่าวว่า ทุกกลุ่มที่ลงมือปฏิบัติเหล่านี้ มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กับผู้ว่าจ้าง ให้เงิน สั่งการ และเป็นปกติที่จะใช้การสั่งการหลายทอดเป็นชั้นๆ ไป จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน การใช้โทรศัพท์ติดต่อสื่อสาร ก็จะพบความเชื่อมโยงของการสังกัดกลุ่มของผู้ลงมือปฏิบัติในกรณีต่างๆ ว่าเชื่อมโยงกับใคร ฝ่ายใด ถือเป็นหน้าที่หลักที่ต้องเรียกความเชื่อมั่น ภาพลักษณ์ และศรัทธาของสังคม จึงขอฝาก ผบ.ตร.คนใหม่ ให้เร่งดำเนินให้กระจ่างโดยเร็ว
*** อัด"ตู่-เต้น"รีบปัดพ้นตัวแต่สังคมไม่เชื่อ
นายถาวร กล่าวว่า กรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานแนวร่วมต่อต้านประชาธิปไตยแห่งชาติ (นปช.) และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักนายอ๊อดนั้น จะพูดอย่างไรก็ได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าสังคม หรือประชาชน จะเชื่อถือหรือไม่ เหมือนที่เคยบอกว่าเป็นแดงเทียม
"ใครจะพูดอย่างไรก็ได้ แม้แต่จำเลยในศาล เข้าสู่กระบวนการสาบานตนแล้วให้การต่อศาล ก็ยังให้การเท็จมีมากมาย เพราะคนบงการสั่งฆ่าประชาชนมาเป็นพันคน กับคนเพียงไม่กี่สิบคน ให้คิดเทียบเคียงเอาเอง หรือที่คนบางคนก้มกราบแผ่นดินแม่ แต่ก็ยังทำร้ายแผ่นดินแม่ได้ทุกวันนี้" นายถาวร กล่าว
***ตร.ตามแกะรอยลูกชายลูกสาวและแม่
พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.ตลาดพลู กล่าวว่า หลังมีการออกหมายจับนายอ๊อด ข้อมูลเบื้องต้นที่ตำรวจได้มา ได้แยกเป็น 3 ส่วน คือ ลูกชายนายอ๊อด ลูกสาวนายอ๊อด และแม่นายอ๊อด หรือนางอนงค์ พันแก้ว โดยลูกชายนายอ๊อด หรือนายวุฒิภัทร หรือบอล อยู่ที่ อ.กระทุ่มแบน และผู้ใหญ่บ้าน ยืนยันว่าเป็นลูกชายที่ติดกับภรรยาเก่ามา ไม่ใช่ลูกชายนายอ๊อด ซึ่งนายอ๊อดได้รับภรรยามาอยู่ด้วยและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน หลังจากมีลูกสาวได้พักอาศัยอยู่ทีร้านเสริมสวยย่านพญาไท ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งในระยะเวลานั้น นายอ๊อดไม่สามารถเลี้ยงลูกสาวได้ ภรรยานายอ๊อด ได้พาบุตรสาวไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากการสืบสวนลูกสาวตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ขณะนี้อายุ 16 ขวบ มีคนรับไปเลี้ยงดู เป็นชาวออสเตเรีย ส่วนแม่ของนายอ๊อด อาศัยอยู่ที่บ้านพักคนชรา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งฝ่ายสืบสวนได้เดินทางไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนายอ๊อดว่าอาจจะมีบางช่วงที่ทำบัตรประชาชนไว้ แต่ไม่มีใครทราบ
สำหรับประวัตินายอ๊อด ที่เคยต้องโทษ 9 คดี ในพื้นที่ สน.ตลาดพลู 2 คดี คือ ปี 55 คดีพนันฟุตบอล ปี 56 คดีพนันยี่กี ซึ่งทุกครั้งที่ถูกจับนายอ๊อด จะให้บ้านเลขที่หนึ่งไว้ในทะเบียนประวัติอาชญากรรม รวมถึงให้กับราชทัณฑ์ด้วย ซึ่งในบ้านหลังนี้มีคนอยู่ประมาณ 27 คน โดยตำรวจร่วมกับทหารจะได้เข้าทำการตรวจสอบว่าคนในบ้านรู้จักกับนายอ๊อดหรือไม่
***ถูกจับเมื่อปี53ก่อนหายตัวไป
พ.ต.อ.ชณาวิน พวงเพชร ผกก.สน.พญาไท กล่าวว่า สำหรับคดีสุดท้ายที่นายอ๊อด หายตัวไป เบื้องต้นเคยถูกจับกุมเมื่อปี 53 ในพื้นที่ สน.พญาไท บริเวณซอยเพชรบุรี โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้จับกุม เนื่องจากตั้งด่านและแจ้งว่าจะเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม ทหารจึงจับกุมและแจ้งข้อหาเรื่องห้ามไม่ให้นำพาบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเข้ามาเพื่อร่วมกันชุมนุมตาม พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งศาลแขวงดุสิต สั่งพิพากษาจำคุก 1 ปี เมื่อ 21 พ.ค.2553 นายอ๊อดประกันตัวระหว่างรออุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 1 เดือน ปรับ 1 พันบาท โทษจำรอ 1 ปี เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ก่อนจะอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุก 1 ปี ก่อนจะขอประกันตัวได้ถูกนำไปจำคุกที่เรือนจำพิเศษคลองเปรม 3 วัน ผลการตรวจสอบ ระหว่างที่ต้องขังอยู่ ก็ไม่พบเลข 13 หลัก และไม่ทราบตัวว่าอยู่ที่ไหน เนื่องจากนายอ๊อดหลบหนีประกันในชั้นอุทธรณ์ ไม่มา รายงานตัว
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าลักษณะการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายอ๊อด พอจะบอกข้อมูลได้หรือไม่ พ.ต.อ.ชณาวิน กล่าวว่า มีปรากฏในคำให้การของผู้กล่าวหาบอกว่า พอห้ามไม่ให้เข้าพื้นที่การชุมนุม นายอ๊อดยืนยันว่าจะเข้าทางผู้กล่าวหา หรือ ร.ต.ศานิตย์ สวยสด ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก (ยศในขณะนั้น) สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ บอกว่าจำหน้านายอ๊อดได้ เนื่องจากผู้บังคับบัญชาได้แจกภาพการ์ด นปช.ไว้ให้ ซึ่งมีภาพของนายอ๊อด รวมอยู่ด้วย ผู้กล่าวหายืนยันว่าเป็นการ์ด นปช. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553
***ไม่มีใครในบ้านรู้จัก
รายงานข่าวแจ้งว่า ทุกครั้งที่นายอ๊อดถูกจับกุม มักจะให้ที่อยู่เป็นบ้านเลขที่ เลขที่ 44/4 หมู่ 4 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยหลังจากที่ตำรวจและทหารไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ผู้ที่อาศัยอยู่ไม่มีใครรู้จักกับนายอ๊อด และไม่ทราบว่าชื่อนายอ๊อด เข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านได้อย่างไร
***เปิดข้อมูลประวัตินายอ๊อด
มีรายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติเมื่อวันที่ 20ก.ย. ที่ผ่านมา ของนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ นายยงยุทธ พบแก้ว หมายเลขบัญชีประวัติ 420021197 ซึ่งได้ตรวจสอบตามสารระบบพิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว ปรากฎว่าบุคคลดังกล่าวมีประวัติเก็บอยู่ในสารบบพิมพ์ลายนิ้วมือและฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ของ ทว. จำนวน 8 รายการ ประกอบด้วย
รายการที่ 1 ชื่อยงยุทธ พบแก้ว พื้นที่ สน.ดินแดง บก.น.1 ถูกจับกุมและพิมพ์มือ เมื่อวันที่ 23พ.ย.2539 เลขคดีที่ ป.จ.ว.ข้อ2213/2539 ข้อหาสูดดมสารระเหย , รายการที่ 2 ชื่อยงยุทธ พบแก้ว พื้นที่สน.ดินแดง บก.น.1 ถูกจับกุมและพิมพ์มือ เมื่อวันที่ 21ม.ค.2540 เลขคดีที่ ป.จ.ว.ข้อ150/2540 ข้อหาสูดดมสารระเหย , รายการที่ 3 ชื่ออ๊อด พยุงวงศ์ พื้นที่สน.พญาไท บก.น.1 ถูกจับกุมและพิมพ์มือ เมื่อวันที่ 16มี.ค.2542 เลขคดีที่ ป.จ.ว.613/2542 ข้อหามียาบ้า , รายการที่ 4 ชื่ออ๊อด พยุงวงศ์ พื้นที่สภ.เขาย้อน บก.ภ.จว.เพชรบุรี ถูกจับกุมและพิมพ์มือ เมื่อวันที่ 3เม.ย.2543 เลขคดีที่ ป.จ.ว.136/2543 ข้อหาเสพยาบ้า , รายการที่ 5 ชื่ออ๊อด พยุงวงศ์ พื้นที่สน.พญาไท บก.น.1 ถูกจับกุมและพิมพ์มือ เมื่อวันที่ 28มิ.ย.2554 เลขคดีป.จ.ว.1564/2554 ข้อหามียาบ้า , รายการที่ 6 ชื่ออ๊อด พยุงวงศ์ พื้นที่ สน.พญาไท บก.น.1 ถูกจับกุมและพิมพ์มือ เมื่อวันที่ 19พ.ค.2553 เลขคดีที่ป.จ.ว.698/2553 ข้อหาผ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน , รายการที่7 ชื่ออ๊อด พยุงวงศ์ พื้นที่ สภ.ลำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ บก.ภ.จว.สมุทรปราการ ถูกจับกุมและพิมพ์มือ เมื่อวันที่ 22มิ.ย.2554 เลขคดีที่ป.จ.ว.2672/2554 ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และรายการที่ 8 ชื่ออ๊อด พยุงวงศ์ พื้นที่สน.ตลาดพลู บก.น.8 ถูกจับกุมและพิมพ์มือ เมื่อวันที่ 12ก.ย.2555 เลขคดีที่ป.จ.ว.589/2555 ข้อหาเล่นการพนันจับยี่กี ผลคดีปรับ 1,200 บาท ศาลแขวงธนบุรี วันพิพากษา 13ก.ย.2555 คดีที่ 9094/5 คดีแดงที่ 9155/5 โดยคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ราชประสงค์และท่าเรือสาทร
ทั้งนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ารายการประวัติการต้องหาคดีอาญา กับพ.ร.บ.ล้างมลทินฯ พ.ศ.2550 ก่อน หรือว่าเข้าข่ายได้รับการล้างมลทินฯ แล้วหรือไม่