เจ้าหน้าที่ระบุในวันพฤหัสบดี (24 ก.ย.) ว่าเกิดเหตุผู้แสวงบุญชาวมุสลิมเหยียบกันตายอย่างน้อย 310 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 450 ราย ในระหว่างการทำพิธีฮัจญ์ที่ซาอุดีอาระเบีย ด้านรมต.กระทรวงวัฒนธรรม ยืนยัน เบื้องต้นยังไม่พบผู้แสวงบุญคนไทยเสียชีวิตในเหตุเหยียบกันใกล้เมืองมักกะฮ์
วานนี้ (24 ก.ย.) ได้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมในระหว่างผู้แสวงบุญชาวมุสลิม กำลังประกอบพิธีขว้างปาก้อนหินใส่เสาหิน 3 ต้น ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของปิศาจ ร้ายภายในบริเวณทุ่งมีนาในพิธีกรรมสุดท้ายของพิธีฮัจญ์ ที่ในนครมักกะฮ์(เมกกะ) ประเทศซาอุดีอาระเบียวันนี้ ซึ่งตรงกับเทศกาลอิดี้ล อัฎฮา ทางทีมกู้ภัยที่มีอยู่กว่า4,000 คน พร้อมรถพยาบาลกว่า 220 คัน เร่งช่วยเหลือผู้แสวงบุญที่บาดเจ็บไปส่งยังโรงพยาบาล 4 แห่ง
เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วเบื้องต้น 220 คนและผู้บาดเจ็บอีก 450 คน ทั้งนี้มีคนไทยที่ไปร่วมพิธีทั้งหมด 14,000 คน จากทั่วโลก 1,700,000 คน แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ ชาวมุสลิมเชื่อว่าพิธีฮัจญ์นั้นคือ 1 ใน 5 เสาหลักแห่งอิสลาม ที่ชาวมุสลิมทุกคนควรจะไปร่วมพิธีนี้ให้ได้อย่างน้อยสักครั้งในชีวิต โดย โศกนาฏกรรมล่าสุดเพิ่งเกิดเหตุเครนก่อสร้างพังถล่มในมัสยิดแกรนด์ของนครเมกกะทำให้มีผู้เสียชีวิต 109 คนเมื่อ 11 ก.ย. และเคยเกิดเหตุสลดในลักษณะเดียวกันทั้งการเหยียบกันตาย เหตุจลาจลหรือแม้กระทั่งเหตุเพลิงไหม้ระหว่างการประกอบพิธีฮัจญ์มาแล้ว โดยเมื่อปี 2543 เคยเกิดเหตุเหยียบกันตายเช่นเดียวกัน ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 364 ศพ
ทางการซาอุดิอาระเบียระบุว่า ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 717 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 805 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะที่นักแสวงบุญกำลังทำพิธีขว้างเสาหิน หนึ่งในกระบวนการประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปีในเมืองมีนา ห่างจากนครเมกกะ 5 กม.
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ขณะนั้อยู่ระหว่างการประสานงานกับสำนักงานกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย เพื่อตรวจสอบว่าจะมีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานสถานการณ์เบื้องต้นจาก นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา ที่ได้สอบถามไปยังสำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ณ เมืองมักกะฮ์ พบว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นพื้นที่ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์แต่อย่างใด และยังไม่มีรายงานผู้แสวงบุญคนไทยเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้อธิบดีกรมการศาสนา ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้แสวงบุญชาวไทยมารายงานเป็นระยะ รวมไปถึงความคืบหน้าการแถลงข่าวของศูนย์ข้อมูลข่าวสารกิจการฮัจย์ ณ เมืองมักกะฮ์ มาทางประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งทาง วธ. จะรายงานเรื่องนี้ให้ประชาชนและสื่อมวลชนต่อไป
วานนี้ (24 ก.ย.) ได้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมในระหว่างผู้แสวงบุญชาวมุสลิม กำลังประกอบพิธีขว้างปาก้อนหินใส่เสาหิน 3 ต้น ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของปิศาจ ร้ายภายในบริเวณทุ่งมีนาในพิธีกรรมสุดท้ายของพิธีฮัจญ์ ที่ในนครมักกะฮ์(เมกกะ) ประเทศซาอุดีอาระเบียวันนี้ ซึ่งตรงกับเทศกาลอิดี้ล อัฎฮา ทางทีมกู้ภัยที่มีอยู่กว่า4,000 คน พร้อมรถพยาบาลกว่า 220 คัน เร่งช่วยเหลือผู้แสวงบุญที่บาดเจ็บไปส่งยังโรงพยาบาล 4 แห่ง
เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วเบื้องต้น 220 คนและผู้บาดเจ็บอีก 450 คน ทั้งนี้มีคนไทยที่ไปร่วมพิธีทั้งหมด 14,000 คน จากทั่วโลก 1,700,000 คน แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ ชาวมุสลิมเชื่อว่าพิธีฮัจญ์นั้นคือ 1 ใน 5 เสาหลักแห่งอิสลาม ที่ชาวมุสลิมทุกคนควรจะไปร่วมพิธีนี้ให้ได้อย่างน้อยสักครั้งในชีวิต โดย โศกนาฏกรรมล่าสุดเพิ่งเกิดเหตุเครนก่อสร้างพังถล่มในมัสยิดแกรนด์ของนครเมกกะทำให้มีผู้เสียชีวิต 109 คนเมื่อ 11 ก.ย. และเคยเกิดเหตุสลดในลักษณะเดียวกันทั้งการเหยียบกันตาย เหตุจลาจลหรือแม้กระทั่งเหตุเพลิงไหม้ระหว่างการประกอบพิธีฮัจญ์มาแล้ว โดยเมื่อปี 2543 เคยเกิดเหตุเหยียบกันตายเช่นเดียวกัน ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 364 ศพ
ทางการซาอุดิอาระเบียระบุว่า ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 717 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 805 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ขณะที่นักแสวงบุญกำลังทำพิธีขว้างเสาหิน หนึ่งในกระบวนการประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปีในเมืองมีนา ห่างจากนครเมกกะ 5 กม.
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ขณะนั้อยู่ระหว่างการประสานงานกับสำนักงานกิจการฮัจญ์แห่งประเทศไทย เพื่อตรวจสอบว่าจะมีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานสถานการณ์เบื้องต้นจาก นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา ที่ได้สอบถามไปยังสำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ณ เมืองมักกะฮ์ พบว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้เป็นพื้นที่ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์แต่อย่างใด และยังไม่มีรายงานผู้แสวงบุญคนไทยเสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้อธิบดีกรมการศาสนา ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้แสวงบุญชาวไทยมารายงานเป็นระยะ รวมไปถึงความคืบหน้าการแถลงข่าวของศูนย์ข้อมูลข่าวสารกิจการฮัจย์ ณ เมืองมักกะฮ์ มาทางประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งทาง วธ. จะรายงานเรื่องนี้ให้ประชาชนและสื่อมวลชนต่อไป
