สธ. ห่วงชาวไทยมุสลิมไปแสวงบุญฮัจญ์เจ็บป่วย เหตุอากาศร้อนมาก คนแออัดกว่า 1.3 ล้านคน สั่งคุมเข้มโรคเมอร์ส อีโบลา อุจจาระร่วง ฮีตสโตรก ล็อตแรกเดินทางกลับไทย 29 ก.ย. สั่งตรวจคัดกรองเข้มก่อนขึ้นเครื่อง พร้อมติดตามสุขภาพต่อเนื่อง 30 วันหลังถึงไทย
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2558 จำนวน 10,400 คน ว่า หน่วยแพทย์ไทยที่ สธ. ส่งไปดูแลผู้แสวงบุญ รายงานว่า ขณะนี้สภาพอากาศร้อนมาก และมีประชาชนอยู่รวมกันจำนวนมากถึง 1.3 ล้านกว่าคน จึงมีความเป็นห่วงเรื่องการเจ็บป่วย ทั้งนี้ ได้กำชับให้หน่วยแพทย์ไทยดำเนินการป้องกัน 4 โรคสำคัญ คือ เมอร์ส อุจจาระร่วง อีโบลา และฮีตสโตรก โดยเฉพาะช่วงประกอบพิธีฮัจญ์ภาคสนาม วันที่ 22 - 27 ก.ย. นี้ ได้ให้หน่วยแพทย์ไทยส่งทีมแพทย์และ อสม. ฮัจญ์ เดินเท้าออกเยี่ยมผู้ประกอบพิธีและในเต็นท์ที่พัก โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นการพิเศษ
“ผลการรักษาของหน่วยพยาบาลไทยในนครเมกกะ ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. - 19 ก.ย. มีผู้รับบริการทั้งหมด 6,563 คน เฉลี่ยวันละ 364 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 51 - 60 ปี รองลงมากลุ่มอายุ 61 - 70 ปี ประมาณร้อยละ 70 เป็นไข้หวัด แพ้อากาศ รองลงมาคือ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และโรคระบบทางเดินอาหาร โดยมีผู้ป่วยต้องส่งไปรับการรักษาต่อโรงพยาบาลของประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 21 คน ส่วนใหญ่เกิดจากโรคประจำตัวกำเริบ เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน” รมว.สธ. กล่าว
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคเมอร์ส ยังไม่มีรายงานผู้แสวงบุญรายใดป่วยจากโรคนี้ อย่างไรก็ตาม สธ. ได้จัดระบบป้องกันช่วงขากลับหลังเสร็จสิ้นพิธี โดยผู้แสวงบุญชุดแรกจะเริ่มเดินทางวันที่ 29 ก.ย. นี้ ได้ให้หน่วยแพทย์ไทยดำเนินการตรวจคัดกรองสุขภาพก่อนขึ้นเครื่องกลับทุกคน และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ คัดกรองสุขภาพตรวจวัดไข้ที่สนามบินหลังลงเครื่องทุกคน และให้มิสเตอร์ฮัจญ์ และ อสม. ในพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังอาการทุกคนเป็นเวลา 30 วัน เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลทุกแห่ง หากพบว่ารายใดมีไข้ จะรับตัวเข้าดูแลในโรงพยาบาลตามมาตรการที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประจำปี 2558 จำนวน 10,400 คน ว่า หน่วยแพทย์ไทยที่ สธ. ส่งไปดูแลผู้แสวงบุญ รายงานว่า ขณะนี้สภาพอากาศร้อนมาก และมีประชาชนอยู่รวมกันจำนวนมากถึง 1.3 ล้านกว่าคน จึงมีความเป็นห่วงเรื่องการเจ็บป่วย ทั้งนี้ ได้กำชับให้หน่วยแพทย์ไทยดำเนินการป้องกัน 4 โรคสำคัญ คือ เมอร์ส อุจจาระร่วง อีโบลา และฮีตสโตรก โดยเฉพาะช่วงประกอบพิธีฮัจญ์ภาคสนาม วันที่ 22 - 27 ก.ย. นี้ ได้ให้หน่วยแพทย์ไทยส่งทีมแพทย์และ อสม. ฮัจญ์ เดินเท้าออกเยี่ยมผู้ประกอบพิธีและในเต็นท์ที่พัก โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นการพิเศษ
“ผลการรักษาของหน่วยพยาบาลไทยในนครเมกกะ ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. - 19 ก.ย. มีผู้รับบริการทั้งหมด 6,563 คน เฉลี่ยวันละ 364 คน ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 51 - 60 ปี รองลงมากลุ่มอายุ 61 - 70 ปี ประมาณร้อยละ 70 เป็นไข้หวัด แพ้อากาศ รองลงมาคือ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และโรคระบบทางเดินอาหาร โดยมีผู้ป่วยต้องส่งไปรับการรักษาต่อโรงพยาบาลของประเทศซาอุดีอาระเบีย จำนวน 21 คน ส่วนใหญ่เกิดจากโรคประจำตัวกำเริบ เช่น โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน” รมว.สธ. กล่าว
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โรคเมอร์ส ยังไม่มีรายงานผู้แสวงบุญรายใดป่วยจากโรคนี้ อย่างไรก็ตาม สธ. ได้จัดระบบป้องกันช่วงขากลับหลังเสร็จสิ้นพิธี โดยผู้แสวงบุญชุดแรกจะเริ่มเดินทางวันที่ 29 ก.ย. นี้ ได้ให้หน่วยแพทย์ไทยดำเนินการตรวจคัดกรองสุขภาพก่อนขึ้นเครื่องกลับทุกคน และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ คัดกรองสุขภาพตรวจวัดไข้ที่สนามบินหลังลงเครื่องทุกคน และให้มิสเตอร์ฮัจญ์ และ อสม. ในพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังอาการทุกคนเป็นเวลา 30 วัน เตรียมความพร้อมโรงพยาบาลทุกแห่ง หากพบว่ารายใดมีไข้ จะรับตัวเข้าดูแลในโรงพยาบาลตามมาตรการที่กำหนดไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
