ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
การที่ นางสาวจิตภัสร์ กฤดากร หรือ “ตั๊น” อดีตแกนนำกปปส. จะเข้ารับการบรรจุเป็นตำรวจ ตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายกองอำนวยการ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ(191) ไม่เพียงตำรวจบางคนจะออกมาปลุกระดมต่อต้านเท่านั้น แม้แต่มวลมหาประชาชน กปปส.ส่วนหนึ่งก็ไม่เห็นด้วย
เพราะการเป็นแกนนำกลุ่ม กปปส. ร่วมต่อสู้เพื่อความถูกต้องในสังคม แต่กลับทำในสิ่งที่ไม่น่าจะถูกต้องเสียเอง เนื่องจากการะบรรจุเข้าเป็นตำรวจ ไม่น่าจะเป็นไปตามขั้นตอนปกติแน่ แต่จะต้องมีเส้นสายวิ่งเต้น ซึ่งเป็นการใช้อภิสิทธิ์ และเป็นสิ่งที่มวลมหาประชาชนรณรงค์ต่อต้าน
ไม่เข้าใจว่า นางสาวจิตภัสร์คิดอะไรอยู่ ทำไมจึงอยากสวมเครื่องแบบสีกากี ทำให้ความรู้สึกดีๆของมวลมหาประชาชน กปปส.ที่เคยร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่โค่นล้มรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรถูกลบล้างไป
อย่างไรก็ตาม การสมัครเข้าเป็นตำรวจ ก็เป็นเรื่องของสาวสวยตัวเล็กที่เคยออกมาขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเพียงคนหนึ่งเท่านั้น แต่กลับเป็นเรื่องใหญ่โตบานปลาย
ใหญ่โตเป็นประเด็นทางสังคมขึ้นมา เพราะตำรวจบางส่วน จุดกระแสต่อต้านการบรรจุนางสาวจิตภัสร์เข้าเป็นนายตำรวจ191 โดยอ้างว่า ไม่เหมาะสม เนื่องจากมีพฤติกรรมเป็นปรปักษ์กับตำรวจ
เคยนำมวลชนปิดล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รื้อป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมิ่นศักดิ์ศรีองค์กร ทำให้ตำรวจน้ำตาคลอ
การโหมกระแสต่อต้านนางสาวจิตภัสร์ ตำรวจที่ก่อชนวนอ้างว่า เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีองค์กร โดยตำรวจทั้งประเทศเคยน้ำตาคลอ เพราะถูกนางสาว จิต ภัสร์นำมวลชนรื้อป้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่คำถามคือ ตำรวจคำนึงในศักดิ์ศรีขององค์กรจริงหรือ
เพราะถ้าจริง ตำรวจที่หน้าบาง ทำไมปล่อยให้ตำรวจเลวๆ เดินกันขวักไขว่ในองค์กร ทำไมไม่รณรงค์เพื่อเรียกศักดิ์ศรีขององค์กรที่ตกต่ำสุดขีด เพราะการรับส่วย การรีดไถ การยอมก้มหัวรับใช้นักการเมือง หรือแม้แต่การรับคนที่เป็นศัตรูของสำนักงานตำรวจเข้ามาเป็นนายตำรวจ
เพราะการรับบุคคลที่มีภาพพจน์ติดลบเข้ามาเป็นนายตำรวจ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกรณีนางสาวจิตภัสร์เป็นกรณีเดียว
ลูกนักการเมืองหลายคน ถูกผลักเข้ามาเป็นนายตำรวจ เพื่ออาศัยเครื่องแบบสีกากีเป็นเกราะป้องกันตัว โดยบางคนก็เป็นปรปักษ์ตัวร้ายของสำนักง่านตำรวจแห่งชาติ
ลูกร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง 2 คน เข้ามาเป็นตำรวจ โดยคนหนึ่ง พัวพันกับการสังหารดาบยิ้ม หรือดาบตำรวจสุวิชัย รอดวิมุติ อีกคนหนึ่งเคยมีปัญหาเรื่องใบ ส.ด.9 ปลอม
บรรดาตำรวจที่อ้างว่ารักศักดิ์ศรี รักองค์กรหายหัวไปไหนหมด ตอนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับบรรดาลูกนักการเมืองเข้ามาบรรจุ ทำไมไม่ออกมาโวย
ทำไมกรณีนางสาวจิตภัสร์จึงเป็นเดือดเป็นร้อน จะเป็นจะตายกันขึ้นมา
จะสรุปได้หรือไม่ว่า ตำรวจที่ออกมาต้านนางสาวจิตภัสร์ เป็นตำรวจแตงโม เป็นตำรวจที่เคยก้มหัวรับใช้นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งยังมีอยู่มากมายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และต้องการแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง
เพราะถ้าเป็นตำรวจอาชีพ ห่วงภาพพจน์องค์กรจริง หยิ่งในศักดิ์ศรีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ก่อนหน้าต้องแสดงบทบาทออกมาบ้าง ต้องเคลื่อนไหวเพื่อปกป้ององค์กรบ้าง แต่ที่ผ่านมาเงียบสนิท เหมือนกับไม่เคยมีตัวตน
เพิ่งจะโผล่ออกมาปลุกระดมต่อต้านน้อง “ตั๊น” นี่แหละ
ภาพพจน์ตำรวจตกต่ำขีดสุดมานานแล้ว ศักดิ์ศรีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ย่อยยับไปนานแล้ว และไม่ได้เกิดจากนางสาวจิตภัสร์ แต่เกิดจากพฤติกรรมตำรวจทั้งสิ้น ไม่ว่าการรับส่วย รีดไถ กินสินบน พัวพันกับธุรกิจสีเทา ทำให้สังคมเสื่อมทราม ข่มเหงรังแกประชาชน ใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาประโยชน์ ยอมก้มหัวรับใช้นักการเมืองอย่างไม่ละอาย ทั้งที่กินเงินเดือนภาษีประชาชน
กรณีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผบ.ชน. เดินทางไปให้นายทักษิณ ซึ่งมีฐานะเป็นนักโทษหนีคดีประดับยศให้ในต่างประเทศ โดยยกย่องให้เป็นผู้มีพระคุณล้นเหลือ หรือแม้แต่กรณีการพกปืนขึ้นเครื่องบิน จนตำรวจญี่ปุ่นจับได้ ขายขี้หน้าขี้หน้าตำรวจไทย ทำไม่มีมีตำรวจหน้าไหนออกมาโวยวายเรื่องศักดิ์ศรีสักแอะ
การปลุกกระแสต่อต้านการรับนางสาวจิตภัสร์เข้าบรรจุเป็นตำรวจนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่า การแสดงปฏิกิริยาให้รู้ว่า ใครก็ตามที่เปิดโปงพฤติกรรมตำรวจ ใครก็ตามเรียกร้องผลักดันการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะถูกหมายหัวเป็นศัตรูของตำรวจ
และตำรวจที่โหมกระแส หัวหอกน่าจะเป็นตำรวจเสื้อแดงที่แค้นแทนรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกมวลมหาประชาชนกลุ่ม กปปส.ลุกฮือขับไล่ จึงระดมพลตำรวจเสื้อแดงต้านน้อง “ตั้น” เรื่องศักดิ์ศรีของตำรวจ เป็นเพียงข้ออ้างบังหน้าการเคลื่อนไหวเท่านั้น
กรณีน้อง “ตั๊น” กำลังก่อให้เกิดสงครามตัวแทนขึ้น ระหว่างตำรวจมะเขือเทศกับกลุ่มคนมีอำนาจที่ผลักดันน้อง “ตั้น” เข้าเป็นตำรวจ
การที่นางสาวจิตภัสร์เปลี่ยนใจ เดินหน้าบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มคนที่สนับสนุนนางสาวจิตภัสร์พร้อมเปิดหน้าชนกับตำรวจมะเขือเทศแล้ว
แต่ตำรวจมะเขือเทศพร้อมเปิดหน้าชนหรือไม่
น้อง “ตั๊น” จะได้สวมเครื่องแบบตำรวจหรือไม่ วัดกันที่ “ใจ” ตำรวจมะเขือเทศว่า กล้าโผล่หน้ามาท้าท้ายอำนาจกลุ่มคนที่ผลักดันน้อง “ตั๊น”อยู่เบื้องหลังขนาดไหน เพราะถ้าไม่แสดงตัวตน จะเป็นเพียงกระแสต่อต้านที่ไร้พลัง
งานนี้ต้องรอดูว่า จะมีตำรวจผู้กล้าหน้าไหน ออกมาเผชิญหน้าวัดพลังกับอดีตแกนนำ กปปส.ที่เป็นสตรีตัวเล็กคนหนึ่งไหมหนอ หรือแค่หลบมุมปลุกกระแสอยู่ในที่มืด