ASTVผู้จัดการรายวัน-กรมบัญชีกลางรอหนังสือคำสั่งฟ้องแพ่ง 5.1 แสนล้าน คดี "ปู" ทำจำนำเจ๊ง และคดี "บุญทรง" ทุจริตขายข้าวจีทูจี ก่อนดำเนินการต่อ เผยปิดบัญชีข้าวรอบใหม่ ส่อเจ๊งเพิ่มเกิน 7 แสนล้าน หลังข้าวเสีย ข้าวเสื่อมสภาพเพิ่มขึ้น
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ยังรอหนังสือคำสั่งดำเนินคดีความผิดทางละเมิด จากคณะกรรมการว่าด้วยการรับผิดทางแพ่ง คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมูลค่า 510,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 500,000 ล้านบาท และโครงการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวก 10,000 ล้านบาท
การดำเนินการของคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งของกรมบัญชีกลาง จะฟ้องเรียกความเสียหายโดยยึดตัวเลขความเสียหาย และคำสั่งฟ้องอย่างเป็นทางการ ของคณะกรรมการชุดนายวิษณุ เป็นหลัก ซึ่งต้องขอพิจารณาในรายละเอียดของหนังสือดังกล่าวก่อน จึงจะตัดสินใจได้ว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร ซึ่งตัวเลขความเสียหาย จะไม่ยึดตามข้อมูลความเสียหายของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน
ก่อนหน้านี้ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ได้ระบุว่า การปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวรอบปีบัญชีงบประมาณ 2558 ณ 30 ก.ย.2558 กำลังรอข้อมูลการระบายข้าว สต็อกที่เหลือ คุณภาพข้าวแต่ละประเภทจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เพราะผลขาดทุนน่าจะสูงกว่าการปิดบัญชีงวดที่แล้ว เนื่องจากข้าวเสีย ข้าวเสื่อมสภาพมากขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า หากประเมินคุณภาพข้าวเสีย ข้าวเสื่อมคุณภาพ และข้าวกองล้มที่เพิ่มขึ้น อาจมีผลต่อผลการขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการปิดบัญชีครั้งก่อน รอบ 30 ก.ย.2557 มียอดขาดทุน 700,000 ล้านบาท แยกเป็น 4 โครงการ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขาดทุน 536,000 ล้านบาท และ 11 โครงการก่อนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขาดทุน 163,000 ล้านบาท
นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ยังรอหนังสือคำสั่งดำเนินคดีความผิดทางละเมิด จากคณะกรรมการว่าด้วยการรับผิดทางแพ่ง คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมูลค่า 510,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 500,000 ล้านบาท และโครงการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวก 10,000 ล้านบาท
การดำเนินการของคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งของกรมบัญชีกลาง จะฟ้องเรียกความเสียหายโดยยึดตัวเลขความเสียหาย และคำสั่งฟ้องอย่างเป็นทางการ ของคณะกรรมการชุดนายวิษณุ เป็นหลัก ซึ่งต้องขอพิจารณาในรายละเอียดของหนังสือดังกล่าวก่อน จึงจะตัดสินใจได้ว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร ซึ่งตัวเลขความเสียหาย จะไม่ยึดตามข้อมูลความเสียหายของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน
ก่อนหน้านี้ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ได้ระบุว่า การปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวรอบปีบัญชีงบประมาณ 2558 ณ 30 ก.ย.2558 กำลังรอข้อมูลการระบายข้าว สต็อกที่เหลือ คุณภาพข้าวแต่ละประเภทจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เพราะผลขาดทุนน่าจะสูงกว่าการปิดบัญชีงวดที่แล้ว เนื่องจากข้าวเสีย ข้าวเสื่อมสภาพมากขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า หากประเมินคุณภาพข้าวเสีย ข้าวเสื่อมคุณภาพ และข้าวกองล้มที่เพิ่มขึ้น อาจมีผลต่อผลการขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการปิดบัญชีครั้งก่อน รอบ 30 ก.ย.2557 มียอดขาดทุน 700,000 ล้านบาท แยกเป็น 4 โครงการ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขาดทุน 536,000 ล้านบาท และ 11 โครงการก่อนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขาดทุน 163,000 ล้านบาท
