ASTVผู้จัดการรายวัน -อสังหาฯปี58ซบยาวทั้งแนวสูงแนวราบ เผยคอนโดหดตัว30% แนวราบ10% ระบุตลาดทาวน์เฮาส์ แข่งดุทั้งลดราคา ทั้งอัดแคมเปญ รายใหญ่-รายเล็กในตลาดสต็อกค้างเยอะ แสร้งปรับกลยุทธ์เป็นบ้านสร้างก่อนขายหวังอำพรางสต็อกในมือ GOLD แจงยอดขายทาวน์เฮาส์สวนทางตลาด 8 เดือนยอดขายพุ่ง 5,000ล้าน โตเกินเป้าทั้งปี4,200 ล้านกว่า 20% คาดทั้งปีโตกว่าเป้า70-80% เหตุยังมีโครงการใหม่จ่อเปิดขายในไตรมาสสุดท้ายอีก4โครงการ พร้อมเดินหน้าเร่งเปิดโครงการใหม่ตามแผน สวนทางค่ายอสังหาฯน้อย-ใหญ่ที่ยังชะลอแผนเลื่อนการเปิดตัวโครงการจากผลกระทบเศรษฐกิจ-ตลาดซบ
นายภวรัญชน์ อุดมศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท โกลเด้นแลนด์ เรสซิเด้นซ์ จำกัด ในเครื่อบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีวเลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD กล่าวว่า การหดตัวของเศรษฐกิจไทย ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการอสังหาฯทำให้เกิดการชะลอเปิดตัวโครงการและพัฒนาโครงกรใหม่ๆ ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี2558 หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าภาวะดังกล่าวจะยาวไปถึงสิ้นปี โดยในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมนั้นคาดว่าหดตัวลงกว่า 30% ขณะที่ตลาดแนวราบหดตัวลงประมาณ 10%
ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดรวมในปีนี้จะหดตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ตลาดแนวราบค่อนข้างได้รับผลกระทบน้อยโดยมีการหดตัวเพียง10% เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาการขยายตัวของตลาดแนวราบเป็นไปอย่าง่อยเป็นค่อยไป เมื่อเทียบกับตลาดคอนโดที่ก่อนหน้าขยายตัวร้อนแรงเมื่อมีการหดตัว ก็หดตัวรุนแรงเป็นธรรมดา โดยคาดว่าการหดตัวของตลาดคอนโดสูงถึง30% เมื่อเทียบกับตลาดในปีก่อนหน้า
จากการหดตัวดังกล่าวส่งผลให้ในปีนี้ตลาดทาวน์เฮาส์ มีอัตราการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการในตลาดส่วนใหญ่ยังมีสต็อกบ้านและทาวน์เฮาส์ตกค้างในมือค่อนข้างมากใน ขณะที่ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปเพราะขาดความเชื่อมั่นจากปัญหาการหดตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับผู้ประกอบการเองก็ขาดความเชื่อมั่นต่อกำลังซื้อของลูกค้า ทำให้ชะลอการพัฒนาและเปิดตัวโครงการใหม่ๆออกไป
“การตกค้างของสต็อกบ้านและทาวน์เฮาส์ทำให้ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ในตลาดเร่งระบายสต็อกในมือออก ซึ่งกลยุทธ์หลักที่เป็นที่นิยมในช่วงนี้ คือ การลดราคาขาย มอบส่วนลดบางรายให้ส่วนลดสูงกว่า200,000บาทหลังเปิดขายเพียงไม่กี่วัน นอกจากนี้ยังมีการจัดแคมเปญแจกของแถมไปพร้อมๆกัน สะท้อนให้เห็นว่าตลาดทาวน์เฮาส์ในปีนี้แข่งขันรุนแรงมากขึ้น”
ขณะเดียวกันเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ประกอบการแทบทุกค่ายมีการจัดแคมเปญบ้านพร้อมอยู่หรือบ้านสร้างก่อนขาย มากขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วในปัจจุบันผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องสร้างบ้านก่อนขาย หรือ บิวด์สต็อกไว้รองลูกค้าเพราะระยะเวลาในการสร้างบ้านในปัจจุบันสั้นลง การก่อสร้างบ้านต่อหลังด้วยก่อสร้างสำเร็จรูปใช้เวลาเพียง3-4เดือนเท่านั้น แต่การออกมาจัดแคมเปญบ้านพร้อมอยู่นั้นเพราะมีสต็อกติดมือเยอะ จึงปรับกลยุทธ์เป็นการขายบ้านพร้อมอยู่แทนบ้านสั่งสร้าง
นายภวรัญชน์ กล่าวว่า แม้ตลาดทาวน์เฮาส์จะมีการแข่งขันที่รุนแรง ประกอบกับตลาดหดตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขัดแย้งกับแผนธุรกิจของบริษัท ซึ่งเร่งลงทุนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์โครงการใหม่ไปแล้ว4โครงการ โดยในช่วง8เดือนที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้แล้ว5,000ล้านบาท จากเป้าขายทาวน์เฮาส์ทั้งปี 4,200 ล้านบาทหรือมียอดขายโตกว่าเป้า20% และในช่วงที่เหลือ4เดือนจากนี้จะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก4โครงการมูลค่ารวม 3,800ล้านบาท หรือมีมูลค่าเฉลี่ยต่อโครงการ800-900ล้านบาท
“เราคาดว่าในการเปิดขายโครงการใหม่ทั้ง4 โครงการดังกล่าว จะสามารถสร้างยอดขายต่อโครงการได้ไม่ต่ำกว่า300 ล้านบาท หรือคาดว่าในช่วงที่เหลือ4เดือนจากนี้จะสามารถยอดขายจาก4โครงการใหม่ไม่ต่ำกว้า1,200 ล้านบาทซึ่งจะทำให้ในสิ้นปีนี้บริษัทมียอดขายรวมสูงกว่าเป้า70-80%”
นายภวรัญชน์ อุดมศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท โกลเด้นแลนด์ เรสซิเด้นซ์ จำกัด ในเครื่อบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีวเลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD กล่าวว่า การหดตัวของเศรษฐกิจไทย ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการอสังหาฯทำให้เกิดการชะลอเปิดตัวโครงการและพัฒนาโครงกรใหม่ๆ ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี2558 หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าภาวะดังกล่าวจะยาวไปถึงสิ้นปี โดยในส่วนของตลาดคอนโดมิเนียมนั้นคาดว่าหดตัวลงกว่า 30% ขณะที่ตลาดแนวราบหดตัวลงประมาณ 10%
ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดรวมในปีนี้จะหดตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ตลาดแนวราบค่อนข้างได้รับผลกระทบน้อยโดยมีการหดตัวเพียง10% เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาการขยายตัวของตลาดแนวราบเป็นไปอย่าง่อยเป็นค่อยไป เมื่อเทียบกับตลาดคอนโดที่ก่อนหน้าขยายตัวร้อนแรงเมื่อมีการหดตัว ก็หดตัวรุนแรงเป็นธรรมดา โดยคาดว่าการหดตัวของตลาดคอนโดสูงถึง30% เมื่อเทียบกับตลาดในปีก่อนหน้า
จากการหดตัวดังกล่าวส่งผลให้ในปีนี้ตลาดทาวน์เฮาส์ มีอัตราการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการในตลาดส่วนใหญ่ยังมีสต็อกบ้านและทาวน์เฮาส์ตกค้างในมือค่อนข้างมากใน ขณะที่ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปเพราะขาดความเชื่อมั่นจากปัญหาการหดตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับผู้ประกอบการเองก็ขาดความเชื่อมั่นต่อกำลังซื้อของลูกค้า ทำให้ชะลอการพัฒนาและเปิดตัวโครงการใหม่ๆออกไป
“การตกค้างของสต็อกบ้านและทาวน์เฮาส์ทำให้ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ในตลาดเร่งระบายสต็อกในมือออก ซึ่งกลยุทธ์หลักที่เป็นที่นิยมในช่วงนี้ คือ การลดราคาขาย มอบส่วนลดบางรายให้ส่วนลดสูงกว่า200,000บาทหลังเปิดขายเพียงไม่กี่วัน นอกจากนี้ยังมีการจัดแคมเปญแจกของแถมไปพร้อมๆกัน สะท้อนให้เห็นว่าตลาดทาวน์เฮาส์ในปีนี้แข่งขันรุนแรงมากขึ้น”
ขณะเดียวกันเป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ประกอบการแทบทุกค่ายมีการจัดแคมเปญบ้านพร้อมอยู่หรือบ้านสร้างก่อนขาย มากขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วในปัจจุบันผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องสร้างบ้านก่อนขาย หรือ บิวด์สต็อกไว้รองลูกค้าเพราะระยะเวลาในการสร้างบ้านในปัจจุบันสั้นลง การก่อสร้างบ้านต่อหลังด้วยก่อสร้างสำเร็จรูปใช้เวลาเพียง3-4เดือนเท่านั้น แต่การออกมาจัดแคมเปญบ้านพร้อมอยู่นั้นเพราะมีสต็อกติดมือเยอะ จึงปรับกลยุทธ์เป็นการขายบ้านพร้อมอยู่แทนบ้านสั่งสร้าง
นายภวรัญชน์ กล่าวว่า แม้ตลาดทาวน์เฮาส์จะมีการแข่งขันที่รุนแรง ประกอบกับตลาดหดตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขัดแย้งกับแผนธุรกิจของบริษัท ซึ่งเร่งลงทุนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์โครงการใหม่ไปแล้ว4โครงการ โดยในช่วง8เดือนที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้แล้ว5,000ล้านบาท จากเป้าขายทาวน์เฮาส์ทั้งปี 4,200 ล้านบาทหรือมียอดขายโตกว่าเป้า20% และในช่วงที่เหลือ4เดือนจากนี้จะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก4โครงการมูลค่ารวม 3,800ล้านบาท หรือมีมูลค่าเฉลี่ยต่อโครงการ800-900ล้านบาท
“เราคาดว่าในการเปิดขายโครงการใหม่ทั้ง4 โครงการดังกล่าว จะสามารถสร้างยอดขายต่อโครงการได้ไม่ต่ำกว่า300 ล้านบาท หรือคาดว่าในช่วงที่เหลือ4เดือนจากนี้จะสามารถยอดขายจาก4โครงการใหม่ไม่ต่ำกว้า1,200 ล้านบาทซึ่งจะทำให้ในสิ้นปีนี้บริษัทมียอดขายรวมสูงกว่าเป้า70-80%”