ASTV ผู้จัดการรายวัน – “ฉาย” เตรียมฟ้องกลับทั้ง “เจ้าหน้าที่ลึกลับ” และเครือเนชั่น ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 ประกอบ มาตรา 86 และ มาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 มั่นใจคดีปั่นหุ้นทั้ง 14 คดีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดไปแล้ว รวมถึงก.ล.ต.ออกหนังสืออย่างเป็นทางการถึง DSI เรียบร้อยแล้ว
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ต่อนื่องถึงวันที่ 16 กันยายน 2558 หลายสื่อในเครือเนชั่น เสนอข่าวโดยอ้าง “แหล่งข่าวจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)” เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีปั่นหุ้น บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ก.ล.ต. ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอสอบสวนดำเนินคดีกับ นายฉาย บุนนาค กับพวกโดยพบหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในชั้นสอบสวนคดีปั่นหุ้น 14 คดี ที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดไปแล้ว นั้น ASTV ผู้จัดการรายวัน ได้รับการเปิดเผยจาก “ฉาย บุนนาค” ระบุว่า ข้อมูลตามที่ปรากฏในข่าวนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากคดีปั่นหุ้น 14 คดีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดไปแล้ว โดยปรากฏเป็นเอกสารทางการออกจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ก.ล.ต.ไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เรียบร้อยแล้ว
“ข้อมูลที่นำมาเผยแพร่เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ยุติ คือเป็นการนำเอาข้อมูลเดิมกลับมาใช้เพียงบางส่วน อีกทั้งยังไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานใหม่ใดๆตามที่เป็นข่าว อีกทั้งข้อมูลที่เผยแพร่ถือเป็นความลับทางราชการ โดยที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักข่าวเนชั่นย่อมไม่สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้เขียนข่าวได้ หากมิได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ การกระทำดังกล่าวย่อมเป็นความผิดฐานเปิดเผยความลับในราชการ” นายฉาย กล่าว
นายฉาย เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างปรึกษากับที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายกับเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษที่เป็นผู้นำความลับทางราชการมาเปิดเผยและบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 และดำเนินคดีกับบริษัท เนชั่นฯ และบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 ประกอบ มาตรา 86 และ มาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 ต่อไป
“การที่สื่อในเครือเนชั่นได้ร่วมกันลงข่าวดังกล่าวโดยมิแสดงความคิดเห็นหรือข้อเท็จจริงโดยสุจริต และมีเจตนากลั่นแกล้งใส่ความให้ข้าพเจ้าต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ยังถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 และก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารในเครือเนชั่นมาแล้วหลายคดีและพนักงานสอบสวนมีคำสั่งฟ้อง แต่กลุ่มผู้บริหารเนชั่นกลับประวิงเวลาไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” นายฉาย กล่าว
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ต่อนื่องถึงวันที่ 16 กันยายน 2558 หลายสื่อในเครือเนชั่น เสนอข่าวโดยอ้าง “แหล่งข่าวจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)” เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีปั่นหุ้น บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ก.ล.ต. ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดีเอสไอสอบสวนดำเนินคดีกับ นายฉาย บุนนาค กับพวกโดยพบหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในชั้นสอบสวนคดีปั่นหุ้น 14 คดี ที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดไปแล้ว นั้น ASTV ผู้จัดการรายวัน ได้รับการเปิดเผยจาก “ฉาย บุนนาค” ระบุว่า ข้อมูลตามที่ปรากฏในข่าวนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากคดีปั่นหุ้น 14 คดีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดไปแล้ว โดยปรากฏเป็นเอกสารทางการออกจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ก.ล.ต.ไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เรียบร้อยแล้ว
“ข้อมูลที่นำมาเผยแพร่เป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ยุติ คือเป็นการนำเอาข้อมูลเดิมกลับมาใช้เพียงบางส่วน อีกทั้งยังไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานใหม่ใดๆตามที่เป็นข่าว อีกทั้งข้อมูลที่เผยแพร่ถือเป็นความลับทางราชการ โดยที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของกรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักข่าวเนชั่นย่อมไม่สามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้เขียนข่าวได้ หากมิได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ การกระทำดังกล่าวย่อมเป็นความผิดฐานเปิดเผยความลับในราชการ” นายฉาย กล่าว
นายฉาย เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างปรึกษากับที่ปรึกษาทางกฎหมายเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายกับเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษที่เป็นผู้นำความลับทางราชการมาเปิดเผยและบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 และดำเนินคดีกับบริษัท เนชั่นฯ และบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 164 ประกอบ มาตรา 86 และ มาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 ต่อไป
“การที่สื่อในเครือเนชั่นได้ร่วมกันลงข่าวดังกล่าวโดยมิแสดงความคิดเห็นหรือข้อเท็จจริงโดยสุจริต และมีเจตนากลั่นแกล้งใส่ความให้ข้าพเจ้าต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ยังถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ประกอบมาตรา 328 และก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารในเครือเนชั่นมาแล้วหลายคดีและพนักงานสอบสวนมีคำสั่งฟ้อง แต่กลุ่มผู้บริหารเนชั่นกลับประวิงเวลาไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” นายฉาย กล่าว