ผู้ถือหุ้นรายย่อย “เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป” ร่อนจดหมายร้องดีเอสไอ เอาผิดผู้ปั่นหุ้น NMG เหตุราคาหุ้นผันผวนทำรายย่อยเสียหาย อีกทั้งร้อง ก.ล.ต.ให้ตรวจสอบบัญชีการซื้อขาย และโอนหุ้นที่เกี่ยวข้องย้อนหลัง 3 ปีของบุคคลต่างๆ ขณะ NMG ยันพร้อมป้องสิทธิผู้ถือหุ้นรายย่อยหากมีความเสียหายเกิดขึ้น หวั่นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยบางกลุ่มขณะนี้จะเป็นการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่เพื่อช่วงชิงเสียงข้างมาก
จากกรณีที่มีการเสนอชื่อ นายเสริมสิน สมะลาภา อดีตผู้บริหารบริษัท บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ NPARK เข้ามาเป็นประธานกรรมการบริหารของ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป หรือ NMG แทน นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการบริษัทฯ เนชั่น คนปัจจุบัน ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเกิดความกังวลต่อเสถียรภาพของการดำเนินธุรกิจในในอนาคต เนื่องจากประวัติการทำงานของ นายเสริมสิน ที่มีนัยซ่อนเร้น ทำให้อาจกระทบต่อราคาหุ้น และภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต
เป็นเหตุให้วานนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยของ NMG ได้เดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าร้องให้ DSI รับพิจารณาคดีปั่นหุ้นของ NMG เป็นคดีพิเศษ เพราะที่ผ่านมา การเข้ามาซื้อหุ้น NMG ของนายเสริมสิน สมะลาภา มีเงื่อนงำไม่โปร่งใส จึงต้องการเห็นความชัดเจนในการซื้อขายหลักทรัพย์ก่อนหน้านั้น
โดยระบุว่า ที่ผ่านมาราคาหุ้นของกลุ่มบริษัทเนชั่นฯ มีความผันผวน และเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างรุนแรงหลายรอบหลายครั้ง ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับความเสียหายจากการเข้าไปลงทุนโดยสุจริต จึงให้ DSI ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกกรณีในลำดับขั้นตอนของการซื้อขาย ตลอดจนเส้นทางการเงินของบุคคล และนิติบุคคลดังกล่าวว่ามาจากแหล่งเดียวกันหรือไม่ อีกทั้งตรวจสอบบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่การตลาดว่าใครเป็นคนสั่งซื้อขาย เป็นต้น
ขณะที่ นายเสริมสิน ชี้แจงต่อพนักงาน NMG ว่า กลุ่มของตนถือหุ้นบริษัท NMG มากกว่า 40% แล้ว ซึ่งหากเป็นจริง นายเสริมสิน กับพวกจะต้องดำเนินการจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด (Tender offer) ตามกฎหมา และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้เรียกสอบข้อเท็จจริงต่อพนักงาน NMG เพื่อความชัดเจน
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นร้องเรียน และเรียกร้องมายัง ก.ล.ต. ให้ดำเนินการเพื่อหาข้อเท็จจริง และผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยให้ตรวจสอบบัญชีการซื้อขายและโอนหุ้นในหลักทรัพย์ NMG, NMG-W3, NBC และ NBC-W1 ย้อนหลัง 3 ปี และอื่นๆ ที่เกียวข้อง เป็นต้น
ด้าน NMG ยืนยันพร้อมป้องสิทธิผู้ถือหุ้นรายย่อย แต่หวั่นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยบางกลุ่มในขณะนี้จะเป็นการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่เพื่อช่วงชิงเสียงข้างมาก และขณะนี้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC) หรือ บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์คคอร์ปอเรชั่น (NEWS) ต่อเครือเนชั่นในลักษณะต่างๆ ทำให้บริษัทมีข้อสงสัยว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างความแตกแยกในผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่เนชั่น เพื่อช่วงชิงเสียงข้างมาก
จากกรณีที่มีการเสนอชื่อ นายเสริมสิน สมะลาภา อดีตผู้บริหารบริษัท บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ NPARK เข้ามาเป็นประธานกรรมการบริหารของ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป หรือ NMG แทน นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการบริษัทฯ เนชั่น คนปัจจุบัน ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเกิดความกังวลต่อเสถียรภาพของการดำเนินธุรกิจในในอนาคต เนื่องจากประวัติการทำงานของ นายเสริมสิน ที่มีนัยซ่อนเร้น ทำให้อาจกระทบต่อราคาหุ้น และภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต
เป็นเหตุให้วานนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยของ NMG ได้เดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI พร้อมด้วยเอกสารหลักฐานเพื่อเข้าร้องให้ DSI รับพิจารณาคดีปั่นหุ้นของ NMG เป็นคดีพิเศษ เพราะที่ผ่านมา การเข้ามาซื้อหุ้น NMG ของนายเสริมสิน สมะลาภา มีเงื่อนงำไม่โปร่งใส จึงต้องการเห็นความชัดเจนในการซื้อขายหลักทรัพย์ก่อนหน้านั้น
โดยระบุว่า ที่ผ่านมาราคาหุ้นของกลุ่มบริษัทเนชั่นฯ มีความผันผวน และเคลื่อนไหวขึ้นลงอย่างรุนแรงหลายรอบหลายครั้ง ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับความเสียหายจากการเข้าไปลงทุนโดยสุจริต จึงให้ DSI ตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกกรณีในลำดับขั้นตอนของการซื้อขาย ตลอดจนเส้นทางการเงินของบุคคล และนิติบุคคลดังกล่าวว่ามาจากแหล่งเดียวกันหรือไม่ อีกทั้งตรวจสอบบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่การตลาดว่าใครเป็นคนสั่งซื้อขาย เป็นต้น
ขณะที่ นายเสริมสิน ชี้แจงต่อพนักงาน NMG ว่า กลุ่มของตนถือหุ้นบริษัท NMG มากกว่า 40% แล้ว ซึ่งหากเป็นจริง นายเสริมสิน กับพวกจะต้องดำเนินการจัดทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด (Tender offer) ตามกฎหมา และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้เรียกสอบข้อเท็จจริงต่อพนักงาน NMG เพื่อความชัดเจน
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นร้องเรียน และเรียกร้องมายัง ก.ล.ต. ให้ดำเนินการเพื่อหาข้อเท็จจริง และผู้กระทำผิดมาลงโทษ โดยให้ตรวจสอบบัญชีการซื้อขายและโอนหุ้นในหลักทรัพย์ NMG, NMG-W3, NBC และ NBC-W1 ย้อนหลัง 3 ปี และอื่นๆ ที่เกียวข้อง เป็นต้น
ด้าน NMG ยืนยันพร้อมป้องสิทธิผู้ถือหุ้นรายย่อย แต่หวั่นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยบางกลุ่มในขณะนี้จะเป็นการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่เพื่อช่วงชิงเสียงข้างมาก และขณะนี้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC) หรือ บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์คคอร์ปอเรชั่น (NEWS) ต่อเครือเนชั่นในลักษณะต่างๆ ทำให้บริษัทมีข้อสงสัยว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างความแตกแยกในผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่เนชั่น เพื่อช่วงชิงเสียงข้างมาก