"บิ๊กตู่" พูดเรื่องทิศทาง แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ สับจำนำข้าวบิดเบือนราคาตลาด ชี้ปัญหาประท้วงทำให้สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 ไม่คืบ ย้ำปี 58-59 ต้องจ่ายภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยสั่ง ก.เกษตรฯ บริหารจัดการน้ำ รับมือขาดแคลนน้ำ ขอใจเย็นรถไฟความเร็วสูงเกิดแน่ แต่ต้องเจรจาไม่กระทบสัมพันธ์จีน เชื่อมีคนอยู่เบื้องหลังการต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินใต้
วานนี้ (14 ก.ย.) เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2558 ของ สศช. เรื่อง "ทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ( พ.ศ. 2560-2564)" ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งภายในงานนอกจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และเลขาฯ สศช. ยังมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ สศช. เชิญมาในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานด้วย
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งที่สะสมมาในอดีตขอฝากรัฐบาลใหม่แก้ไขด้วย เราจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร ทั้งเรื่องกฎหมาย เตรียมคน เพราะสิ่งเหล่านี้จะนำพาประเทศตามรถไฟขบวนที่ 12 จะต้องวิ่งไปข้างหน้า ส่วนการทำงานด้านอื่นๆ การจำนำข้าว เกษตรกร ที่เดือดร้อน คมนาคม บริหารจัดการ ถือว่าเดินหน้าไปมากพอสมควร เห็นเมื่อเช้ามีข่าวบ่นถึงตนอีกแล้วว่า ทำไมต้องทุบสะพานข้ามแยกเกษตร แล้วถามว่าเมื่อไร จะมีรถไฟฟ้าเสียที เอาใจยากนะคนไทย รถไฟก็อยากมี แต่ไม่อยากเดือดร้อน อย่างนี้ไม่ได้ ถือว่าไม่ได้ร่วมเป็นร่วมตายกับคนทั้งประเทศ วันหน้าหากมีการลงทุนเพื่ออนาคต ตนจะไม่ทุบสะพาน แต่ไปหาที่สร้างใหม่ตรงที่ไม่ต้องเดือดร้อนคน แต่ตนทำไม่ได้ เพราะมันสิ้นเปลือง ต้องใช้เวลานาน วุ่นวายไปหมด พอมาทำ คนก็ด่า บอกว่าไม่มีประโยชน์ พวกไม่เห็นประโยชน์เพราะบ้านอยู่ที่อื่น แล้วก็ไม่ขึ้นรถสายนี้ แต่คนที่อยู่ในเส้นทางเขาดีใจ รอรถไฟฟ้าเมื่อไหร่จะขึ้นเสียที คนไทยมีความแตกต่างกันตรงนี้ ไม่เห็นประโยชน์ส่วนรวม ไม่นึกถึงคนอื่น ตรงนี้ต้องแก้เสียที ไม่เช่นนั้นต่อไปจะลำบาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการส่งเสริมเศรษฐกิจ ที่บอกว่าไม่เข้มแข็ง ไม่มีขีดความสามารถเพียงพอ ไม่มีนวัตกรรม ทำให้รายได้การส่งออกลดลง ซึ่งวันนี้รัฐบาลเข้ามาดูทั้งหมด ทั้งการพัฒนาเครื่องจักร และ เอสเอ็มอี ไม่ใช่ให้เงินไปลงทุนอย่างเดียว ต้องให้ความรู้ และค่อยจัดงบรัฐบาลให้ ในส่วนของมาตรการรายย่อย ระดับหมู่บ้านที่ทีมเศรษฐกิจคิดมา คือ มีกองทุนหมู่บ้านและตำบล ให้บริหารเองตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อย่าไปมองว่า ทุจริตกันมากนัก ซึ่งวันนี้รัฐบาลจะลงไปดูแลและให้ใช้ประโยชน์สูงสุดฉะนั้นต้องไปบอกพ่อแม่พี่น้องอย่าเอาเงินไปใช้อะไรสิ้นเปลือง เช่น ซื้อโทรศัพท์ ซื้อมอเตอร์ไซค์ จะเอาไปลงทุนให้เกิดประโยชน์แก่ไร่นาก็ดีกว่า อย่างอื่น ในส่วนของ 5 ล้านตำบล ตอนนี้ก็กระจายให้ไปแล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ลงไปจัดระเบียบใหม่ ให้อำเภอละ 3 ล้านบาท ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยดี ในส่วนของเอสเอ็มอี รัฐบาลก็ได้เห็นชอบไปแล้ว ก็ทำกันต่อไป
ส่วนเรื่อง กบข. วันนี้ต้องเพิ่มประสิทธิภาพทั้งหมด ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ตัวชี้วัด ทุกอย่างต้องมีตัวชี้วัด เราบอกว่า 20 ปีข้างหน้า จะเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย อย่าไปพูดลอยๆ ต้องวาดภาพอนาคตของตัวเอง ขอให้เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ วันนี้จากการจัดลำดับประเทศเรายังไม่ดีมากนัก อยู่ในระดับ 30 ใน 60 ฉะนั้น เราต้องพัฒนาเรื่องนวัตกรรม อย่างเมื่อก่อนญี่ปุ่น สิงคโปร์ เคยมาดูงานประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงไปดูเกษตรกรเลี้ยงโคกระบือ เขามาเรียนที่บ้านเรา และวันนี้เขานำไปพัฒนาในประเทศเขาแล้วทำได้ดีกว่าเรา ตนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ประเทศไทยยังขาดการบูรณาการร่วมกัน ต้องขอฝากคุณอภิสิทธิ์ ไปด้วย การบูรณาการงานแต่ละกระทรวงนั้นสำคัญ ที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องรัฐบาลผสม ที่พูดเพราะมีนักการเมืองอยู่ตรงนี้ มีใครอยู่อีกหรือไม่ เดี๋ยวจะหาว่าตนเข้าข้าง ซึ่งถ้ามีผู้แทน เดี๋ยวก็ไปบอกลูกพรรคกันเอง
สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เรามีทั้งหมด 18 โครงการ งบประมาณ 1,765,000 ล้านล้านบาท ซึ่งเราจะดูไม่ให้เกินตัวเลขหนี้สาธารณะ เพราะไม่อยากสร้างภาระให้ใคร แต่มันก็เป็นหนี้ก่อให้เกิดรายได้ ไม่ได้เป็นหนี้ที่จม วันนี้ต้องยอมรับมีภาระเยอะ ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะหาว่าผมขายไม่เก่ง ขาดทุนเยอะ มันคนละเรื่อง ใครขายได้ก็ขาย แล้วใครจะมาซื้อข้าวตนล่ะ มีไหม มันขายไม่ได้หรอก จะขายราคาไหน ในเมื่อต้นทุนมีราคาแพง ขายถูกก็ไม่ได้ ขายแพงก็ไม่ได้ มอดก็กินไป แล้วถามว่าจะทำอย่างไรต่อไป มันทำให้บิดเบือนทั้งโลก ตนไปต่างประเทศก็ยังมีคนถามว่า จะทำโครงการนี้อยู่หรือเปล่า เขาบอกราคาข้าวมันบิดเบือนไปทั้งหมด หลายประเทศเกือบไปทำแบบไทย เพราะประชาชนเรียกร้อง แต่เขาใจแข็ง ก็โชคดีไป แต่มันจบไปแล้ว วันนี้เราทำในสิ่งที่เป็นดีมานด์ ที่ถูกต้อง ไม่ใช่บิดเบือน ซัพพลายจะได้ผลิตมาไม่เกินดีมานด์ ไม่รู้จะทำได้ไม่ได้ ตนคิดแบบทหาร ถ้ามันทำได้ จะสนับสนุนแต่ละเรื่องได้เลย สินค้าที่เราส่งออกไปต่างประเทศมีไม่กี่อย่าง เป็นก้อนใหญ่ๆ แต่ราคาต่ำ แต่เวลาซื้อจากต่างประเทศ กลับซื้อได้ของชิ้นเล็ก ราคาแพงกว่า
สำหรับรถไฟฟ้าความเร็วสูง 5 สาย แต่ติดปัญหาเรื่องสัญญาที่มีความยุ่งยาก เนื่องจากต้องมีการเคลียร์เส้นทาง ทำประชาพิจารณ์ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ อย่างคราวที่แล้ว บริหารจัดการน้ำ 9 โมดูล ที่เวลาไปไหนตนก็ถูกท้วงว่า จะได้ทำหรือไม่ ตนตอบว่า จะทำได้ไหม มันทำไม่ได้ อย่างเรื่องรถไฟจีน ตนไม่ได้สักสลึง ไม่มีใครได้ แต่ทำให้เกิดความร่วมมือก้น วันนี้รัฐบาลต้องทำรถไฟความเร็วปานกลาง เพื่อให้คนมีรายได้ปานกลาง และรายได้น้อยขึ้นได้ แต่วันหน้าก็ต้องมีรถไฟความเร็วสูง ซึ่งสิ่งที่ได้มาคือ การค้าขายตามรางรถไฟ ตนมองว่า มีที่ตรงไหนก็ให้คนมีรายได้น้อยไปค้าขาย ส่วนรถไฟความเร็วสูง ควรมีตู้พิเศษให้คนมีรายได้น้อย ทางอากาศมีการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟสที่ 2 ซึ่งติดปัญหาสร้างทางวิ่งรันเวย์ 3 ไม่ได้ เนื่องจากมีการประท้วง เพราะเป็นมลพิษต่อทางหู ของเก่าก็จ่ายไปรอบแล้ว ตนก็เห็นใจ แต่ท่านมองถึงประเทศชาติ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องมีสนามบินเลย ทำอะไรกันไม่ได้ ติดขัดหมด มันต้องมีคนได้ คนเสีย ตรงกลางไม่มี
ส่วนการแก้ปัญหาการจราจรทางอากาศ ที่จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้มีรันเวย์ สำหรับการแก้ไขปัญหาการกํากับดูแลและพัฒนาการบินพลเรือนของประเทศไทย ตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ ได้เข้ามาทําการตรวจสอบการกํากับดูแลความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน ที่เรามีมาตรฐานไม่ตรงกับเขา แต่มันต้องตรวจ รัฐบาลก็เอาทหารอากาศมาช่วย รวมถึงประเทศสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นเข้ามาช่วยรับรอง ไม่อย่างนั้นมันเพิ่มเที่ยวบินไม่ได้ รวมถึงจะมีการทำสนามบินอู่ตะเภา ให้เป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 น่าจะสำเร็จปีนี้ รวมถึงการสร้าางแอร์พอยลิงค์เชื่อมต่อไปถึงสนามบินดอนเมือง เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ที่ผ่านมามีปัญหาเพราะไม่ยอมขึ้นทะเบียน เนื่องจากกลัวภาษี ซึ่งตนยังไม่ได้พูดถึงเลย แต่ขอให้ลงทะเบียนเพื่อคัดกรอง และรัฐบาลจะได้ช่วยเหลือสนับสนุนอย่างตรงจุดต่อไป ส่วนเรื่องภาษีให้เป็นเรื่องวันข้างหน้าที่จะต้องทำให้ดี โดยปี 58-59 จะต้องมีจ่ายภาษีให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ที่พูดแบบนี้อาจทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ตนพูดในสิ่งที่ถูกต้อง วันนี้มีคนเสียภาษีไม่ถึง 10 ล้านคน ประเทศก็ยังอยู่ได้ ถ้าหากมีการเสียภาษีมากกว่านี้ ก็ต้องมีการพัฒนาไปได้มากกว่านี้ จึงฝากกระทรวงการคลังพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำ ได้สั่งการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วางแผนเพราะในวันข้างหน้าน้ำจะมีน้อยเนื่องจากน้ำต้นทุนไม่มี ป่าก็เหี้ยนหนัก ขณะเดียวกันเกษตรกรก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยน อาจจะไปทำด้านการปศุสัตว์บ้าง เพราะสร้างรายได้ดี ต่างประเทศก็นิยม นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้าน 7,000 กว่าหมู่บ้าน ยังไม่มีประปาใช้ ต้องทำให้ได้ในปี 60 ต้องใช้เงินมหาศาล วันนี้ใช้วิธีการขุดบ่อบาดาล ส่วนเรื่องโกงเรื่องทุจริต ตนไม่อยากให้เกิดอยู่แล้ว ต้องไปไล่ดูกัน พร้อมกันนี้ก็ได้ดูแม่น้ำระหว่างประเทศ เพื่อมาเพิ่มเติมน้ำต้นทุน แต่มันมีกฎหมายจึงต้องคุยร่วมกัน
ส่วนเรื่องรถไฟ เรายังเจรจากับจีนอยู่ เพราะปัญหาคือ ราคามันสูง แต่ก็กำลังคุยกันอยู่ตลอดเวลา มีคณะกรรมการ 3 คณะ คุยกันมา 6 รอบ แต่ถ้าจะเอาเร็วเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น ไม่ใช่เงินของตน มันก็ไม่ได้ วันนี้พยายามจะให้เกิดบนความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ขอให้ใจเย็นๆ
ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีการคัดค้านกันเป็นประเด็นมาตลอด คิดว่าต้องมีใครซักคนที่เคลื่อนไหวให้วุ่นวาย แต่ไม่ได้โทษเขานะ เชื่อว่าประชาชนนั้นบริสุทธิ์ แต่คนไทยทั้งประเทศต้องใช้ไฟราคาเดียวกัน ขอให้เข้าใจตรงนี้ อย่าเอาเรื่องเหล่านี้ไปต่อสู้กัน ทำให้เดินไปไม่ได้ ตนไม่ได้โทษใคร
วานนี้ (14 ก.ย.) เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2558 ของ สศช. เรื่อง "ทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ( พ.ศ. 2560-2564)" ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งภายในงานนอกจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และเลขาฯ สศช. ยังมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ สศช. เชิญมาในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมงานด้วย
โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า สิ่งที่สะสมมาในอดีตขอฝากรัฐบาลใหม่แก้ไขด้วย เราจะต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร ทั้งเรื่องกฎหมาย เตรียมคน เพราะสิ่งเหล่านี้จะนำพาประเทศตามรถไฟขบวนที่ 12 จะต้องวิ่งไปข้างหน้า ส่วนการทำงานด้านอื่นๆ การจำนำข้าว เกษตรกร ที่เดือดร้อน คมนาคม บริหารจัดการ ถือว่าเดินหน้าไปมากพอสมควร เห็นเมื่อเช้ามีข่าวบ่นถึงตนอีกแล้วว่า ทำไมต้องทุบสะพานข้ามแยกเกษตร แล้วถามว่าเมื่อไร จะมีรถไฟฟ้าเสียที เอาใจยากนะคนไทย รถไฟก็อยากมี แต่ไม่อยากเดือดร้อน อย่างนี้ไม่ได้ ถือว่าไม่ได้ร่วมเป็นร่วมตายกับคนทั้งประเทศ วันหน้าหากมีการลงทุนเพื่ออนาคต ตนจะไม่ทุบสะพาน แต่ไปหาที่สร้างใหม่ตรงที่ไม่ต้องเดือดร้อนคน แต่ตนทำไม่ได้ เพราะมันสิ้นเปลือง ต้องใช้เวลานาน วุ่นวายไปหมด พอมาทำ คนก็ด่า บอกว่าไม่มีประโยชน์ พวกไม่เห็นประโยชน์เพราะบ้านอยู่ที่อื่น แล้วก็ไม่ขึ้นรถสายนี้ แต่คนที่อยู่ในเส้นทางเขาดีใจ รอรถไฟฟ้าเมื่อไหร่จะขึ้นเสียที คนไทยมีความแตกต่างกันตรงนี้ ไม่เห็นประโยชน์ส่วนรวม ไม่นึกถึงคนอื่น ตรงนี้ต้องแก้เสียที ไม่เช่นนั้นต่อไปจะลำบาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการส่งเสริมเศรษฐกิจ ที่บอกว่าไม่เข้มแข็ง ไม่มีขีดความสามารถเพียงพอ ไม่มีนวัตกรรม ทำให้รายได้การส่งออกลดลง ซึ่งวันนี้รัฐบาลเข้ามาดูทั้งหมด ทั้งการพัฒนาเครื่องจักร และ เอสเอ็มอี ไม่ใช่ให้เงินไปลงทุนอย่างเดียว ต้องให้ความรู้ และค่อยจัดงบรัฐบาลให้ ในส่วนของมาตรการรายย่อย ระดับหมู่บ้านที่ทีมเศรษฐกิจคิดมา คือ มีกองทุนหมู่บ้านและตำบล ให้บริหารเองตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อย่าไปมองว่า ทุจริตกันมากนัก ซึ่งวันนี้รัฐบาลจะลงไปดูแลและให้ใช้ประโยชน์สูงสุดฉะนั้นต้องไปบอกพ่อแม่พี่น้องอย่าเอาเงินไปใช้อะไรสิ้นเปลือง เช่น ซื้อโทรศัพท์ ซื้อมอเตอร์ไซค์ จะเอาไปลงทุนให้เกิดประโยชน์แก่ไร่นาก็ดีกว่า อย่างอื่น ในส่วนของ 5 ล้านตำบล ตอนนี้ก็กระจายให้ไปแล้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ลงไปจัดระเบียบใหม่ ให้อำเภอละ 3 ล้านบาท ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยดี ในส่วนของเอสเอ็มอี รัฐบาลก็ได้เห็นชอบไปแล้ว ก็ทำกันต่อไป
ส่วนเรื่อง กบข. วันนี้ต้องเพิ่มประสิทธิภาพทั้งหมด ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ตัวชี้วัด ทุกอย่างต้องมีตัวชี้วัด เราบอกว่า 20 ปีข้างหน้า จะเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย อย่าไปพูดลอยๆ ต้องวาดภาพอนาคตของตัวเอง ขอให้เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ วันนี้จากการจัดลำดับประเทศเรายังไม่ดีมากนัก อยู่ในระดับ 30 ใน 60 ฉะนั้น เราต้องพัฒนาเรื่องนวัตกรรม อย่างเมื่อก่อนญี่ปุ่น สิงคโปร์ เคยมาดูงานประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงไปดูเกษตรกรเลี้ยงโคกระบือ เขามาเรียนที่บ้านเรา และวันนี้เขานำไปพัฒนาในประเทศเขาแล้วทำได้ดีกว่าเรา ตนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ประเทศไทยยังขาดการบูรณาการร่วมกัน ต้องขอฝากคุณอภิสิทธิ์ ไปด้วย การบูรณาการงานแต่ละกระทรวงนั้นสำคัญ ที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องรัฐบาลผสม ที่พูดเพราะมีนักการเมืองอยู่ตรงนี้ มีใครอยู่อีกหรือไม่ เดี๋ยวจะหาว่าตนเข้าข้าง ซึ่งถ้ามีผู้แทน เดี๋ยวก็ไปบอกลูกพรรคกันเอง
สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เรามีทั้งหมด 18 โครงการ งบประมาณ 1,765,000 ล้านล้านบาท ซึ่งเราจะดูไม่ให้เกินตัวเลขหนี้สาธารณะ เพราะไม่อยากสร้างภาระให้ใคร แต่มันก็เป็นหนี้ก่อให้เกิดรายได้ ไม่ได้เป็นหนี้ที่จม วันนี้ต้องยอมรับมีภาระเยอะ ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะหาว่าผมขายไม่เก่ง ขาดทุนเยอะ มันคนละเรื่อง ใครขายได้ก็ขาย แล้วใครจะมาซื้อข้าวตนล่ะ มีไหม มันขายไม่ได้หรอก จะขายราคาไหน ในเมื่อต้นทุนมีราคาแพง ขายถูกก็ไม่ได้ ขายแพงก็ไม่ได้ มอดก็กินไป แล้วถามว่าจะทำอย่างไรต่อไป มันทำให้บิดเบือนทั้งโลก ตนไปต่างประเทศก็ยังมีคนถามว่า จะทำโครงการนี้อยู่หรือเปล่า เขาบอกราคาข้าวมันบิดเบือนไปทั้งหมด หลายประเทศเกือบไปทำแบบไทย เพราะประชาชนเรียกร้อง แต่เขาใจแข็ง ก็โชคดีไป แต่มันจบไปแล้ว วันนี้เราทำในสิ่งที่เป็นดีมานด์ ที่ถูกต้อง ไม่ใช่บิดเบือน ซัพพลายจะได้ผลิตมาไม่เกินดีมานด์ ไม่รู้จะทำได้ไม่ได้ ตนคิดแบบทหาร ถ้ามันทำได้ จะสนับสนุนแต่ละเรื่องได้เลย สินค้าที่เราส่งออกไปต่างประเทศมีไม่กี่อย่าง เป็นก้อนใหญ่ๆ แต่ราคาต่ำ แต่เวลาซื้อจากต่างประเทศ กลับซื้อได้ของชิ้นเล็ก ราคาแพงกว่า
สำหรับรถไฟฟ้าความเร็วสูง 5 สาย แต่ติดปัญหาเรื่องสัญญาที่มีความยุ่งยาก เนื่องจากต้องมีการเคลียร์เส้นทาง ทำประชาพิจารณ์ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ อย่างคราวที่แล้ว บริหารจัดการน้ำ 9 โมดูล ที่เวลาไปไหนตนก็ถูกท้วงว่า จะได้ทำหรือไม่ ตนตอบว่า จะทำได้ไหม มันทำไม่ได้ อย่างเรื่องรถไฟจีน ตนไม่ได้สักสลึง ไม่มีใครได้ แต่ทำให้เกิดความร่วมมือก้น วันนี้รัฐบาลต้องทำรถไฟความเร็วปานกลาง เพื่อให้คนมีรายได้ปานกลาง และรายได้น้อยขึ้นได้ แต่วันหน้าก็ต้องมีรถไฟความเร็วสูง ซึ่งสิ่งที่ได้มาคือ การค้าขายตามรางรถไฟ ตนมองว่า มีที่ตรงไหนก็ให้คนมีรายได้น้อยไปค้าขาย ส่วนรถไฟความเร็วสูง ควรมีตู้พิเศษให้คนมีรายได้น้อย ทางอากาศมีการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟสที่ 2 ซึ่งติดปัญหาสร้างทางวิ่งรันเวย์ 3 ไม่ได้ เนื่องจากมีการประท้วง เพราะเป็นมลพิษต่อทางหู ของเก่าก็จ่ายไปรอบแล้ว ตนก็เห็นใจ แต่ท่านมองถึงประเทศชาติ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องมีสนามบินเลย ทำอะไรกันไม่ได้ ติดขัดหมด มันต้องมีคนได้ คนเสีย ตรงกลางไม่มี
ส่วนการแก้ปัญหาการจราจรทางอากาศ ที่จะต้องทำอย่างไรเพื่อให้มีรันเวย์ สำหรับการแก้ไขปัญหาการกํากับดูแลและพัฒนาการบินพลเรือนของประเทศไทย ตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ ได้เข้ามาทําการตรวจสอบการกํากับดูแลความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน ที่เรามีมาตรฐานไม่ตรงกับเขา แต่มันต้องตรวจ รัฐบาลก็เอาทหารอากาศมาช่วย รวมถึงประเทศสิงคโปร์ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นเข้ามาช่วยรับรอง ไม่อย่างนั้นมันเพิ่มเที่ยวบินไม่ได้ รวมถึงจะมีการทำสนามบินอู่ตะเภา ให้เป็นสนามบินพาณิชย์แห่งที่ 3 น่าจะสำเร็จปีนี้ รวมถึงการสร้าางแอร์พอยลิงค์เชื่อมต่อไปถึงสนามบินดอนเมือง เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ที่ผ่านมามีปัญหาเพราะไม่ยอมขึ้นทะเบียน เนื่องจากกลัวภาษี ซึ่งตนยังไม่ได้พูดถึงเลย แต่ขอให้ลงทะเบียนเพื่อคัดกรอง และรัฐบาลจะได้ช่วยเหลือสนับสนุนอย่างตรงจุดต่อไป ส่วนเรื่องภาษีให้เป็นเรื่องวันข้างหน้าที่จะต้องทำให้ดี โดยปี 58-59 จะต้องมีจ่ายภาษีให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ที่พูดแบบนี้อาจทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ แต่ตนพูดในสิ่งที่ถูกต้อง วันนี้มีคนเสียภาษีไม่ถึง 10 ล้านคน ประเทศก็ยังอยู่ได้ ถ้าหากมีการเสียภาษีมากกว่านี้ ก็ต้องมีการพัฒนาไปได้มากกว่านี้ จึงฝากกระทรวงการคลังพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำ ได้สั่งการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วางแผนเพราะในวันข้างหน้าน้ำจะมีน้อยเนื่องจากน้ำต้นทุนไม่มี ป่าก็เหี้ยนหนัก ขณะเดียวกันเกษตรกรก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยน อาจจะไปทำด้านการปศุสัตว์บ้าง เพราะสร้างรายได้ดี ต่างประเทศก็นิยม นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้าน 7,000 กว่าหมู่บ้าน ยังไม่มีประปาใช้ ต้องทำให้ได้ในปี 60 ต้องใช้เงินมหาศาล วันนี้ใช้วิธีการขุดบ่อบาดาล ส่วนเรื่องโกงเรื่องทุจริต ตนไม่อยากให้เกิดอยู่แล้ว ต้องไปไล่ดูกัน พร้อมกันนี้ก็ได้ดูแม่น้ำระหว่างประเทศ เพื่อมาเพิ่มเติมน้ำต้นทุน แต่มันมีกฎหมายจึงต้องคุยร่วมกัน
ส่วนเรื่องรถไฟ เรายังเจรจากับจีนอยู่ เพราะปัญหาคือ ราคามันสูง แต่ก็กำลังคุยกันอยู่ตลอดเวลา มีคณะกรรมการ 3 คณะ คุยกันมา 6 รอบ แต่ถ้าจะเอาเร็วเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น ไม่ใช่เงินของตน มันก็ไม่ได้ วันนี้พยายามจะให้เกิดบนความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ขอให้ใจเย็นๆ
ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้ ที่มีการคัดค้านกันเป็นประเด็นมาตลอด คิดว่าต้องมีใครซักคนที่เคลื่อนไหวให้วุ่นวาย แต่ไม่ได้โทษเขานะ เชื่อว่าประชาชนนั้นบริสุทธิ์ แต่คนไทยทั้งประเทศต้องใช้ไฟราคาเดียวกัน ขอให้เข้าใจตรงนี้ อย่าเอาเรื่องเหล่านี้ไปต่อสู้กัน ทำให้เดินไปไม่ได้ ตนไม่ได้โทษใคร