คนไทยแตกตื่นลูกไฟปริศนาระเบิดบนท้องฟ้า คาดตกที่อ.ไทรโยค จ.กาญนบุรี ผู้ว่า-หทาร-ตำรวจ-มูลนิธิ ระดมกำลังค้นหาตามที่ชาวบ้านแจ้ง แต่คว้าน้ำเหลวเหตุเป็นป่าเขาสูงชัน ต้องถอนกำลังกลับ นักดาราศาสตร์คาดเป็นอุกกาบาตขนาดเล็ก ถือเป็นเรื่องปกติ อย่าตื่นตกใจ โหรคสช.ยันไร้อาเพศ ขณะ”ซินแสภาณุวัฒน์”ชี้ตามโหราศาสตร์ไทยถือว่าไม่ดี เตือนรัฐบาลคุมเกมให้อยู่
เมื่อเวลา 08.40 น. วานนี้(7 ก.ย.) เกิดปรากฏการลูกไฟคล้ายระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า โดยมีผู้พบเห็นหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี จ.นครราชสีมา จ.นครปฐม และจ.กาญจนบุรี ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ติดตั้งกล้องหน้ารถ สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้ เบื้องต้นต่างตระหนกตกใจเพราะคิดว่าการระเบิดของอากาศยาน โดยเฉพาะที่จ.กาญจนบุรี ซึ่งชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิดชัดเจน และพบว่ามีกลุ่มควันลอยขึ้นมาบริเวณภูเขา ซึ่งยังระบุชัดเจนไม่ได้ว่าอยู่เขตอ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี หรืออ.ศรีสวัสดิ์
ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “เฉลิมพันธ์ ประธาน ประดาน้ำภาค 7” ระบุว่า “ยืนยันสถานที่ตกจริง หมู่ 5 บ้านแม่ลำดวน บริเวณถ้ำพระธาตุ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังโรงพยาบาลปิยะบารมี ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย มีเหตุจริงครับ จนท.กำลังจัดเตรียมกู้ภัยเข้าพื้นที่ครับ”
เวลา 10.30 น. ข่าวแจ้งว่าผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ชาวบ้านบอกว่าพบชิ้นส่วนลูกไฟปริศนาแล้วในพื้นที่หมู่ 5 บ้านแม่ลำดวน บริเวณถ้ำพระธาตุ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าตรวจสอบอยู่ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนอะไร
เวลา 11.30 น. กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร. 9)ได้เตรียมนำเฮลิคอปเตอร์ออกบินสำรวจ ขณะที่บริเวณโรงพยาบาลปิยะบารมี มีประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวพากันมาเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพิ่อความชัดเจนว่าเป็นเครื่องบินตกหรืออุกกาบาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ ผู้บัญชาการ พล.ร 9 สั่งการให้กำลังพลเข้าตรวจสอบที่มาของเสียงในอ.ไทรโยค และอ.ศรีสวัสดิ์ ขณะที่ทางจังหวัดได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปสำรวจในพื้นที่ซึ่งพบว่ามีกลุ่มควันลอยขึ้นมาแล้ว
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ว่าลูกไฟที่พุ่งเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งประชาชนมองเห็นและถ่ายคลิปไว้ได้หลายพื้นที่ ไม่ใช่ขยะอวกาศหรือซากดาวเทียม แต่เป็นอุกกาบาตที่พุ่งมาจากนอกโลก จากทางตะวันออกเฉียงใต้ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งที่จ.กาญจนบุรี อยู่ในระดับประมาณ 50 องศา ส่วนจ.นนทบุรี อยู่ในระดับ 20 องศา หรือสูงจากผิวโลกไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตร พุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง จนเกิดการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศและลุกเป็นไป
“ดูจากขนาดลูกไฟที่เห็นแล้วไม่น่าจะใหญ่มาก มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นลูกไฟ (Fireball)ที่เกิดจากอุกกาบาตขนาดเล็ก ผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงมาก เสียดสีจนเกิดความร้อนจนลุกไหม้ เห็นเป็นลูกไฟ และมีควันขาวที่เห็นเป็นทางยาว มีความสว่างมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับมวลของวัตถุนั้นๆ ไม่เป็นอันตรายต่ออากาศยานหรือเครื่องบิน เนื่องจากอยู่ในระดับความสูง ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะดูแล้วคาดว่ามีน้ำหนักเป็นกิโลกรัม ไม่ใหญ่มากนัก เหมือนที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นอุกกาบาตเป็นลูกใหญ่ ทำให้บ้านเรือนและอาคารเสียหายไปด้วย”
นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จากการพิสูจน์ทราบพบว่ามีกลุ่มควันในต.วังกระแจะ และต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่เดินเท้าได้เข้าไปสำรวจยังจุดที่มีกลุ่มควัน ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างหมู่ 5 หมู่ 8 ต.วังกระแจะ และหมู่ 4 ต.บ้องตี้
พล.ต.ณัฐ สั่งการให้พ.อ.สราวุธ ไชยสิทธิ์ รองผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรีสีห์ นำ เฮลิคอปเตอร์ออกบินสำรวจพื้นที่ต.แม่กระบุง อ.ศรีสวัสดิ์ และหมู่ 5 หมู่ 8 ต.วังกระแจะ ใช้เวลาจุดละประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ไม่พบวัถตุต้องสงสัย
ส่วน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี สั่งการให้พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค นำกำลังร่วมกับฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครองออกหาข่าวจากผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนนายวันชัยประสานฝ่ายปกครองอำเภอศรีสวัสดิ์ โดยนายเสรี คงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ และนายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอไทรโยค นำกำลังอาสาสมัคร ของแต่ละพื้นที่ออกหาข่าวกับผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่เช่นกัน
ล่าสุดเวลา 16.30 น.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ถอนกำลังกลับที่ตั้งของแต่ละหน่วยแล้ว เพราะพื้นที่ซึ่งได้รับแจ้งส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขาสูงชัน โดยฝากประชาสัมพันธ์กับชาวบ้าน หากผู้ใดพบเห็นวัตถุต้องสงสัย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที่ เพื่อจะได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหรคสช. กล่าวว่า เป็นปรากกฏธรรมชาติ เป็นความบังเอิญ ไม่ได้เป็นลางร้ายหรืออาเพศอะไร ส่วนการไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ อย่างที่ตนได้ทำนายไว้ ตั้งแต่ปี 57 เมื่อมีการรัฐประหาร ดูโดยหลวงปู่ได้เปิดนิมิตว่า การตั้งโรดแมปในครั้งแรกของคสช. เป็นไปไม่ได้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. จะต้องทำหน้าที่นายกฯอย่างน้อย 2-3 ปี และประจักษ์แล้วอย่างที่ตนทำนาย และการไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของความคิดเห็นของผู้คนต่างกัน แต่ไม่ใช่ว่าความเชื่อโบราณที่ว่าฝนดาวตกจะเกิดอาเพศ ตนจะตัดทิ้ง แต่ต้องดูด้วยเหตุด้วยผลด้วย และจากการเล็งจากนิมิตไม่มีเหตุเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมือง การร่างรัฐธรรมนูญในครั้งที่สอง ดูการจัดตั้งทีมงานมาร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้แล้ว น่าสมบูรณ์กว่าที่ผ่านมา ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นความต้องการของประชาชน หรือแม้การใช้ มาตรา 44 ได้วางมาตรการเอาไว้แล้ว เพื่อความสงบสุขของชาติบ้านเมือง เหตุการณ์ต่างๆ จะไม่มีอะไร ทุกอย่างจะเรียบร้อยไม่น่าเกินปี 2561
ด้านนายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง กล่าวว่า เรื่องอุกาบาตตกนั้นถ้าตามโหราศาสตร์ไทยไม่ดีอยู่แล้ว ส่วนตนยึดโหราศาสตร์จีนว่าเดือนก.ย.นี้ จะมีการฟื้นฝอยหาตะเข็บ มีเรื่องจุกจิกวุ่นวายเกิดขึ้น จะมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวมาเรื่อยๆ อาจมีข่าวลือทำให้สังคมเกิดความสับสนวุ่นวาย เหมือนคนเมื่อคบคนใหม่ๆก็เอาอกเอาใจ แต่คนเก่าที่อยู่มานานเริ่มตีตัวออกห่าง ไม่ให้ความสำคัญ การดำเนินการงานรัฐบาลก็จะเกิดภาวะอย่างนั้น คนที่อยู่เก่าจะไม่มั่นใจ หรือมีปัญหาที่จะตามมา ดังนั้นจะทำอะไรฟังความรอบข้าง ดูให้ดี อย่าไปเต้นตามกระแส หรือสิ่งที่คนใหม่ๆเสนอเข้ามา จะส่งผลให้มีปัญหาในอนาคตได้ รัฐบาลช่วงนี้ไม่มีอะไร มีแค่จุกจิก จะห่วงเดือนต.ค. จะมีระเบิด ปืน ไฟขึ้นอีก ดังนั้นรัฐบาลต้องคุมเกมให้ได้
เมื่อเวลา 08.40 น. วานนี้(7 ก.ย.) เกิดปรากฏการลูกไฟคล้ายระเบิดขึ้นบนท้องฟ้า โดยมีผู้พบเห็นหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานคร จ.นนทบุรี จ.นครราชสีมา จ.นครปฐม และจ.กาญจนบุรี ผู้ขับขี่รถยนต์ที่ติดตั้งกล้องหน้ารถ สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้ เบื้องต้นต่างตระหนกตกใจเพราะคิดว่าการระเบิดของอากาศยาน โดยเฉพาะที่จ.กาญจนบุรี ซึ่งชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิดชัดเจน และพบว่ามีกลุ่มควันลอยขึ้นมาบริเวณภูเขา ซึ่งยังระบุชัดเจนไม่ได้ว่าอยู่เขตอ.ไทรโยค อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี หรืออ.ศรีสวัสดิ์
ต่อมามีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “เฉลิมพันธ์ ประธาน ประดาน้ำภาค 7” ระบุว่า “ยืนยันสถานที่ตกจริง หมู่ 5 บ้านแม่ลำดวน บริเวณถ้ำพระธาตุ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังโรงพยาบาลปิยะบารมี ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย มีเหตุจริงครับ จนท.กำลังจัดเตรียมกู้ภัยเข้าพื้นที่ครับ”
เวลา 10.30 น. ข่าวแจ้งว่าผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ชาวบ้านบอกว่าพบชิ้นส่วนลูกไฟปริศนาแล้วในพื้นที่หมู่ 5 บ้านแม่ลำดวน บริเวณถ้ำพระธาตุ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเข้าตรวจสอบอยู่ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นชิ้นส่วนอะไร
เวลา 11.30 น. กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร. 9)ได้เตรียมนำเฮลิคอปเตอร์ออกบินสำรวจ ขณะที่บริเวณโรงพยาบาลปิยะบารมี มีประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวพากันมาเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพิ่อความชัดเจนว่าเป็นเครื่องบินตกหรืออุกกาบาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ ผู้บัญชาการ พล.ร 9 สั่งการให้กำลังพลเข้าตรวจสอบที่มาของเสียงในอ.ไทรโยค และอ.ศรีสวัสดิ์ ขณะที่ทางจังหวัดได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปสำรวจในพื้นที่ซึ่งพบว่ามีกลุ่มควันลอยขึ้นมาแล้ว
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ว่าลูกไฟที่พุ่งเข้ามาในชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งประชาชนมองเห็นและถ่ายคลิปไว้ได้หลายพื้นที่ ไม่ใช่ขยะอวกาศหรือซากดาวเทียม แต่เป็นอุกกาบาตที่พุ่งมาจากนอกโลก จากทางตะวันออกเฉียงใต้ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งที่จ.กาญจนบุรี อยู่ในระดับประมาณ 50 องศา ส่วนจ.นนทบุรี อยู่ในระดับ 20 องศา หรือสูงจากผิวโลกไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตร พุ่งลงมาด้วยความเร็วสูง จนเกิดการเสียดสีกับชั้นบรรยากาศและลุกเป็นไป
“ดูจากขนาดลูกไฟที่เห็นแล้วไม่น่าจะใหญ่มาก มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นลูกไฟ (Fireball)ที่เกิดจากอุกกาบาตขนาดเล็ก ผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงมาก เสียดสีจนเกิดความร้อนจนลุกไหม้ เห็นเป็นลูกไฟ และมีควันขาวที่เห็นเป็นทางยาว มีความสว่างมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับมวลของวัตถุนั้นๆ ไม่เป็นอันตรายต่ออากาศยานหรือเครื่องบิน เนื่องจากอยู่ในระดับความสูง ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะดูแล้วคาดว่ามีน้ำหนักเป็นกิโลกรัม ไม่ใหญ่มากนัก เหมือนที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นอุกกาบาตเป็นลูกใหญ่ ทำให้บ้านเรือนและอาคารเสียหายไปด้วย”
นายวันชัย โอสุคนธ์ทิพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า จากการพิสูจน์ทราบพบว่ามีกลุ่มควันในต.วังกระแจะ และต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่เดินเท้าได้เข้าไปสำรวจยังจุดที่มีกลุ่มควัน ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างหมู่ 5 หมู่ 8 ต.วังกระแจะ และหมู่ 4 ต.บ้องตี้
พล.ต.ณัฐ สั่งการให้พ.อ.สราวุธ ไชยสิทธิ์ รองผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรีสีห์ นำ เฮลิคอปเตอร์ออกบินสำรวจพื้นที่ต.แม่กระบุง อ.ศรีสวัสดิ์ และหมู่ 5 หมู่ 8 ต.วังกระแจะ ใช้เวลาจุดละประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ไม่พบวัถตุต้องสงสัย
ส่วน พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี สั่งการให้พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค นำกำลังร่วมกับฝ่ายทหาร และฝ่ายปกครองออกหาข่าวจากผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนนายวันชัยประสานฝ่ายปกครองอำเภอศรีสวัสดิ์ โดยนายเสรี คงอยู่ นายอำเภอศรีสวัสดิ์ และนายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอไทรโยค นำกำลังอาสาสมัคร ของแต่ละพื้นที่ออกหาข่าวกับผู้นำท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่เช่นกัน
ล่าสุดเวลา 16.30 น.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ถอนกำลังกลับที่ตั้งของแต่ละหน่วยแล้ว เพราะพื้นที่ซึ่งได้รับแจ้งส่วนใหญ่เป็นป่าและภูเขาสูงชัน โดยฝากประชาสัมพันธ์กับชาวบ้าน หากผู้ใดพบเห็นวัตถุต้องสงสัย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทราบทันที่ เพื่อจะได้นำกำลังเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือโหรคสช. กล่าวว่า เป็นปรากกฏธรรมชาติ เป็นความบังเอิญ ไม่ได้เป็นลางร้ายหรืออาเพศอะไร ส่วนการไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ อย่างที่ตนได้ทำนายไว้ ตั้งแต่ปี 57 เมื่อมีการรัฐประหาร ดูโดยหลวงปู่ได้เปิดนิมิตว่า การตั้งโรดแมปในครั้งแรกของคสช. เป็นไปไม่ได้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. จะต้องทำหน้าที่นายกฯอย่างน้อย 2-3 ปี และประจักษ์แล้วอย่างที่ตนทำนาย และการไม่ผ่านร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของความคิดเห็นของผู้คนต่างกัน แต่ไม่ใช่ว่าความเชื่อโบราณที่ว่าฝนดาวตกจะเกิดอาเพศ ตนจะตัดทิ้ง แต่ต้องดูด้วยเหตุด้วยผลด้วย และจากการเล็งจากนิมิตไม่มีเหตุเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมือง การร่างรัฐธรรมนูญในครั้งที่สอง ดูการจัดตั้งทีมงานมาร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้แล้ว น่าสมบูรณ์กว่าที่ผ่านมา ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นความต้องการของประชาชน หรือแม้การใช้ มาตรา 44 ได้วางมาตรการเอาไว้แล้ว เพื่อความสงบสุขของชาติบ้านเมือง เหตุการณ์ต่างๆ จะไม่มีอะไร ทุกอย่างจะเรียบร้อยไม่น่าเกินปี 2561
ด้านนายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดัง กล่าวว่า เรื่องอุกาบาตตกนั้นถ้าตามโหราศาสตร์ไทยไม่ดีอยู่แล้ว ส่วนตนยึดโหราศาสตร์จีนว่าเดือนก.ย.นี้ จะมีการฟื้นฝอยหาตะเข็บ มีเรื่องจุกจิกวุ่นวายเกิดขึ้น จะมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวมาเรื่อยๆ อาจมีข่าวลือทำให้สังคมเกิดความสับสนวุ่นวาย เหมือนคนเมื่อคบคนใหม่ๆก็เอาอกเอาใจ แต่คนเก่าที่อยู่มานานเริ่มตีตัวออกห่าง ไม่ให้ความสำคัญ การดำเนินการงานรัฐบาลก็จะเกิดภาวะอย่างนั้น คนที่อยู่เก่าจะไม่มั่นใจ หรือมีปัญหาที่จะตามมา ดังนั้นจะทำอะไรฟังความรอบข้าง ดูให้ดี อย่าไปเต้นตามกระแส หรือสิ่งที่คนใหม่ๆเสนอเข้ามา จะส่งผลให้มีปัญหาในอนาคตได้ รัฐบาลช่วงนี้ไม่มีอะไร มีแค่จุกจิก จะห่วงเดือนต.ค. จะมีระเบิด ปืน ไฟขึ้นอีก ดังนั้นรัฐบาลต้องคุมเกมให้ได้