วานนี้ (7ก.ย.) ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องที่ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท เนชั่น บอรดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดี 1-3 ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ( กสท.) เพื่อให้ขอให้ศาลฯ สั่งเพิกถอนมติของ กสท. ในการประชุมครั้งที่ 11/2558 เมื่อวันที่ 23 มี.ค.58 และมติการประชุมครั้งที่ 12 /2558 วันที่ 30 มี.ค. 58 ในส่วนที่ให้ถือการงดออกเสียงของกรรมการ กสท. กรณีที่ บริษัทโซลูชั่น คอนเนอร์ ( 1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เจ้าของทีวีดิจิทัล ช่องข่าว สปริงนิวส์ เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ในบริษัทช่องข่าวเนชั่น เกิน 10% ไม่ขัดหลักเกณฑ์ประกาศการประมูลทีวีดิจิทัล มีผลเท่ากับไม่เห็นชอบกับข้อเสนอของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ กสท. ดำเนินการออกคำสั่งทางปกครองไปยัง บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ในฐานะผู้รับใบอนุญาตให้กระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้ SlC และกล่มผู้ถือห้นรายใหม่ ที่เกี่ยวข้อง ปรับลดสัดส่วนการถือครองห้นในบริษัทเนชั่นฯ เพื่อแก้ไขไม่ให้มีความสัมพันธ์ในลักษณะการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ฟ้องคดีทั้งสาม ไม่ให้เกิดการแทรกแซง ครอบงำกิจการ ระหว่างผู้รับใบอนุญาต และผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันตามกฎหมายไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
โดยศาลเห็นว่า ขณะที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสามนำข้อพิพาทในคดีมาฟ้องต่อศาล กสท. หรือผู้มีอำนาจพิจารณาข้อร้องเรียนของ บริษัทเอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 3 ในกรณีนี้ยังมิได้แจ้งมติของ กสท. ที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ ที่มีผลกระทบต่อสิทธิ หรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีทั้งสามโดยตรงให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสามทราบตามนัย มาตรา 42 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง 2539 มติ กสท.ดังกล่าว จึงไม่อาจถือเป็นคำสั่งทางปกครองตาม มาตรา 5 ของพระราชบัญญัติเดียวกัน อันจะเป็นมูฐานที่มาแห่งสิทธิในการนำข้อพิพาทหรือคดีนี้มาฟ้องศาลได้ ทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสาม จึงยังไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีนี้ต่อศาลตาม มาตรา 42 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ศาลจึงไม่อาจรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาได้ แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ฟ้องคดีที่จะนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีตามกฎหมาย เมื่อ บริษัทเอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 3 ได้รับแจ้งผลการพิจารณาข้อร้องเรียนจาก กสท. หรือผู้มีอำนาจพิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าว
โดยศาลเห็นว่า ขณะที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสามนำข้อพิพาทในคดีมาฟ้องต่อศาล กสท. หรือผู้มีอำนาจพิจารณาข้อร้องเรียนของ บริษัทเอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 3 ในกรณีนี้ยังมิได้แจ้งมติของ กสท. ที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ ที่มีผลกระทบต่อสิทธิ หรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีทั้งสามโดยตรงให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสามทราบตามนัย มาตรา 42 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง 2539 มติ กสท.ดังกล่าว จึงไม่อาจถือเป็นคำสั่งทางปกครองตาม มาตรา 5 ของพระราชบัญญัติเดียวกัน อันจะเป็นมูฐานที่มาแห่งสิทธิในการนำข้อพิพาทหรือคดีนี้มาฟ้องศาลได้ ทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสาม จึงยังไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีนี้ต่อศาลตาม มาตรา 42 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ศาลจึงไม่อาจรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาได้ แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ฟ้องคดีที่จะนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีตามกฎหมาย เมื่อ บริษัทเอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 3 ได้รับแจ้งผลการพิจารณาข้อร้องเรียนจาก กสท. หรือผู้มีอำนาจพิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าว