ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องที่ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) , บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดี 1 - 3 ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เพื่อให้ขอให้ศาลฯ สั่งเพิกถอนมติของ กสท.ในการประชุมครั้งที่ 11/2558 เมื่อวันที่ 23 มี.ค.และมติการประชุมครั้งที่ 12/2558 วันที่ 30 มี.ค.ในส่วนที่ให้ถือการงดออกเสียงของกรรมการ กสท.กรณีที่บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด มหาชน หรือ SLC เจ้าของทีวีดิทัลช่องข่าวสปริงนิวส์ เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัลในบริษัทช่องข่าวเนชั่น เกิน 10% ไม่ขัดหลักเกณฑ์ประกาศการประมูลทีวีดิจิทัล มีผลเท่ากับไม่เห็นชอบกับข้อเสนอของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
และที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ กสท.ดำเนินการออกคำสั่งทางปกครองไปยังบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ในฐานะผู้รับใบอนุญาต ให้กระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้ SlC และกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เกี่ยวข้องปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในบริษัทเนชั่นฯ เพื่อแก้ไขไม่ให้มีความสัมพันธ์ในลักษณะการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ฟ้องคดีทั้งสามไม่ให้เกิดการแทรกแซง ครอบงำกิจการระหว่างผู้รับใบอนุญาตและผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันตามกฎหมาย ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
โดยศาลเห็นว่า ขณะที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสามนำข้อพิพาทในคดีมาฟ้องต่อศาล กสท.หรือผู้มีอำนาจพิจารณาข้อร้องเรียนของบริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 3 ในกรณีนี้ยังมิได้แจ้งมติของ กสท.ที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ ที่มีผลกระทบต่อสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีทั้งสามโดยตรง ให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสามทราบตามนัยมาตรา 42 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง 2539 มติ กสท.ดังกล่าว จึงไม่อาจถือเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติเดียวกัน อันจะเป็นมูลฐานที่มาแห่งสิทธิในการนำข้อพิพาทหรือคดีนี้มาฟ้องศาลได้ ทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสามจึงยังไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีนี้ต่อศาลตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ศาลจึงไม่อาจรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาได้ แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ฟ้องคดีที่จะนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีตามกฎหมาย เมื่อบริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 3 ได้รับแจ้งผลการพิจารณาข้อร้องเรียนจาก กสท.หรือผู้มีอำนาจพิจาณณาข้อร้องเรียนดังกล่าว
และที่ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ กสท.ดำเนินการออกคำสั่งทางปกครองไปยังบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ในฐานะผู้รับใบอนุญาต ให้กระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้ SlC และกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่เกี่ยวข้องปรับลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในบริษัทเนชั่นฯ เพื่อแก้ไขไม่ให้มีความสัมพันธ์ในลักษณะการเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้ฟ้องคดีทั้งสามไม่ให้เกิดการแทรกแซง ครอบงำกิจการระหว่างผู้รับใบอนุญาตและผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันตามกฎหมาย ไว้พิจารณาและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
โดยศาลเห็นว่า ขณะที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสามนำข้อพิพาทในคดีมาฟ้องต่อศาล กสท.หรือผู้มีอำนาจพิจารณาข้อร้องเรียนของบริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 3 ในกรณีนี้ยังมิได้แจ้งมติของ กสท.ที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ ที่มีผลกระทบต่อสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีทั้งสามโดยตรง ให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสามทราบตามนัยมาตรา 42 วรรคหนึ่งของ พ.ร.บ.วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง 2539 มติ กสท.ดังกล่าว จึงไม่อาจถือเป็นคำสั่งทางปกครองตามมาตรา 5 ของพระราชบัญญัติเดียวกัน อันจะเป็นมูลฐานที่มาแห่งสิทธิในการนำข้อพิพาทหรือคดีนี้มาฟ้องศาลได้ ทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสามจึงยังไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีนี้ต่อศาลตามมาตรา 42 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ศาลจึงไม่อาจรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาได้ แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ฟ้องคดีที่จะนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาลใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดีตามกฎหมาย เมื่อบริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ 3 ได้รับแจ้งผลการพิจารณาข้อร้องเรียนจาก กสท.หรือผู้มีอำนาจพิจาณณาข้อร้องเรียนดังกล่าว