ASTVผู้จัดการรายวัน – เสนาฯชี้ธุรกิจอสังหาฯครึ่งปีหลังยังชะลอ เดินหน้ารุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปขยายฐานลูกค้าจากบ้านสู่โรงงาน ลาร์สุดเจรจาซื้อหุ้นบริษัทรับเหมาติดตั้งแผงโซล่าเล็งถือหุ้นใหญ่เกิน 40% คาดได้ข้อสรุปภายในเดือนก.ย.นี้ ส่วนแผนครึ่งปีหลังชะลอเปิดลงทุนคอนโดฯหันเปิดบ้านแนวราบ 3 โครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาท
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งปีหลัง 2558จะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะตลาดระดับบน เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังมีอยู่มากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวไม่มากนัก ขณะที่ตลาดระดับล่าง หรือ ระดับราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ยังมีแนวโน้มที่มีความเสี่ยงค่อนข้างมาก จากผลกระทบของปัญหาหนี้ครัวเรือน และ การคุมเข้มของธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยกู้สินเชื่อบ้าน
จากภาวะข้างต้นทำให้ช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มจำนวน 3 โครงการ โดยจะเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการพัฒนาโครงการโซลาร์รูฟท็อป ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งโครงสร้างแผนดำเนินธุรกิจจะเป็นสัดส่วนอสังหาริมทรัพย์ที่ 85% ธุรกิจบริการ 5%และ ธุรกิจโซลาร์ 10% โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เจรจาในการร่วมทุนกับบริษัทผู้รับเหมาติดตั้งแผงโซลาร์ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่น้อยกว่า 40%คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนนี้
“ครึ่งปีหลังบริษัทยังคงรุกโครงการโซลาร์รูฟท็อปต่อไป นอกจากการติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัยแล้ว บริษัทยังได้ขยายการทำตลาดไปยังหลังคาโรงงานอีกด้วย แต่เราไม่ได้ละทิ้งการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ สำหรับเป้าหมายการทำกำไร ปีนี้ทุกคนได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ อาจจะมีกำไรได้น้อยลงบ้าง แต่เป็นกำไรที่เป็นมาตรฐาน ปีนี้เราเปิดปิดตามสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาเราชะลอโครงการคอนโดมิเนียมบางโครงการ และ นำไปเปิดปีหน้า ในส่วนกลยุทธ์การตลาด บริษัทยังคงทำแคมเปญอย่างต่อเนื่อง โดยระยะยาวเราจะมีการให้บริการที่ดีอย่างเนื่อง การทำผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาด ลดแลก แจกแถม เป็นต้น” นางสาวเกษรา กล่าว
ในส่วนของธุรกิจพลังงาน คือโครงการโซลาร์ฟาร์มที่บริษัทร่วมทุนกับ บริษัท บี กริม พาวเวอร์ จำกัด ปัจจุบันนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 46.5 เมกะวัตต์ จำนวน 2 แห่ง ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในสิ้นปีนี้ โดยใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 60-70 ล้านบาท นอกจากนี้ช่วงเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ของโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่ติดตั้งบนหลังคาโกดังสินค้าของบริษัทสุขุมวิทแล้ว โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 750 กิโลวัตต์ ซึ่งจะทำให้ปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 3.5 ล้านบาท และในปี 2559 จะรับรู้รายได้ที่จำนวน 7ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทได้ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน 351.76 ล้านหุ้น จาก 882.75 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 262.76 ล้านหุ้น และเสนอขายให้กับบุคคลเฉพาะเจาะจง 87.59ล้านหุ้น ในของส่วนแผนเอาบริษัทโซลาร์ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะนี้ได้มีการเตรียมพร้อม แต่อยากให้พอร์ตมีการขยายและเติบโตมากกว่านี้สักระยะ คาดว่า 3 ปีจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยจะนำเข้าไปในตลาด MAI สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 2,500-2.600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดขายประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท และมีรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งปีหลัง 2558จะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะตลาดระดับบน เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังมีอยู่มากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวไม่มากนัก ขณะที่ตลาดระดับล่าง หรือ ระดับราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ยังมีแนวโน้มที่มีความเสี่ยงค่อนข้างมาก จากผลกระทบของปัญหาหนี้ครัวเรือน และ การคุมเข้มของธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยกู้สินเชื่อบ้าน
จากภาวะข้างต้นทำให้ช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มจำนวน 3 โครงการ โดยจะเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังได้มีการพัฒนาโครงการโซลาร์รูฟท็อป ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งโครงสร้างแผนดำเนินธุรกิจจะเป็นสัดส่วนอสังหาริมทรัพย์ที่ 85% ธุรกิจบริการ 5%และ ธุรกิจโซลาร์ 10% โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เจรจาในการร่วมทุนกับบริษัทผู้รับเหมาติดตั้งแผงโซลาร์ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่น้อยกว่า 40%คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกันยายนนี้
“ครึ่งปีหลังบริษัทยังคงรุกโครงการโซลาร์รูฟท็อปต่อไป นอกจากการติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัยแล้ว บริษัทยังได้ขยายการทำตลาดไปยังหลังคาโรงงานอีกด้วย แต่เราไม่ได้ละทิ้งการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ สำหรับเป้าหมายการทำกำไร ปีนี้ทุกคนได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจ อาจจะมีกำไรได้น้อยลงบ้าง แต่เป็นกำไรที่เป็นมาตรฐาน ปีนี้เราเปิดปิดตามสถานการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งที่ผ่านมาเราชะลอโครงการคอนโดมิเนียมบางโครงการ และ นำไปเปิดปีหน้า ในส่วนกลยุทธ์การตลาด บริษัทยังคงทำแคมเปญอย่างต่อเนื่อง โดยระยะยาวเราจะมีการให้บริการที่ดีอย่างเนื่อง การทำผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาด ลดแลก แจกแถม เป็นต้น” นางสาวเกษรา กล่าว
ในส่วนของธุรกิจพลังงาน คือโครงการโซลาร์ฟาร์มที่บริษัทร่วมทุนกับ บริษัท บี กริม พาวเวอร์ จำกัด ปัจจุบันนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 46.5 เมกะวัตต์ จำนวน 2 แห่ง ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในสิ้นปีนี้ โดยใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 60-70 ล้านบาท นอกจากนี้ช่วงเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ของโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่ติดตั้งบนหลังคาโกดังสินค้าของบริษัทสุขุมวิทแล้ว โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 750 กิโลวัตต์ ซึ่งจะทำให้ปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 3.5 ล้านบาท และในปี 2559 จะรับรู้รายได้ที่จำนวน 7ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทได้ประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน 351.76 ล้านหุ้น จาก 882.75 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 262.76 ล้านหุ้น และเสนอขายให้กับบุคคลเฉพาะเจาะจง 87.59ล้านหุ้น ในของส่วนแผนเอาบริษัทโซลาร์ เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะนี้ได้มีการเตรียมพร้อม แต่อยากให้พอร์ตมีการขยายและเติบโตมากกว่านี้สักระยะ คาดว่า 3 ปีจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยจะนำเข้าไปในตลาด MAI สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 2,500-2.600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดขายประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท และมีรายได้ที่ 2,000 ล้านบาท