พีดีเฮ้าส์ฯ เร่งหารือที่ปรึกษาการเงินหาข้อสรุปเข้าตลาด MAI หรือ SET ขายฝันหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ แตกไลน์ลุยอสังหาฯ ตจว. เผยแผนปี 58 เร่งพัฒนาแฟรนไชส์ จัดกิจกรรมการตลาดสร้างการรับรู้ลูกค้าต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าจัดมหกรรมสร้างบ้านภาคใต้ครั้งแรก หวังปลุกตลาดหลังภาคใต้ตลาดซบต่อเนื่อง 2 ปีติด เชื่อกิจกรรมตลาดสร้างการรับรู้-เข้าถึงลูกค้าช่วย แฟรนไชส์ทำตลาดเพิ่มแชร์ตลาดบ้านสร้างเอง ตั้งเป้าปี 58 ยอดขายรวม 2,200-2,300 ล้านบาท โตจากปี 57 ที่มียอดขายรวม 1,700 ล้านบาท กว่า20%
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด ผู้ให้บริการแฟรนไชส์ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม เปิดเผยว่า แผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาการเงิน ซึ่งยังไม่ชัดว่าจะนำเข้าจดทะเบียน และกระจายหุ้นในตลาด MAI หรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากต้องการศึกษา และดูความพร้อมของบริษัทว่าเหมาะจะเข้ากระจายหุ้นในตลาดใด อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้บริษัทยังมีการเดินหน้าปรับระบบบัญชีและเอกสารรวมถึงระเบียบการดำเนินงานทั้งระบบเพื่อให้ตรงกับข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการทั้งหมดประมาณ 2 ปี จึงจะพร้อมที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดเต็มรูปแบบ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจภายหลังจากการเข้าจดทะเบียน และนำหุ้นกระจายในตลาดแล้ว คาดว่าจะมีการขยายธุรกิจไปในเซกเมนต์ใหม่ๆ เช่น การพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ และผลตอบแทนที่ดี ทั้งนี้ การขยายธุรกิจเข้าสู่ภาคอสังหาฯ นั้นจะไม่เน้นการลงทุนพัฒนาโครงการในพื้นที่ กทม. แต่จะเน้นทำตลาดในต่างจังหวัด ซึ่งบริษัทมีฐานลูกค้าที่รู้จักและยอมรับในคุณภาพและแบรนด์ของพีดีเฮ้าส์ โดยถือว่าเป็นจุดแข็งของบริษัทที่จะทำให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการในต่างจังหวัด และบริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ในตลาดที่ขยายการลงทุนจาก กทม.ได้
“ตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่ กทม.นั้นมีการแข่งขันสูง หากเราเข้าสู่ตลาด และจับตลาด กทม.ซึ่งมีรายใหญ่ และรายกลางในตลาดที่มีความชำนาญในพื้นที่อยู่แล้วอาจจะส่งผลทำให้โครงที่พัฒนาออกมาต้องประสบปัญหาการแข่งขันมากกว่าการลงทุนพพัฒนาโครงการในต่างจังหวัด ซึ่งใน กทม.นั้นลูกค้าจะรู้จักแบรนด์ใหญ่ทำให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ทำตลาดได้ยาก”
ส่วนแผนธุรกิจในปี 2558 จะเน้นการสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านภาคใต้ ซึ่งมีอัตราการเติบโตหดตัวต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยในปีนี้บริษัทจะจัดกิจกรรมมาร์เก็ตติ้งผ่านงานมหกรรมรับสร้างบ้านในภาตใต้เป็นครั้งแรก เพื่อสร้างการรับรู้ และเข้าถึงลูกค้า และแชร์ส่วนตลาดบ้านสร้างเองที่อยู่ในมือผู้รับเหมาก่อสร้างให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเป็นการส่งเสริมการตลาดให้สมาชิกแฟรนไชส์ด้วย
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถปิดยอดขายที่ 1,700 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวมที่ 2,200-2,300 ล้านบาท หรือมียอดขายเติบโตจากปีนี้ 20% โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นในปีหน้าจะมาจากสาขาพีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม ที่ให้บริการรวม 34 สาขา และสาขาใหม่ ซึ่งในปี 58 บริษัทจะมีการขยายสาขาพีดีเฮ้าส์เพิ่ม 7 สาขา แบ่งเป็นสาขาพีดีเฮ้าส์ 5 สาขา ประกอบด้วยสาขา มหาสารคราม ชัยภูมิ นครพนม จันทบุรี และสระแก้ว ส่วนเอคิวโฮม จะเปิดเพิ่ม 2 สาขาประกอบด้วย สาขา กทม. 1 สาขา และสาขาปริมณฑลอีก 1 สาขา