ASTVผู้จัดการรายวัน-กองปราบประชุมเร่งติดตามคดีการเสียชีวิตอย่างปริศนา "เสี่ยชูวงษ์" เตรียมตรวจสอบเพิ่มในจุดที่บกพร่อง พร้อมลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุอีกครั้ง ยันไม่หนักใจการทำคดี เชื่อสามารถคลี่คลายคดีได้แน่ ส่วนจะเรียก "บรรยิน" สอบเพิ่มหรือไม่ ขึ้นกับพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (2 ก.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อจิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ. สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวน บก.ป. พ.ต.ท.อนรรฆ ประสงค์สุข รอง ผกก.1 บก.ป. ร่วมประชุมชุดสืบสวนสอบสวนการคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง ที่เสียชีวิตขณะโดยสารรถยนต์ ยี่ห้อเลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ เป็นคนขับ เหตุเกิดที่ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอยเฉลิมพระเกียรติ 48-50 แขวงหนองบอน เขตประเวศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. ให้มารับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ โดยทางกองปราบปรามได้รับมอบสำนวนการเสียชีวิตจากพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุขมาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.2558 ซึ่งมีทั้งสิ้น 2 แฟ้ม จำนวน 381 แผ่น ซึ่งการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเฉพาะการคลี่คลายสาเหตุการเสียชีวิตเท่านั้น ในส่วนเรื่องการโอนหุ้นที่เป็นปัญหานั้น มีชุดทำงานอีกชุดเป็นผู้รับผิดชอบไม่เกี่ยวกัน เบื้องต้นไม่สามารถสรุปประเด็นการเสียชีวิตได้ เนื่องจากว่าเพิ่งได้รับสำนวนมา และยังไม่ได้มีการปรึกษาหารือกัน
อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก และจะมีการเริ่มนับหนึ่งใหม่อย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกตหรือไม่นั้น ตนมองว่ามีการนับหนึ่งใหม่ในส่วนที่ขาดตกบกพร่องเท่านั้น อาทิ การไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ทันใจ แต่ทางชุดทำงานจะทำด้วยความรอบคอบ
พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการตรวจสอบว่าพยานหลักฐานที่ทางกองปราบปรามมีเพียงพอหรือไม่ หากพบว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ก็จะจัดชุดทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อให้สำนวนมีความรัดกุมมากขึ้น ทั้งในส่วนของพยานบุคคลและพยานหลักฐาน หากพบว่ายังขาดข้อมูลส่วนใด ก็อาจต้องเรียกสอบพยานเพิ่มเติม ส่วนจะมีการเรียกสอบพ.ต.ท.บรรยิน เพิ่มหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ในการคลี่คลายคดีครั้งนี้ ชุดทำงานของกองปราบปรามมีความหนักใจหรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมาเป็นนานแล้ว พยานหลักฐานที่มีอาจจะไม่ครบถ้วน พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า ไม่หนักใจ เนื่องจากหลักฐานทุกอย่างมีข้อเท็จจริงปรากฏอยู่แล้ว แต่ก็จะพยายามทำให้เร็วและรอบคอบที่สุด ซึ่งมอบหมายให้ชุดทำงานนำโดย พ.ต.อ.จิรภพ เป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเกิดเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางการสืบสวน เบื้องต้นชุดสืบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอยเฉลิมพระเกียรติ 48-50 แขวงหนองบอน เขตประเวศ และได้มีการตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (2 ก.ย.) ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อจิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ. สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวน บก.ป. พ.ต.ท.อนรรฆ ประสงค์สุข รอง ผกก.1 บก.ป. ร่วมประชุมชุดสืบสวนสอบสวนการคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง ที่เสียชีวิตขณะโดยสารรถยนต์ ยี่ห้อเลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ เป็นคนขับ เหตุเกิดที่ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอยเฉลิมพระเกียรติ 48-50 แขวงหนองบอน เขตประเวศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. ให้มารับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ โดยทางกองปราบปรามได้รับมอบสำนวนการเสียชีวิตจากพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุขมาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.2558 ซึ่งมีทั้งสิ้น 2 แฟ้ม จำนวน 381 แผ่น ซึ่งการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมเฉพาะการคลี่คลายสาเหตุการเสียชีวิตเท่านั้น ในส่วนเรื่องการโอนหุ้นที่เป็นปัญหานั้น มีชุดทำงานอีกชุดเป็นผู้รับผิดชอบไม่เกี่ยวกัน เบื้องต้นไม่สามารถสรุปประเด็นการเสียชีวิตได้ เนื่องจากว่าเพิ่งได้รับสำนวนมา และยังไม่ได้มีการปรึกษาหารือกัน
อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก และจะมีการเริ่มนับหนึ่งใหม่อย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกตหรือไม่นั้น ตนมองว่ามีการนับหนึ่งใหม่ในส่วนที่ขาดตกบกพร่องเท่านั้น อาทิ การไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ทันใจ แต่ทางชุดทำงานจะทำด้วยความรอบคอบ
พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการตรวจสอบว่าพยานหลักฐานที่ทางกองปราบปรามมีเพียงพอหรือไม่ หากพบว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ก็จะจัดชุดทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อให้สำนวนมีความรัดกุมมากขึ้น ทั้งในส่วนของพยานบุคคลและพยานหลักฐาน หากพบว่ายังขาดข้อมูลส่วนใด ก็อาจต้องเรียกสอบพยานเพิ่มเติม ส่วนจะมีการเรียกสอบพ.ต.ท.บรรยิน เพิ่มหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ในการคลี่คลายคดีครั้งนี้ ชุดทำงานของกองปราบปรามมีความหนักใจหรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมาเป็นนานแล้ว พยานหลักฐานที่มีอาจจะไม่ครบถ้วน พ.ต.อ.ประเสริฐ กล่าวว่า ไม่หนักใจ เนื่องจากหลักฐานทุกอย่างมีข้อเท็จจริงปรากฏอยู่แล้ว แต่ก็จะพยายามทำให้เร็วและรอบคอบที่สุด ซึ่งมอบหมายให้ชุดทำงานนำโดย พ.ต.อ.จิรภพ เป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเกิดเหตุในพื้นที่กรุงเทพฯ
รายงานข่าวแจ้งว่า ทางการสืบสวน เบื้องต้นชุดสืบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอยเฉลิมพระเกียรติ 48-50 แขวงหนองบอน เขตประเวศ และได้มีการตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง