xs
xsm
sm
md
lg

"ประยุทธ์"สั่งผู้ว่าฯแจงชาวบ้าน ยันเขตพิเศษช่วยสร้างงาน-ดึงท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ประยุทธ์"นำคณะบินดูเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จ.ตาก สั่งการผู้ว่าฯ เร่งทำความเข้าใจประชาชน คนในพื้นที่จะได้ประโยชน์ทั้งการสร้างงาน การท่องเที่ยว และช่วยเปิดประตูค้าขายไทยออกสู่เมียนมาร์ ไปอินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน จนถึงยุโรป ฝากดูแลแรงงานต่างชาติและไทยให้ดี ขู่ฟ้องคอลัมน์ "ลมเปลี่ยนทิศ" เป็นแบบอย่างให้คนเข้าใจผิด วอนชาวบ้านอย่าให้ใครมาชักชวนเข้าเมืองเผากรุงอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (2 ส.ค.) ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรรี และ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจราชการเขตเศรษฐกิจพิเศษ อ.แม่สอด จ.ตาก

โดยทันที่ที่เดินทางไปถึง นายกฯ ใช้รถตู้โฟลค์สีขาว ทะเบียน ชย 8899 กรุงเทพมหานคร เดินทางมายังศูนย์การแสดงสินค้าและศูนย์ประชุมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลนครแม่สอด เพื่อเยี่ยมชมนิทรรศการ โดยนายกฯ ให้ความสนใจสินค้าโอทอป 9 อำเภอ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์หินสมุนไพร ผ้าทอของชนเผ่าต่างๆ โดยต้องการให้เพิ่มช่องทางการตลาด และส่งออกไปยังต่างประเทศ และนายกฯ ยังได้ลองชิมกาแฟขี้ชะมด

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์ ส่งผลให้การรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี เป็นไปอย่างเข้มงวด โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 14 และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 6 รวมกว่า 500 นาย โดยได้มีการใช้เครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัย ห้ามผู้เข้าร่วมงานสวมเสื้อแจ็กเก็ต มีการตรวจค้นกระเป๋าอย่างละเอียด และห้ามนำกระเป๋าเอกสารเข้ามาภายในงานเด็ดขาด รวมทั้งยังห้ามหน่วยงานราชการ และผู้ร่วมงาน บันทึกภาพ โดยให้รับภาพจากส่วนกลางเท่านั้น ยกเว้นสื่อมวลชนที่สามารถบันทึกภาพได้ และยังห้ามจอดรถยนต์บริเวณด้านหน้าพื้นที่การจัดงาน ให้จอดเฉพาะในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ และจะมีการติดสติกเกอร์ให้ทุกคน ก่อนเข้าพื้นที่จัดงานด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหน้าการจัดงานได้มีกลุ่มเครือข่ายที่ดินภาคเหนือตอนล่าง 7 จังหวัด และชาวเผ่ากระเหรี่ยง ต.สามหมื่น อ.แม่ระมาด เตรียมมายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อนายกฯ แต่เจ้าหน้าที่จังหวัดได้กันให้ไปยื่นที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแทน

ต่อมานายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานประชุมติดตามผลการดำเนินงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนว่าหากมีการวางผังพื้นที่ภาคอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษ คนในพื้นที่จะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ทั้งการสร้างงาน ระบบอุปโภค บริโภค และการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น เพื่อจะไม่ทำให้เกิดการต่อต้านและความขัดแย้ง เพราะหากจะไปชี้แจงว่าประเทศและจังหวัดจะได้อะไร ชาวบ้านจะไม่เข้าใจ เพราะเป็นเรื่องไกลตัว

ทั้งนี้ หากดำเนินการสำเร็จ จะเป็นประตูไปสู่อันดามัน เชื่อมต่อเมียนมาร์ไปอินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน ตุรกี ยุโรป ซึ่งเป็นการเชื่อมต่ออาเซียนกับสหภาพยุโรป

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า การแบ่งพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ควรทำให้เสร็จสมบูรณ์ในช่วงปี 2558-59 ซึ่งจะมีทั้งในส่วนนิคม เอกชน ภาครัฐและเจ้าหน้าที่ โดยในส่วนที่รัฐบาลทำอยู่คือเรื่องการทำพื้นที่ ที่มีโครงการทำเฉพาะทาง จะตรงไหนก็ได้ที่มีความพร้อม ซึ่งอาจจะนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษก็ได้ หรืออาจไกลออกไป เช่น รับเบอร์ซิตี้ หรือเมืองก่อสร้าง เมืองรถยนต์ เมืองการศึกษา มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นให้ได้ในระยะต่อไป

นอกจากนี้ ขอว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ ต้องยึดหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ ความเจริญต้องเกิดจากข้างใน คือ ถ้ามองจากเขตเศรษฐกิจพิเศษต้องมองไปถึงเศรษฐกิจชุมชนว่าเขาเจริญหรือไม่ เขาได้ประโยชน์อะไร เพราะหากประชาชนบางส่วนไม่เข้าใจ ก็จะเกิดการต่อต้าน โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา จะต้องให้คนคิดเป็น มองปัญหาภาพใหญ่ อย่าเอาแต่ตัวเอง ดังนั้น รัฐบาลนี้จึงยึดการลดความเหลื่อมล้ำ ให้ความเป็นธรรม เพราะในโลกนี้เข้าใจดีว่า ไม่มีอะไรที่เท่าเทียม เพราะมีสูง ต่ำ ดำ ขาว แต่สิ่งที่จะให้คนเราเท่าเทียมกันได้ คือ กฎหมาย และใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรม เมตตา ดังนั้น เราต้องช่วยกันพิจารณาว่าจะทำอย่างไรเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน โดยเฉพาะข้าราชการกับประชาชน

ส่วนการนำแรงงานจากต่างประเทศมาใช้ ก็ต้องดูแลคุณภาพชีวิตของเขาให้ดี ควบคุมคุณภาพแรงงานให้ได้มาตรฐาน คุ้มค่าจ้าง ซึ่งในส่วนของไทย ได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ ไปเตรียมความพร้อมเรื่องการศึกษา พัฒนาฝีมือแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ได้กล่าวถึงคอลัมน์ ลมเปลี่ยนทิศ ที่เขียนวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล โดยระบุว่า ได้พูดคุยหลายครั้งแล้ว มีการรับปาก แต่ยังคงเขียนโจมตีอยู่ ถ้ายังไม่หยุด ก็จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปฟ้องร้อง เพื่อเป็นการเอาคืนบ้าง ให้เป็นแบบอย่างว่าการใช้สื่อสร้างความเข้าใจผิดต่อประชาชนเป็นอย่างไร

ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ให้ข้อมูลเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษว่า ขณะนี้ติดขัดปัญหาเรื่องที่ดิน ที่พื้นที่ 78% เป็นพื้นที่ป่าและอุทยาน ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการใดๆ ได้ และมีแหล่งน้ำเพียง 3% เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอ และยังต้องเร่งสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า ซึ่งบางแห่งไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะต้องใช้พื้นที่ป่าและการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ทั้งนี้ ขอให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษ ที่ อ.พบพระ และ อ.แม่ระมาด ด้วย

ต่อมา เวลา 13.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ ได้เยี่ยมชมสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 จ.ตาก เยี่ยมชมการทำงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และศุลกากร โดยนายหลุ่ย โก อู ผู้ว่าฯ จ.เมียวดี และ นางติน ติน เมี๊ยะ ประธานหอการค้ารัฐเมียวดีให้การต้อนรับ

นายกฯ ได้สอบถาม ตม. และศุลกากร ถึงการใช้งานด่านพรมแดนแม่สอดแห่งนี้ ต่างจากการใช้งานของด่านพรมแดนแม่สอดแห่งใหม่ ที่จะสร้างขึ้นใหม่บริเวณสะพานมิตรไทย-เมียนมาร์ แห่งที่ 2 อย่างไร เนื่องจากห่างจากจุดนี้ไป 5 กม. และอยู่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยได้รับคำชี้แจงว่า ด่านแห่งใหม่ จะใช้งานเรื่องการขนส่ง ประเภทรถบรรทุกขนาดใหญ่ ส่วนด่านพรมแดนแห่งนี้ จะใช้สำหรับผู้คนที่สัญจรไปมาเข้า-ออกเท่านั้น เพื่อส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ นายกฯได้ชื่นชมถึงการบริหารจัดการและการปรับปรุงภูมิทัศน์ ซึ่งมีการพัฒนาและสวยงามกว่าเดิมจากที่เคยเดินทางมาเมื่อสมัยดำรงตำแหน่งผบ.ทบ

จากนั้น นายกฯ และคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมชมนิคมสหกรณ์แม่สอด จำกัด ซึ่งเป็นสหกรณ์ต้นแบบในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมโดยวิธีการสหกรณ์ และสามารถเชื่อมโยงกับขบวนการสหกรณ์กับประเทศเมียนมา ภายใต้ความสัมพันธ์ในลักษณะบ้านพี่เมืองน้อง (Sister city) พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ โดยนายกฯ ให้ความสนใจและซักถามถึงระบบส่งน้ำในระบบชลประทาน และสอบถามราคาข้าวและสินค้าเกษตร พร้อมกับแนะนำให้เพิ่มมูลค่าสินค้าด้านการเกษตร เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ขอให้รักษาศิลปวัฒนธรรมดั่งเดิม

ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังได้ลองชิมผลผลิตทางการเกษตร ที่นำมาแสดง อาทิ กล้วยหอม น้ำดื่มสมุนไพรชนิดต่างๆ อย่าง สมุนไพรป้องกันโรคมะเร็ง รางจืด ม้ากระทบโรง โดยทันทีที่นายกฯ ดื่มม้ากระทืบโรง บอกอย่างอารมณ์ดี "ม้ากระทืบโรงไม่มีผลกับฉัน เพราะฉันแข็งแรงอยู่แล้ว" และนายกฯ ยังได้ชมการแสดงร้องเพลง "วันพรุ่งนี้" ของเด็กนักเรียนใน อ.แม่สอด และยังขอให้เด็กท่อง ค่านิยม 12 ประการ

ต่อจากนั้น นายกฯ ได้พบกับสมาชิกสหกรณ์ที่มาให้การต้อนรับหลายร้อยคน พร้อมชูมือสัญลักษณ์ไอเลฟยู ทักทาย ก่อนกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในขณะนี้ การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ได้เป็นเรื่องของการเมืองเพื่อหวังคะแนนเสียง แต่ช่วยทุกคนเพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่นคั่งและยั่งยืน สิ่งที่ดำเนินการ อาจจะมีบางเรื่องที่ถูกใจและไม่ถูกใจ แต่ขอให้ดูภาพรวมทั้งหมด หากคิดถึงแต่ตัวเองประเทศก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ได้ฟังเด็กร้องเพลงไหม เป็นเพลงแห่งความรัก ความสามัคคี และหากมีใครชักจูงไปทำในสิ่งที่ไม่ดี ก็ไม่ควรทำ หรือถ้าใครเขามาชวนเข้ากรุงเทพฯ ไปเผาโน่น เผานั่น ยังจะไปอีกไหม ซึ่งชาวบ้านได้ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่เอา" จากนั้นนายกฯ กล่าวว่า อย่าให้การเมืองมาบิดเบือนความคิดเราไม่ได้

ส่วนร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อร่างเสร็จก็อาจจะเป็นปัญหาอีก จะผ่านหรือไม่ผ่าน ก็ค่อยว่ากันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร หลังจากนั้น ซึ่งรัฐบาลก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ที่ผ่านมา ก็ปรับปรุงแก้ไขปัญหาไปหลายเรื่องแล้ว ขณะที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็ขอประชาชนอย่าคัดค้าน และอย่ามีการต่อต้าน เพราะจะทำให้ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ และการพัฒนาในพื้นที่ก็จะไม่เกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น