xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว!ขณะข้ามชายแดนเขมร เสื้อเหลืองมือบึ้ม ยันDNAตรงกัน-หมายจับอีก3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ทหารพรานจากกองกำลังบูรพารวบตัวผู้ต้องสงสัยเป็นผู้วางระเบิดราชประสงค์ ขณะลักลอบข้ามชายแดนจังหวัดสระแก้วไปหมู่บ้านมุสลิม ประเทศกัมพูชา ก่อนส่งเข้ากรุงเทพฯ สอบสวนเพิ่มที่ พล.ม.2 รอ. นายกฯ เผยเป็นตัวสำคัญ ส่วน “ประวิตร” บอกเป็นข่าวดี วอนอย่าดึงโยงก่อการร้ายข้ามชาติ โฆษก ตร.แถลงผลตรวจ DNA ตรงกับอพาร์ทเมนท์ที่บุกตรวจค้น ศาลจังหวัดมีนบุรีอนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 3 รวมทั้งหมด 7 ราย ญาติ ”ไมซาเลาะห์” วอนสังคมอย่าเพิ่งด่วนสรุป รอกลับมาพิสูจน์ แฉ ตม.กัมพูชาจับส่งคืนให้ไทย

วานนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับความคืบหน้าหลังเกิดเหตุวางระเบิดย่านราชประสงค์เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดยภาพรวมศูนย์ติดตามสถานการณ์คณะรักษาความสงบเรียบร้อย มีสรุปผลการดำเนินงานมาเรียนให้ทราบดังนี้ สถานการณ์โดยทั่วไปเป็นปกติ นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางเข้ามาประเทศไทยเหมือนห้วงที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังคงให้ความสำคัญพร้อมทั้งได้กำหนดมาตรการดูแลนักท่องเที่ยว และพี่น้องชาวไทยเพื่อให้เกิดความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ซึ่งผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

สำหรับการสืบสวนสอบสวน และการคลี่คลายคดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเร่งรัดดำเนินการในทุกด้าน โดยเฉพาะการติดตามตัวผู้ต้องหาและขยายผลจากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ รวมทั้งการให้กองกำลังป้องกันชายแดน เพิ่มความเข้มงวด ในการตรวจสอบบุคคลที่ผ่านเข้าออกตามแนวชายแดน เพื่อนำไปสู่การติดตามจับกุมผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แยกราชประสงค์และท่าเรือสาทรต่อไป

"ล่าสุด วันนี้ (1 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. กำลังของกองกำลังบูรพา สามารถตรวจพบและจับกุมบุคคลที่มีลักษณะคล้ายผู้ต้องหาชายสวมเสื้อสีเหลืองในคดีเหตุการณ์ราชประสงค์ตามหมายจับของศาล ได้ที่บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา บ้านป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งปัจจุบันได้ส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวน นำตัวไปดำเนินการตามกระบวนการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว" พ.อ.วินธัยกล่าวและว่า นอกจากนั้น วานนี้ (1 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีการขออนุมัติให้ศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 3 รายในวันนี้ โดยขณะนี้จึงมีผู้ต้องหาออกถูกหมายจับรวมทั้งสิ้น 7 ราย

***กองกำลังบูรพารวบผู้ต้องสงสัยวางบึ้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเช้าวานนี้ (1 ก.ย.) พ.อ.ปรมาธร บุนนาค ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา (ผบ.ฉก.กรม.ทพ.12 กกล.บูรพา) และร.อ.อภินันท์ สงครามชัย ผบ.ร้อย ทพ.1201 นำกำลังทหารพราน และชุดปฏิบัติการร่วม ลาดตะเวณมาตามถนนศรีเพ็ญ เลียบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ถึงบริเวณป่าละเมาะ เขตบ้านดงงู ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามกับบ้านโอเนียง อ.โอวโจว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีชุมชนมุสลิมอาศัยอยู่ และเป็นพื้นที่เฝ้าตรวจด้านความมั่นคง

พบชายต้องสงสัยเดินสะพายกระเป๋าเป้สีดำ ผ่านป่าละเมาะมุ่งหน้าสู่เขตแดนกัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมและสกัดจับไว้ได้ ก่อนที่จะลักลอบข้ามตะเข็บชายแดนไปได้ เบื้องต้นพบว่าเป็นชาวต่างชาติ แต่ใบหน้าและลักษณะคล้ายภาพสเก็ตซ์ผู้ต้องหา ที่ลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์ กรุงเทพมหานคร และศาลได้ออกหมายจับตามภาพวงจรปิดเจ้าหน้าที่จึงรีบรายงานให้ พล.ต.ศรีศักดิ์ พูนประสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ในฐานะ ผบช.กกล.บูรพา ทราบเป็นการด่วน

พล.ต.ศรีศักดิ์กล่าวว่า ช่วงเวลา 11.00 น. ที่ผ่านมาได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กำลังจุดตรวจความมั่นคงทหารและตำรวจ พื้นที่บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อยู่ห่างจากชายแดนไทยไทย-กัมพูชา 500 เมตร ซึ่งผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวเป็นชาวต่างชาติ ท่าทางมีพิรุธพร้อมกับสะพายเป้ด้านหลัง สวมเสื้อแขนยาวสีเทา กางเกงขายาวสีครีม สวมแว่นตาดำและหมวกแก๊ป ลักษณะคล้ายแขกขาว ใช้เส้นทางที่ไม่ใช้เส้นทางตามปกติ ทางเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้ควบคุมตัวและสอบถามรายละเอียด แต่ชายคนดังกล่าวไม่ให้ความร่วมมือ จึงได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศให้เข้ามาตรวจสอบ

"เราควบคุมตัวมาไว้ที่กองร้อยทหารพรานคลองลึก หน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมทั้งตรวจค้นภายในกระเป๋าเป้สีดำ พบว่ามีเสื้อผ้า และกางเกงขาสามส่วน ซึ่งลักษณะคล้ายกางเกงที่ผู้ต้องหาใส่ในวันก่อเหตุ จึงได้รายงานพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรี และ คสช. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการ คสช."

จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าชายคนดังกล่าวเข้าข่ายเป็นผู้ต้องสงสัย จากนั้นทางหน้าที่ตำรวจได้ประสานมาทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ก่อนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะเดินทางไปสอบสวนด้วยตนเอง ต่อมาในเวลา 14.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวชายคนดังกล่าวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจยัง กทม. เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป

พล.ต.ศรีศักดิ์ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า ผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าวถูกจับที่กัมพูชา และ เจ้าหน้าที่ของกัมพูชาได้ส่งตัวมาให้เจ้าหน้าที่ทหารไทย โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ไทยเป็นผู้จับกุมแน่นอน ซึ่งด่านดังกล่าวเป็นด่านธรรมชาติที่ตั้งเพิ่มเติมหลังเกิดเหตุระเบิด โดยการทำงานครั้งนี้เป็นการประสานงานของเจ้าหน้าที่ในการตั้งด่าน และงานด้านการข่าวประกอบกัน

***นายกฯ รับรายงานจับตัวมือบึ้มแล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ คสช. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีการจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งบ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 1 ราย ซึ่งได้รับรายงานและติดตามตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 31 ส.ค. และจับกุมตัวได้ช่วงเช้าของวันนี้ โดยกำลังนำตัวมาสอบสวนที่กรุงเทพฯ เข้าใจว่ากำลังเตรียมตัวหนี ต้องรอการสอบสวนว่าใช่มือวางระเบิดหรือไม่ โดยมีการสั่งการทุกที่ให้มีการตั้งด่านตรวจสกัด เมื่อพบบุคคลต้องสงสัยก็จับมา และบังเอิญว่าใกล้เคียงจึงต้องมีการพิสูจน์ลายนิ้วมือและความเชื่อมโยงอีก ถ้าใช่ก็คือใช่ ขณะนี้กำลังหาคนวางระเบิด คนสั่งการ คนใช้โทรศัทพ์อีก จึงค่อยๆ ทำ

"เอาน่า ถ้ามันได้ก็ดี จะได้รู้ว่ามาอย่างไร มาจากไหน ใครทำ ใครสั่ง อย่าเพิ่งไปพูดเรื่องนี้ เรื่องนู้น เพราะจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้ามันชัดเจนเกิดอย่างนี้จริงก็ขอความร่วมมือกับเขาวันหน้าจะได้ไม่เกิดขึ้น โทษกันไปโทษกันมาไม่ได้อะไรเลย ซึ่งวันนี้มีการจับได้ที่แฟลตได้ส่วนหนึ่ง และวันนี้ก็จับได้อีก 1 คน คนนี้น่าจะสำคัญในการเชื่อมโยงกับคนที่จับกุมมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเท่าที่รู้ไม่ใช่คนไทย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในการประสานกับทางประเทศตุรกีอย่างเป็นทางการนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับทางสถาทูตมาโดยตลอด ซึ่งเขายืนยันว่า ไม่น่าจะทำแต่ความเป็นไปได้มันสูงทุกอัน เหมือนกับบ้านเราที่ยังคุมคนไม่ได้ทั้งหมด แต่ถ้าไม่ใช่ก็ดีไม่อยากให้มีผลกระทบ ถ้าเรายิ่งเสนอข่าวแล้วไม่ใช่สถานการณ์ยิ่งบานปลาย แต่ถ้าใช่ก็ต้องมาแก้กัน ไม่มีอะไรร้ายแรงเกินกว่าที่เราจะแก้ไขได้ถ้าเราช่วยกัน

ส่วนปัญหาการก่อเหตุรุนแรงมีหลายอย่างคืออยู่ในขั้นตอนการทำผิดกฎหมายอาญา และเรื่องของการก่อเหตุรุนแรงด้วยความไม่เข้าใจหรือผู้ที่เห็นต่างก็เป็นอีกเรื่อง ส่วนเรื่องการก่อการร้ายเป็นการกระทำที่จะต้องมีการกล่าวอ้างความรับผิดชอบและมีข้อเสนอที่จะต้องให้รัฐบาลปฏิบัติตามจึงเรียกว่าเป็นการก่อการร้าย

ส่วนสาเหตุของการวางระเบิดเป็นความแค้นส่วนตัวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ยังไม่มีความชัดเจน เดี๋ยวก็รู้ มันพูดได้หลายสาเหตุอย่างที่ว่า อย่าให้ผมทวนบ่อยพูดไปพูดมาเดี๋ยวจะไม่เหมือนเดิม มันจะอะไรเดี๋ยวก็รู้ ผมยืนยันว่ายังไงก็รู้แน่นอน ส่วนที่มีการระบุว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ยังไม่ทราบ ยังไม่ได้ยินข่าว ที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่รัฐเลวๆ ไม่ใช่หรือ ทราบเพียงว่ามีความคืบหน้าในคนที่ออกหมายจับไปหรือคนที่ถูกจับกุมแล้ว รอฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจ"

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงคำถามกรณีที่ความเชื่อมโยงอาจมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องในคดี ว่า เจ้าหน้าที่ไหน หมายความว่าไง เชื่อมโยงยังไง ผมยังไม่เข้าใจคำถาม ถามอะไร อยากรู้อะไร ที่บอกว่าเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่หมายความวว่าไง คนระเบิด มันจะไปเชื่อมโยงเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร เจ้าหน้าที่เขาก็ไปจับคนที่วางระเบิด ส่วนการเชื่อมโยงทั้งหมด ยังไม่รู้ว่าเป็นเครือข่ายยังไง

“ไปบอกว่าผู้ก่อเหตุไปเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ ก็บรรลัยสิ มันไม่ใช่ เจ้าหน้าที่เขาเป็นคนไปทำงาน อย่างนี้ก็เสียหายหมด ยืนยันอีกครั้งคดีคืบหน้าแน่นอน ในเวลานี้คุณต้องชื่นชมตำรวจไทยถึงจะถูก จับแบบนี้ยากจะตาย แต่เขาทำได้ ต้องชื่นชมเขาบ้าง ไปด่าเขาข้างเดียวไม่ไหวหรอก ทำงานติดตามกันไม่ได้หลับได้นอน” รองนายกฯกล่าว

กรณีให้น้ำหนักกับประเด็นที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ ตนจะไปบอกได้อย่างไร เพราะคุณพยายามดึงไปประเด็นก่อการร้ายตลอด ถามแบบนี้ก็เป็นประเด็นก่อการร้าย เรื่องนี้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ กำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูล เพราะฉะนั้นอย่าไปถามให้เชื่อมโยงกับประเทศอื่น มันเสียหาย ขณะที่มีการออกหมายจับหญิงไทยต้องสงสัย ซึ่งได้เรียกร้องให้รัฐบาลมอบเงินค่าเครื่องบิน เพื่อเดินทางมาชี้แจงกับทางการไทยนั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องติดต่อประสาน

“เมื่อมันเชื่อมโยงว่ามีอย่างนี้ เจอคนแบบนี้ ในสถานที่ที่เจอพยานวัตถุระเบิด เขาก็จำเป็นที่จะต้องออกหมายจับ ถ้าเขาไม่เกี่ยวข้องก็บอกมา เพราะมีชื่อเป็นคนเช่าห้อง แต่ยังไม่รู้ว่าเขามีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ หรือว่าเช่าให้ใคร ต้องอีกหลายขั้นตอน อย่าไปเร่ง เจ้าหน้าที่ทำงานทุกวันอยู่แล้ว” พล.อ.ประวิตร กล่าวและว่าสำหรับการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. จะเลื่อนไปเป็นวันที่ 3 ก.ย.นี้ หรือไม่ ยังไม่ทราบ เขาคงกำลังดำเนินการอยู่

***โฆษก ตร.แถลงผลตรวจ DNA ตรงกัน

ที่สโมสรตำรวจ เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดที่ราชประสงศ์ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ ตร.และทหาร ที่ประจำด่านที่ ต.บ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดที่แยกราชประสงศ์ได้ โดยทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ส. พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผบช.ก. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. และชุดทำงาน ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัว และลงที่ พล.ม. 2 รอ. เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ก่อนที่ส่งมอบให้กับทางทหารไปทำการสอบสวน

"ต้องรอให้การสอบสวนเสร็จสิ้นเสียก่อน ทั้งนี้เป็นความคืบหน้า และเป็นข่าวดีแน่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ออกมาแถลงข่าวแล้ว อย่างไรก็ตามการจับกุมครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากผลการที่ทางเราเร่งรัด กดดันตัวเอง ตำรวจทุกหน่วยเร่งรัด ทั้ง บช.ก. บช.น. บช.ส. และชุดทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เป็นความร่วมมือของทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ดีถือว่าคดีมีความคืบหน้าเราได้คลี่คลายคดีไปมาก จะเห็นได้จากการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในวันนี้ 3-4 ราย ซึ่งที่ผ่านมาเราได้แบ่งหน้าที่ แบ่งงานกันทำ"

ต่อมา พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวว่า กำลังสอบสวนสอบสวน เชื่อว่าเป็นบุคคคลอยู่ในกลุ่มที่สำคัญในขบวนการ และเบื้องต้นเชื่อมโยงกับการเข้าตรวจค้นที่อพาร์ทเมนท์ย่านหนอกจองและมีนบุรี โดยจะต้องสอบสวนสืบสวนพยานหลักฐานเพื่อมายืนยันและทราบถึงเส้นทางการไปถึงชายแดนได้อย่างไร โดยตรวจค้นและตรวจดีเอ็นเสื้อผ้า ลายนิ้วมือ ตรงกับที่พบในอพาร์ทเม้นที่เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้น น่าจะเป็นข่าวดี ต้องขอเวลาสืบสวนก่อนจึงจะทราบขบวนการรวมทั้งหมด โดยขณะนี้ใช้การควบคุมตัวตาม ม.44 ซึ่งได้รายงานให้รองนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวหลังประชุมร่วมกับผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ว่า เพื่อจะขอความร่วมมือในการรักษาความปลอดภัยในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีกล้องตรวจจับใบหน้ามาใช้ รวมถึงจะมีการนำข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเป็นฐานข้อมูลให้แก่ผู้ประกอบการไว้ใช้สำหรับตรวจสอบ แจ้งเตือนอาชญากรรมทุกรูปแบบ ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณ 1 ปี

***ศาลอนุมัติหมายจับชาวเติร์กอีก 3

วานนี้ (1 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ศาลจังหวัดมีนบุรี อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการวางระเบิดแยกราชประสงค์ และท่าน้ำสาทรเพิ่มอีก 3 ราย ตามคำร้องพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก ประกอบด้วย 1.นายอาลิ โจลัน ตามภาพสเก๊ตช์คนร้ายที่ 0357/58 เชื้อชาติตุรกี ในข้อหา ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย 2. นายอาฮ์เม็ท โบซองแลน เชื้อชาติตุรกี ตุรกี ในข้อหา ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย และ 3.ชายชาวตุรกี ไม่ทราบชื่อ ตามภาพสเกตช์คนร้ายที่ 0367/58 ตุรกี ในข้อหา ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย

**ญาติ”ไมซาเลาะห์”วอนสังคมอย่าด่วนสรุป

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอคุระบุรี จ.พังงา เชิญนายอิบรอเหม คมขำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านห้วยทรัพย์ ต.คุระ อ.คุระบุรี พร้อม นายอีฉา สวนสัน พี่ชายของน.ส.วรรณา สวนสัน หรือนางไมซาเลาะห์ อายุ 27 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลมีนบุรี ข้อหาครอบครองยุทธภัณฑ์ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเชื่อว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม โดยนายอิบรอเหมร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ขอให้รอเจ้าตัวมาพิสูจน์ตนเองก่อนที่จะมีการสรุป

ขณะที่บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 6 บ้านห้วยทรัพย์ ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา พ่อแม่ พี่ และญาติของน.ส.วรรณา ได้มาพูดคุยปรึกษาด้วยความวิตกกังวล และอาการเคร่งเครียด

นายอีฉา สวนสัน พี่ชายของน.ส.วรรณา กล่าวว่า ขณะนี้ครอบครัวรู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอความเป็นธรรมให้กับน้องสาว อย่าด่วนตัดสินว่าน้องสาวร่วมก่อการร้าย อยากให้รอเจ้าตัวกลับมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง พร้อมขอให้ทางภาครัฐช่วยออกค่าเดินทางกลับเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ด้วย ทั้งนี้คนในพื้นที่ยังเชื่อมั่นว่า ครอบครัวของตนรวมถึงน้องสาวไม่มีส่วนพัวพันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

น.ส.สุดา สวนสัน พี่สาว กล่าวว่า ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว ซึ่งมั่นใจว่า คสช.จะให้ความเป็นธรรมน้องสาวและครอบครัว ขณะนี้ตนและครอบครัวอยู่ในอาการเครียด แทบจะพูดอะไรไม่ออก ชาวบ้านบางรายมองครอบครัวตนด้วยสายตาแปลกๆ แต่ตนเองและครอบครัวยังมั่นใจในตัวของน้องสาวว่าไม่มีส่วนรู้เห็น จึงได้แต่รอให้น้องกลับมาพิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์ต่อไป

ทั้งนี้ น.ส.วรรณา เกิดเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2531 มีพี่น้อง 9 คน โดยเป็นบุตรสาวคนสุดท้อง เรียนชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านคำพรวน จนจบมัธยมตอนปลายที่โรงเรียนสุขสำราญรังสรรค์ และศึกษาต่อระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หลังจบปริญญาตรีได้ออกมาค้าขายสินค้าระหว่างประเทศ แต่งงานกับชายชาวตุรกี มีบุตรชายอายุ 7 เดือน ซึ่งในวัยเด็ก น.ส.วรรณามีนิสัยเรียบร้อย กตัญญูรู้คุณ เคร่งศาสนา มีการละหมาดวันละ 4 เวลา จนเป็นที่รักใคร่ของพ่อแม่ ญาติ และเพื่อนฝูง ทำให้คนในพื้นที่ซึ่งรู้จักนิสัยใจคอ ไม่เชื่อว่า น.ส.วรรณา จะมีส่วนรู้เห็นหรือร่วมขบวนการก่อเหตุ

***แฉ ตม.กัมพูชาจับส่งคืนให้ไทย

แหล่งข่าวจากชายแดนฝั่งกัมพูชายืนยันว่า จากกรณีที่มีข่าวกองกำลังบูรพา ลาดตระเวนพบผู้ต้องสังสัยวางระเบิดศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ จนนำไปสู่การจับกุมนั้น ข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้ามเมือง (ตม.) กัมพูชา ควบคุมตัวชายต้องสงสัยที่ถือพาสปอร์ตจีน แต่ใบหน้ากลับไม่คล้ายกับชาวจีนไว้ได้ หลังตรวจสอบแล้วมีพิรุธน่าจะเป็นชาวตุรกี ที่ใช้พาสปอร์ตจีนปลอม จึงควบคุมตัวมาส่งทางการไทยที่หน้าด่านสะพานมิตรภาพกัมพูชา-ไทย บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ให้รับตัวกลับไป

เป็นที่น่าสังเกตุว่า ผู้ต้องสงสัยเดินทางออกจากประเทศไทยตั้งแต่เช้า โดยใช้พาสปอร์ตฉบับเดียวกับที่ยื่นให้ ตม.กัมพูชา ซึ่งสังเกตุเห็นความผิดปกติ อาจเป็นสาเหตุของคำสั่งย้ายด่วน 6 นายตำรวจประจำ ตม.สระแก้ว เนื่องจากมีการปฏิบัติหน้าที่ละหลวม.
กำลังโหลดความคิดเห็น