วานนี้ ( 25 ส.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช. เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการทุจริตโครงการติดตั้งเครื่องสแกนแบบความเร็วสูง เพื่อตรวจสอบการผ่านเข้าออกของบุคคลในอาคารรัฐสภา 1 - 2 วงเงิน 64 ล้านบาท โดยวัชระ กล่าวว่า เครื่องสแกนดังกล่าวมีการจัดซื้อโดยสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ในช่วงที่นายสุวิจักขณ์ นาควัชระ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการฯ นั้น จนถึงปัจจุบันได้มีการซ่อมแซม แต่ก็ยังไม่สามารถใช้งานได้ จึงอาจมีสาเหตุมาจาการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง ซื้อของด้อยคุณภาพ แต่ราคาสูงเกินสมควร เป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินโดยไม่คุ้มค่า รวมทั้งโครงการจัดซื้อจัดจ้างหลายโครงการ ที่ไม่สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนได้ จึงขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบโดยเร่งด่วน เพื่อลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป
นายวัชระ เปิดเผยด้วยว่านอกจากนี้ตนยังได้ยื่นข้อมูล เกี่ยวกับการทุจริตใน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในส่วนของสัญญาร่วมดำเนินการกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกระหว่าง อสมท กับ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้สิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.57 โดยก่อนสิ้นสุดสัญญา คณะกรรมการและผู้บริหาร อสมท ได้ทราบว่ากลุ่มทรูวิชั่นส์ ได้กระทำผิดสัญญา และอาจจะกระทำผิดอาญาต่อ อสมท แต่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการเอาผิด เป็นเหตุให้ อสมท ซึ่งเป็นหน่วงานของรัฐได้รับความเสียหาย
"เอกสารเกี่ยวกับ อสมท ทั้งหมดมีนับ 100 หน้า สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตของผู้บริหาร อสมท โดยเฉพาะในส่วนของ นายธนะชัย ซึ่งรับมอบหมายจาก อสมท ให้ดูแลเรื่องนี้ กลับปล่อยปละละเลยไม่ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าบริษัททรูวิชั่นส์ กำลังหมดสัญญากับ อสมท และมีพฤติกรรมกระทำผิดสัญญามาแล้ว กลับไม่มีมาตรการใดๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ อสมท จึงได้มายื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และหากเอกชนคู่สัญญามีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดดังกล่าวด้วย ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป" นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ เปิดเผยด้วยว่านอกจากนี้ตนยังได้ยื่นข้อมูล เกี่ยวกับการทุจริตใน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในส่วนของสัญญาร่วมดำเนินการกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกระหว่าง อสมท กับ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้สิ้นสุดไปตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.57 โดยก่อนสิ้นสุดสัญญา คณะกรรมการและผู้บริหาร อสมท ได้ทราบว่ากลุ่มทรูวิชั่นส์ ได้กระทำผิดสัญญา และอาจจะกระทำผิดอาญาต่อ อสมท แต่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการเอาผิด เป็นเหตุให้ อสมท ซึ่งเป็นหน่วงานของรัฐได้รับความเสียหาย
"เอกสารเกี่ยวกับ อสมท ทั้งหมดมีนับ 100 หน้า สะท้อนให้เห็นถึงการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตของผู้บริหาร อสมท โดยเฉพาะในส่วนของ นายธนะชัย ซึ่งรับมอบหมายจาก อสมท ให้ดูแลเรื่องนี้ กลับปล่อยปละละเลยไม่ทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าบริษัททรูวิชั่นส์ กำลังหมดสัญญากับ อสมท และมีพฤติกรรมกระทำผิดสัญญามาแล้ว กลับไม่มีมาตรการใดๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของ อสมท จึงได้มายื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ และหากเอกชนคู่สัญญามีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดดังกล่าวด้วย ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป" นายวัชระ กล่าว