xs
xsm
sm
md
lg

เจออีกเช็คคลองจั่นกว่า600ล้าน ซุก‘ธรรมกาย’ จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม13ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ดีเอสไอ บุกค้นบ้านพัก "จนท.-อดีตจนท.สหกรณ์ฯคลองจั่น" พบหลักฐานเอกสารเอี่ยวโกงสหกรณ์ฯ จ่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม13ราย และยังพบหลักฐาน วัดธรรมกายรับเช็คอีกกว่า 600ล้าน พร้อมเตรียมเข้าแจ้งความกับสน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีกับพระจำนวน 3 รูป อ้างเหตุขัดหมายเรียกดีเอสไอ รวมถึงนัดผู้ต้องหา 10-13 รายรับทราบข้อหาร่วมฉ้อโกง 3-5 ก.ย.นี้

วานนี้(25ส.ค.)เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 และพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล ผบ.สำนักการเงินและการธนาคาร ร่วมกันแถลงผลการเข้าตรวจค้นบ้านพักของเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จำนวน 7 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เมื่อเวลา 06.00 น. ของวันนี้

นางสุวณา กล่าวว่า ดีเอสไอได้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน คดีสหกรณ์ฯคลองจั่น 3 คดี คือ คดีพิเศษที่ 146/2556 คดีพิเศษที่ 63/2557 และคดีพิเศษที่ 64/2557 ซึ่งต่อมา จากการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้มีการเพิ่มข้อหาฟอกเงินอีก1คดีเฉพาะนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯคลองจั่น โดยขณะนี้ทางดีเอสไอได้สรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการแล้ว 2 สำนวน คือ คดีพิเศษที่ 146/2556 และคดีพิเศษที่ 64/2557

นางสุวณา กล่าวต่อว่า ดีเอสไอเตรียมเข้าแจ้งความกับสน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีกับพระจำนวน 3 รูป เนื่องจากขัดหมายเรียกของดีเอสไอ ประกอบด้วย เจ้าอาวาสวัดกิ่วลม เจ้าอาวาสวัดแม่สะนาม และเจ้าอาวาสวัดบ้านขุน จ.เชียงใหม่ ซึ่งทั้ง3รายนี้เป็นผู้มีรายชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ทั้งนี้ ดีเอสไอได้มีการออกหมายเรียกเจ้าอาวาสทั้ง3รายเพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มาพบตามนัดหมาย และไม่มีเหตุอันควร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามกฎหมายโดยถือว่าพระทั้ง 3 รูป ไม่ประสงค์ที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง

ด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า ทางดีเอสไอได้ขอหมายค้นจากศาลอาญา เพื่อดำเนินการเข้าตรวจค้น 7 จุดเป้าหมาย โดยแบ่งเป็นพื้นที่ในกรุงเทพฯ 5 จุด จ.นนทบุรี 1 จุด และจ.สมุทรปราการ 1 จุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านของเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ฯคลองจั่น ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมกันกระทำความผิดกับนายศุภชัย หรือมีส่วนในการสนับสนุนการกระทำความผิดในเรื่องของการร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยผลการตรวจค้นพบสำเนาสัญญาที่ดินรวม 3 โฉนด, สำเนาหนังสือจะซื้อจะขายที่ดิน, ใบรับฝากเช็ค สำเนาสั่งจ่ายพระราชภาวนาวิสุทธิ์, วัดพระธรรมกาย, มูลนิธิรัตนคีรี และหลักฐานเกี่ยวกับการจ่ายเงินทดรองจ่ายของนายศุภชัย ซึ่งในส่วนนี้พนักงานสอบสวนจะพิจารณาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีต่อไป

พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของคดีพิเศษที่ 63/2557 หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนจะตรวจสอบเอกสารที่ตรวจค้นได้ พร้อมทั้งเรียกผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 3-5 ก.ย.นี้ อีกจำนวน 13 ราย โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ฯคลองจั่น

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้พบมูลความผิดที่เกิดขึ้นจากการทำรายงานประจำปีอันเป็นเท็จ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบทางบัญชีพบว่าในระยะเวลาตั้งแต่ปี 2551-2555 สหกรณ์ฯคลองจั่นขาดทุนมาโดยตลอด แต่สหกรณ์ฯคลองจั่นก็ยังจ่ายเงินปันผลร้อยละ 10 ให้กับสมาชิกได้ เป็นเหตุให้สมาชิกหลงเชื่อสถานะของสหกรณ์ฯคลองจั่น

พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการรับเงินของวัดพระธรรมกาย รับเช็ค 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 642 ล้านบาท พระเทพญาณมหามุนี รับเช็ค 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 431 ล้านบาท และมูลนิธิรัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง รับเช็ค 5 ฉบับ รวมเป็นเงิน 143 ล้านบาท โดยรวมเช็คทั้งหมด 23 ฉบับ รวมเป็นเงิน 1,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัว ซึ่งจากเดิมพบยอดเพียง 600 ล้านบาท

ส่วนการตรวจสอบสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องอีก จำนวน 9 สหกรณ์ ได้แก่ 1.สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฟรีเทรด จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 3.6 ล้านบาท 2.สหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 14.4 ล้านบาท 3.สหกรณ์ออมทรัพย์ ปปส. จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 6.9 ล้านบาท 4.ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 7.4 แสนบาท

5.สหกรณ์ร้านค้ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 3.6 ล้านบาท 6.สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จำกัด รับเงินตามเช็ค 2 ฉบับ เป็นเงิน 1.6 ล้านบาท 7.สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนพัฒนา จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 30.9 ล้านบาท 8.สหกรณ์ออมทรัพย์ครูฉะเชิงเทรา จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 35 ล้าน และ 9.สหกรณ์ออมทรัพย์กรมอู่ทหารเรือ จำกัด รับเงินตามเช็ค 1 ฉบับ เป็นเงิน 35.9 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่าทั้ง 9 สหกรณ์ดังกล่าวมีมูลหนี้จริง โดยไม่พบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด.
กำลังโหลดความคิดเห็น