ผ่านไป 1 สัปดาห์หลังจากระเบิดสี่แยกราชประสงค์มีผู้เสียชีวิต 20 รายบาดเจ็บกว่า 100 ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เป็นข่าวดังไปทั่วโลก ส่งผลกระทบระดับหนึ่งต่อธุรกิจทุกด้านเกี่ยวโยงกับการท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แม้แต่รายเดียว
ที่น่ากังวลคือผลเสียหายด้านจิตวิทยา ความน่าเชื่อถือของตำรวจไทย ซึ่งน่าจะเป็นยุคที่ตกต่ำที่สุด ถ้าไม่นับประเด็นเรื่องการเมืองเมื่อมีการละเว้นปฏิบัติหน้าที่
บึ้มแรกที่สี่แยกราชประสงค์จนถึงสะพานสาทร ยังไม่มีความคืบหน้า
จากความสับสนว่าใครเป็นมือวางระเบิด มีวัตถุประสงค์อะไร ก่อการร้ายหรือแฝงการเมืองระหว่างประเทศ มือรับจ้างป่วนเมือง และประเด็นอื่นๆ สารพัด มาถึงช่วงนี้เริ่มเกิดความรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจล้มเหลวอีกครั้ง จนความน่าเชื่อถือติดลบดิ่งลงลึก
ที่ผ่านมามีแต่คำประกาศจากนายตำรวจระดับสูง ไล่มาตั้งแต่คุณ “ซอมยอส ณ กาสิโน” สลับการให้ข่าวเกือบจะเป็นรายครึ่งวันของโฆษกตำรวจ ว่ากันจนเละ มีทั้งมั่ว คุยโว รู้เยอะ สร้างความหวังลมๆ แล้งๆ จนชาวบ้านเบื่อติดตามว่าจับคนร้ายได้หรือยัง“คุณซอมยอส” ประกาศว่ามีขบวนการเกี่ยวโยงกันมากกว่า 10 คนฝังตัววางแผนก่อเหตุนานแล้ว จะออกหมายจับได้เร็วๆ นี้ สร้างความหวังใหม่สลับล้มเหลวซ้ำซาก
ขนาดมีภาพจากกล้องวิดีโอชัดเจน พยานบุคคลเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ ให้ปากคำเห็นร่องรอยความเคลื่อนไหว ตำรวจยังงมหาตัวมือวางระเบิด ถ้าไร้หลักฐานต่างๆ คงถูกปล่อยให้เลยตามเลย นี่เป็นความพิสดารในความสามารถของตำรวจจริงๆ
ฝีมือตำรวจไทยนั้น คดียากเย็นซับซ้อนอย่างไร ไม่รอด ถ้าไม่มีอิทธิพลนอกระบบ หรืออำนาจการเมือง การเงินเข้ามาเบี่ยงเบนเป่าคดี โจรปล้นธนาคาร ปล้นทอง หลบไปไหน ตำรวจตามจับได้ทันควัน แม้บางครั้งจะได้ของกลางคืนมาไม่ครบ หรือไม่เหลือซาก
วันก่อนคุณซอมยอสเปิดปฏิบัติการ “ค้นรังโจร” ระดมตำรวจหลายร้อยนายยืนเข้าแถวกลางลานพระรูปฯ จัดงานอย่างเอิกเกริก ประชาสัมพันธ์เต็มที่ คุณซอมยอสเดินตรวจแถว แตะแขนตำรวจเกือบทุกนายก่อนปล่อยขบวน ตามยุทธการตีป่าให้เสือตื่น
เรียกซะโก้ว่าปฏิบัติการปิดเมืองปราบริปูสะท้าน ไพรีพินาศ อะไรทำนองนั้น! มีแต่ชาวบ้านในชุมชนบ้องตื้นเท่านั้นที่มีความหวังว่าจะประสบผลสำเร็จจากงานนั้น
ผลเป็นอย่างไร? หนึ่งคืนผ่านไป การค้นรังโจรเป็นมหกรรมดราม่าคว้าน้ำเหลว จับมือใครดมไม่ได้ มือระเบิดหายจ้อย ก่อนหน้านี้มีข่าวออกตัวไว้ก่อนแล้วว่าสงสัยมือบึ้มจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ชาวบ้านย้อน “จะรออยู่ทำป๊ะมันเรอะ!”
นับว่าเป็นปฏิบัติการ “อย่างฮา” สิ้นเปลืองน้ำมันรถ ตำรวจต้องอดตาหลับขับตานอนสมความตั้งใจของผู้หวังผลลมๆ แล้งๆ มีแต่ “คุณซอมยอส” คนเดียวยังยิ้มสู้โลกได้
จากความหวังเพราะคำคุยโวว่า “รู้ตัวหมดแล้ว” เตรียมออกหมายจับ กลายเป็นความหวังไม่ต่างจากพลังของผายลมสุนัขแก่ๆ ยามบ่ายหน้าร้อนว่าจะขับเคลื่อนโลก
โดยปกติ ถ้าจะปฏิบัติการตามรูปแบบมาตรฐาน “ปิดเมือง” หรือ Lock Down นั้น ต้องทำทันทีหลังจากเกิดเหตุ ไม่ใช่ปล่อยให้คนร้ายตั้งตัวได้ และหายไปไหนก็ไม่รู้ งานนี้ “คุณซอมยอส” ได้มอบหมายให้ ผบ.ตร. คนใหม่รับผิดชอบงาน แต่ไม่พูดสักแอะ
ปล่อยให้ “คุณซอมยอส” และโฆษก สลับกันคุยฟุ้งจนสับสนมั่วไปคนละทิศละทาง จนรู้สึกตัว ภายหลังออกประกาศว่ามีแต่โฆษกเท่านั้นที่จะพูดเรื่องนี้ได้ ตำรวจคนอื่นๆ ห้ามให้ข่าวอย่างเด็ดขาด คงนึกได้ว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปจะเละจนคุมสภาพไม่ได้
“ใหญ่แค่ไหนก็จับ” จึงเป็นเพียงคำอ้างที่ไร้น้ำหนัก เบากว่าผายลมของสุนัข! ก่อนหน้านี้ “คุณซอมยอส” คุยฟุ้งแทบเป็นรายวันว่าจะถอดยศคุณเหลี่ยมวันนั้น วันนี้ ไม่ปล่อยให้คนรับไม้ต่อจากตัวเองเดือดร้อน ทุกวันนี้คุณเหลี่ยมยังดำรงยศอยู่เต็มบ้อง
เหมือนคดี “ชูวงศ์” คุยฟุ้งว่าจะออกหมายจับวันนั้นวันนี้ สุดท้ายก็เหลวเป๋ว!
ตราบใดที่ตำรวจยังจับกุมมือวางระเบิดไม่ได้ ต้องถือว่าเป็นความล้มเหลว ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถืออย่างแรงต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ตัวผู้นำรัฐบาลทหาร ต่อให้รับปาก รับประกันอย่างไรต่อนักลงทุนต่างชาติ นักท่องเที่ยว ผลงานก็จะฟ้องให้เห็น
“คุณซอมยอส” รู้สึกอย่างไรไม่ทราบ ชาวบ้านยังมองว่านอกจากเรื่องถอดยศคุณเหลี่ยมและ “ชูวงศ์” ยังมีเรื่อง “แจ๊ดปืนเถื่อน” ซึ่งคดียังไม่มีอะไรคืบ คดีนักท่องเที่ยวโดนฆ่าที่เกาะเต่าก็มีเสียงเย้ยว่าเป็นการจับแพะ หลักฐานความมั่วในคดีสอบสวนปรากฏชัด
คุณท่านผู้นำรัฐบาลจะคิดอย่างไรก็ตาม แต่ขอให้คุณท่านรับทราบด้วยว่าชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของท่านในประเด็นระเบิด 2 ครั้งในเมืองหลวงมีปัญหาสาหัสแน่นอน
“คุณซอมยอส” อาจไม่คิดอะไรมากนัก ตัวเองเหลือเวลาอีกไม่ถึง 40 วันก็จะอำลาเครื่องแบบออกไปเป็นนักธุรกิจ เล่นหุ้น ซื้อขายบริษัทโกยเงินต่อไป ปัญหาเรื้อรังในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคนใหม่ และตัวคุณท่าน
อาจรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่อง อวยโชควาสนาของตัวเองในใจว่าจะเป็น ผบ.ตร.คนแรกที่สามารถล้างอาถรรพ์ อยู่ในตำแหน่งจนถึงวันเกษียณอายุ ทั้งๆ ที่ผลงานไม่เข้าตา
คุณท่านผู้นำน่าจะพิจารณาว่าไหนๆ “คุณจักรทิพย์” ก็เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ มีคดีใหญ่ๆ แบบนี้คงต้องการทำงานเต็มไม้เต็มมือ ไม่อยากให้ใครมาขโมยผลงานถ้าทำงานสำเร็จ คุณท่านน่าจะเปิดทางให้ “คุณซอมยอส” ออกไปอยู่บ้านก่อนวันเกษียณอายุ
“คุณซอมยอส” จะได้ไม่อึดอัดใจเรื่องถอดยศคุณเหลี่ยม มีเวลาไปดูแลราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ คุณท่านจะได้มีความหวังใหม่ในฝีมือคุณจักรทิพย์เรื่องคดีบึ้มด้วย
ที่น่ากังวลคือผลเสียหายด้านจิตวิทยา ความน่าเชื่อถือของตำรวจไทย ซึ่งน่าจะเป็นยุคที่ตกต่ำที่สุด ถ้าไม่นับประเด็นเรื่องการเมืองเมื่อมีการละเว้นปฏิบัติหน้าที่
บึ้มแรกที่สี่แยกราชประสงค์จนถึงสะพานสาทร ยังไม่มีความคืบหน้า
จากความสับสนว่าใครเป็นมือวางระเบิด มีวัตถุประสงค์อะไร ก่อการร้ายหรือแฝงการเมืองระหว่างประเทศ มือรับจ้างป่วนเมือง และประเด็นอื่นๆ สารพัด มาถึงช่วงนี้เริ่มเกิดความรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจล้มเหลวอีกครั้ง จนความน่าเชื่อถือติดลบดิ่งลงลึก
ที่ผ่านมามีแต่คำประกาศจากนายตำรวจระดับสูง ไล่มาตั้งแต่คุณ “ซอมยอส ณ กาสิโน” สลับการให้ข่าวเกือบจะเป็นรายครึ่งวันของโฆษกตำรวจ ว่ากันจนเละ มีทั้งมั่ว คุยโว รู้เยอะ สร้างความหวังลมๆ แล้งๆ จนชาวบ้านเบื่อติดตามว่าจับคนร้ายได้หรือยัง“คุณซอมยอส” ประกาศว่ามีขบวนการเกี่ยวโยงกันมากกว่า 10 คนฝังตัววางแผนก่อเหตุนานแล้ว จะออกหมายจับได้เร็วๆ นี้ สร้างความหวังใหม่สลับล้มเหลวซ้ำซาก
ขนาดมีภาพจากกล้องวิดีโอชัดเจน พยานบุคคลเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ ให้ปากคำเห็นร่องรอยความเคลื่อนไหว ตำรวจยังงมหาตัวมือวางระเบิด ถ้าไร้หลักฐานต่างๆ คงถูกปล่อยให้เลยตามเลย นี่เป็นความพิสดารในความสามารถของตำรวจจริงๆ
ฝีมือตำรวจไทยนั้น คดียากเย็นซับซ้อนอย่างไร ไม่รอด ถ้าไม่มีอิทธิพลนอกระบบ หรืออำนาจการเมือง การเงินเข้ามาเบี่ยงเบนเป่าคดี โจรปล้นธนาคาร ปล้นทอง หลบไปไหน ตำรวจตามจับได้ทันควัน แม้บางครั้งจะได้ของกลางคืนมาไม่ครบ หรือไม่เหลือซาก
วันก่อนคุณซอมยอสเปิดปฏิบัติการ “ค้นรังโจร” ระดมตำรวจหลายร้อยนายยืนเข้าแถวกลางลานพระรูปฯ จัดงานอย่างเอิกเกริก ประชาสัมพันธ์เต็มที่ คุณซอมยอสเดินตรวจแถว แตะแขนตำรวจเกือบทุกนายก่อนปล่อยขบวน ตามยุทธการตีป่าให้เสือตื่น
เรียกซะโก้ว่าปฏิบัติการปิดเมืองปราบริปูสะท้าน ไพรีพินาศ อะไรทำนองนั้น! มีแต่ชาวบ้านในชุมชนบ้องตื้นเท่านั้นที่มีความหวังว่าจะประสบผลสำเร็จจากงานนั้น
ผลเป็นอย่างไร? หนึ่งคืนผ่านไป การค้นรังโจรเป็นมหกรรมดราม่าคว้าน้ำเหลว จับมือใครดมไม่ได้ มือระเบิดหายจ้อย ก่อนหน้านี้มีข่าวออกตัวไว้ก่อนแล้วว่าสงสัยมือบึ้มจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ชาวบ้านย้อน “จะรออยู่ทำป๊ะมันเรอะ!”
นับว่าเป็นปฏิบัติการ “อย่างฮา” สิ้นเปลืองน้ำมันรถ ตำรวจต้องอดตาหลับขับตานอนสมความตั้งใจของผู้หวังผลลมๆ แล้งๆ มีแต่ “คุณซอมยอส” คนเดียวยังยิ้มสู้โลกได้
จากความหวังเพราะคำคุยโวว่า “รู้ตัวหมดแล้ว” เตรียมออกหมายจับ กลายเป็นความหวังไม่ต่างจากพลังของผายลมสุนัขแก่ๆ ยามบ่ายหน้าร้อนว่าจะขับเคลื่อนโลก
โดยปกติ ถ้าจะปฏิบัติการตามรูปแบบมาตรฐาน “ปิดเมือง” หรือ Lock Down นั้น ต้องทำทันทีหลังจากเกิดเหตุ ไม่ใช่ปล่อยให้คนร้ายตั้งตัวได้ และหายไปไหนก็ไม่รู้ งานนี้ “คุณซอมยอส” ได้มอบหมายให้ ผบ.ตร. คนใหม่รับผิดชอบงาน แต่ไม่พูดสักแอะ
ปล่อยให้ “คุณซอมยอส” และโฆษก สลับกันคุยฟุ้งจนสับสนมั่วไปคนละทิศละทาง จนรู้สึกตัว ภายหลังออกประกาศว่ามีแต่โฆษกเท่านั้นที่จะพูดเรื่องนี้ได้ ตำรวจคนอื่นๆ ห้ามให้ข่าวอย่างเด็ดขาด คงนึกได้ว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปจะเละจนคุมสภาพไม่ได้
“ใหญ่แค่ไหนก็จับ” จึงเป็นเพียงคำอ้างที่ไร้น้ำหนัก เบากว่าผายลมของสุนัข! ก่อนหน้านี้ “คุณซอมยอส” คุยฟุ้งแทบเป็นรายวันว่าจะถอดยศคุณเหลี่ยมวันนั้น วันนี้ ไม่ปล่อยให้คนรับไม้ต่อจากตัวเองเดือดร้อน ทุกวันนี้คุณเหลี่ยมยังดำรงยศอยู่เต็มบ้อง
เหมือนคดี “ชูวงศ์” คุยฟุ้งว่าจะออกหมายจับวันนั้นวันนี้ สุดท้ายก็เหลวเป๋ว!
ตราบใดที่ตำรวจยังจับกุมมือวางระเบิดไม่ได้ ต้องถือว่าเป็นความล้มเหลว ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถืออย่างแรงต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ตัวผู้นำรัฐบาลทหาร ต่อให้รับปาก รับประกันอย่างไรต่อนักลงทุนต่างชาติ นักท่องเที่ยว ผลงานก็จะฟ้องให้เห็น
“คุณซอมยอส” รู้สึกอย่างไรไม่ทราบ ชาวบ้านยังมองว่านอกจากเรื่องถอดยศคุณเหลี่ยมและ “ชูวงศ์” ยังมีเรื่อง “แจ๊ดปืนเถื่อน” ซึ่งคดียังไม่มีอะไรคืบ คดีนักท่องเที่ยวโดนฆ่าที่เกาะเต่าก็มีเสียงเย้ยว่าเป็นการจับแพะ หลักฐานความมั่วในคดีสอบสวนปรากฏชัด
คุณท่านผู้นำรัฐบาลจะคิดอย่างไรก็ตาม แต่ขอให้คุณท่านรับทราบด้วยว่าชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของท่านในประเด็นระเบิด 2 ครั้งในเมืองหลวงมีปัญหาสาหัสแน่นอน
“คุณซอมยอส” อาจไม่คิดอะไรมากนัก ตัวเองเหลือเวลาอีกไม่ถึง 40 วันก็จะอำลาเครื่องแบบออกไปเป็นนักธุรกิจ เล่นหุ้น ซื้อขายบริษัทโกยเงินต่อไป ปัญหาเรื้อรังในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคนใหม่ และตัวคุณท่าน
อาจรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่อง อวยโชควาสนาของตัวเองในใจว่าจะเป็น ผบ.ตร.คนแรกที่สามารถล้างอาถรรพ์ อยู่ในตำแหน่งจนถึงวันเกษียณอายุ ทั้งๆ ที่ผลงานไม่เข้าตา
คุณท่านผู้นำน่าจะพิจารณาว่าไหนๆ “คุณจักรทิพย์” ก็เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ มีคดีใหญ่ๆ แบบนี้คงต้องการทำงานเต็มไม้เต็มมือ ไม่อยากให้ใครมาขโมยผลงานถ้าทำงานสำเร็จ คุณท่านน่าจะเปิดทางให้ “คุณซอมยอส” ออกไปอยู่บ้านก่อนวันเกษียณอายุ
“คุณซอมยอส” จะได้ไม่อึดอัดใจเรื่องถอดยศคุณเหลี่ยม มีเวลาไปดูแลราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ คุณท่านจะได้มีความหวังใหม่ในฝีมือคุณจักรทิพย์เรื่องคดีบึ้มด้วย