xs
xsm
sm
md
lg

เตือนภัยขบวนการโอนหุ้น"ชูวงษ์" รีบพบตำรวจ-หวั่นถูกตัดตอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-โฆษกตำรวจเผยใบเซ็นโอนหุ้น "ชูวงษ์" ถูกปลอม พบลบข้อความเดิมออกแล้วเขียนใหม่ เตรียมพิสูจน์เจ้าตัวรับรู้หรือไม่ พร้อมตรวจเทปบันทึกเสียงในการทำธุรกรรมกับโบกเกอร์ย้อนหลัง 3 เดือน คาด 1 สัปดาห์รู้ผล เตรียมเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องสอบปากคำ เชื่อทำเป็นขบวนการ เตือนคนเกี่ยวข้องให้รีบพบตำรวจ หวั่นไม่ปลอดภัย

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีโอนหุ้น นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ว่า จากการตรวจสอบเอกสารการโอนหุ้นที่ได้รับจากโบรกเกอร์ทั้ง 2 ราย คือ บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) พบว่ามีการลบข้อความเดิมออก และกรอกข้อความใหม่ทับลงไปด้วยปากกาคนละด้าม เมื่ออ่านด้วยเครื่องเอกซเรย์จะเห็นข้อความเดิมทั้งหมด รวมถึงหลักฐานบันทึกเบอร์โทรศัพท์ที่ยืนยันการโอนหุ้น ไม่ใช่เบอร์ของนายชูวงษ์

"ขณะนี้ตำรวจได้รับเอกสารหลักฐานจาก บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค เป็นส่วนที่โอนให้พริตตี้สาว ครบถ้วนแล้ว เหลือแต่ส่วนของ บริษัทหลักทรัพย์เออีซีเอส จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนที่โอนให้โบรกเกอร์สาวคนสนิท ที่ยังเหลืออยู่อีกบางส่วน"

ส่วนการตรวจสอบลายเซ็นได้สิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้ต้องพิสูจน์ว่าในการแปลงวัตถุประสงค์การทำธุรกรรมนั้นนายชูวงษ์รับรู้หรือไม่ และผ่านช่องทางใด อีเมล์หรือเอกสาร

***ตรวจเทปบันทึกเสียงย้อนหลัง

พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า กำลังตรวจสอบเอกสารการโอนหุ้นและไฟล์เสียงในการทำธุรกรรม เนื่องจากมีหลายไฟล์ต้องนำมาเลือกและตรวจสอบซึ่งทางตำรวจได้ประสานขอบริษัทโบรกเกอร์เป็นข้อมูลไฟล์เสียงย้อนหลังไป 3 เดือนแบบไม่ตัดต่อ เนื่องจากไฟล์เสียงที่บริษัทโบรกเกอร์ส่งมาตอนแรก เป็นการเข้าใจผิดจึงส่งมาแบบตัดต่อ ทั้งนี้ เมื่อได้รับฉบับเต็มมาแล้วจะต้องนำมาเลือกฟัง คาดว่า 1 สัปดาห์ จะทราบผล

***เตรียมเชิญคนเกี่ยวข้องสอบสวน

สำหรับกรณีที่มีข่าวว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ 9 ราย โฆษก ตร. กล่าวว่า ยังไม่ทราบจำนวนคน ส่วน 9 คนมาจากไหนไม่ทราบจริงๆ อย่างน้อยมี 2 บริษัทโบรกเกอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง คนที่กรอกข้อมูลเอกสารหุ้นต้องรู้เรื่อง โดยจะต้องดูแต่ละส่วนว่ามีใครเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคนกรอกข้อมูลคนแรกและคนที่กรอกคนหลังต้องเชิญมาสอบสวนทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ที่กรอกทีหลัง หากพบว่าไม่มีอำนาจ ถือว่าเป็นการปลอมแปลง ซึ่งมีความผิดอย่างยิ่งถ้าปลอมแล้วเกิดความเสียหาย ขณะนี้มีความเสียหายแล้ว เนื่องจากญาติมาร้องว่าไม่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ต้องพิสูจน์ว่านายชูวงษ์รู้เรื่องหรือไม่ ถ้ารู้คือยินยอม ตรงนี้ต้องใช้ความละเอียดในการตรวจสอบ

***ทำเป็นขบวนการเกี่ยวพันหลายคน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายชูวงษ์เสียชีวิตเพราะเหตุจากเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ต้องแยกความผิด ขณะนี้ยังไม่ชัดว่าผิด ถ้าชัดคงออกหมายแล้ว ตอนนี้เพียงค่อนข้างเชื่อว่ามีการกระทำความผิดและเกี่ยวพันกับคนหลายคน และอาจเกิดความไม่ปลอดภัยกับพยานสำคัญ การโอนหุ้นนี้ทำเป็นขบวนการ หลายคนช่วยกัน ผ่านมือหลายคน หลายขั้นตอน มี 2 บริษัทใกล้เคียงกันกระทำกับคนคนเดียว

เมื่อถามว่าจากตรวจสอบพบว่าคนที่เกี่ยวข้องที่ตำรวจพูดถึงยังถือหุ้นในบริษัทโบรกเกอร์หรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบเกี่ยวข้องถือหุ้น แต่รู้จักกัน นักลงทุน ผู้ใหญ่ในไทยรู้จักกันหมด ยังพบว่าเกี่ยวกับบริษัทเดียว ทั้งนี้ ไม่พบความขัดแย้งกัน รอให้ทุกอย่างคลี่คลายกระจ่างจะรู้เองว่าเหตุผลคืออะไร ขณะนี้ยังมีเรื่องทำต่อต้องตรวจหลายรอบ รวมทั้งผลชันสูตรของนิติเวช ที่ญาตินายชูวงษ์นำมามอบให้ล่าสุด ต้องตรวจสอบอีกครั้งเนื่องจากรายละเอียดยังไม่ครบถ้วน

***เตือนมีเอี่ยวโอนหุ้นระวังไม่ปลอดภัย

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.สมยศระบุว่าคนที่เกี่ยวข้องคดีนี้อาจถูกทำร้าย แสดงว่ามีการสาวไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังแล้ว โฆษก ตร.กล่าวว่า มีข้อมูลว่าคนที่เกี่ยวข้องอาจมีอันตราย

"พยายามติดต่อมาคุย เพราะต้องมาดูแล เนื่องจากคนนี้รู้ความลับ อยู่ในวงการ และรู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับการโอนหุ้น ถ้าเรื่องนี้มีการทำผิดจริง คนที่รู้อันตราย หากความพยายามโอนหุ้นเป็นไปโดยทุจริต คนที่รู้เรื่องหรือมีส่วนเกี่ยวข้องจะเป็นอันตราย ส่วนบางคนในกลุ่มนี้เรียกมาสอบเป็นพยานแล้ว บางคนยังไม่เรียกมา หมายความรวมทั้งหมด2 สาวที่เป็นพริตตี้และโบกเกอร์ด้วย คนที่รู้เรื่อง คนทุกระดับอาจได้รับอันตรายทั้งนั้น ขณะนี้เท่าที่ทราบมีเกินกว่า 2 คน ทางที่ดีควรออกมา มาพูดมาคุยติดต่อกับตำรวจไว้ อย่างไรก็ยังไม่ถึงขั้นพบความเคลื่อนไหวว่าคนที่เสียผลประโยชน์จากการทำคดีนี้จะทำการใด แต่เราเตือนไว้เพื่อความปลอดภัย" พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น