วธ.เตรียมทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญที่ระลึก “อัคราภิรักษศิลปิน” เฉลิมพระเกียรติ 83 พรรษา “ราชินี” ทำด้วยทองคำ ด้านศิลปินแห่งชาติ เผยแนวคิด ราชินีมีพระเมตตาแผ่ไพศาล สู่ราษฎรทุกภูมิภาค
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีมติถวายพระราชสมัญญา “อัคราภิรักษศิลปิน” มีความหมายว่า “ศิลปินยิ่งใหญ่ผู้ปกปักรักษางานศิลปะ” แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 วธ.จึงได้จัดทำเหรียญที่ระลึก อัคราภิรักษศิลปิน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ12 สิงหาคม 2555 ออกแบบโดยนายนนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) และดำเนินการจัดทำโดยกรมธนารักษ์ ในขณะนี้ ได้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเนื่องในโอกาสมหามงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 กระทรวงวัฒนธรรม และคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ จึงเตรียมทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญที่ระลึก อัคราภิรักษศิลปิน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะเสด็จฯ แทนพระองค์ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2558 ณ อาคารชัยพัฒนาสวนจิตรลดา
นายวีระ กล่าวว่า ส่วนรายละเอียดของ เหรียญที่ระลึก อัคราภิรักษศิลปิน มีลักษณะเป็นเหรียญทองคำขัดเงา ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ 99% ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 เซนติเมตร จำนวน 1 เหรียญ ลวดลายของเหรียญ ด้านหน้า กลางเหรียญมีรูปสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผินพระพักตร์ทางเบื้องขวา ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ” ด้านหลัง กลางเหรียญมีพระรูปสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขณะทรงงานท่ามกลางราษฎร มีตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “อัคราภิรักษศิลปิน 12 สิงหาคม 2555”
นายนนทิวรรธน์ อธิบายให้ฟังว่า ภาพที่ปรากฎภายในเหรียญที่ระลึก มีแนวคิด จากการที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระเมตตาได้แผ่ไพศาล ไปสู่ปวงราษฎร ทุกภูมิภาคของประทศ ทรงส่งเสริมงานศิลปาชีพ ซึ่งถือเป็นงานยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน ทรงพยายามฟื้นเอกลักษณ์ไทย โดยเฉพาะเรื่องผ้าไทยทุกประเภท โดยส่งเสริม และสนับสนุนให้ชาวบ้านแต่ละท้องถิ่นมีอาชีพ มีงานทำ ซึ่งเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้ง พระองค์ ทรงให้การอุปถัมภ์ดูแล ส่งเสริม งานศิลปวัฒนธรรมไทย จนทำให้ผ้าไทย มีเอกลักษณ์ มีความเจริญก้าวหน้า เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ตามที่ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) มีมติถวายพระราชสมัญญา “อัคราภิรักษศิลปิน” มีความหมายว่า “ศิลปินยิ่งใหญ่ผู้ปกปักรักษางานศิลปะ” แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 วธ.จึงได้จัดทำเหรียญที่ระลึก อัคราภิรักษศิลปิน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ12 สิงหาคม 2555 ออกแบบโดยนายนนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) และดำเนินการจัดทำโดยกรมธนารักษ์ ในขณะนี้ ได้จัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเนื่องในโอกาสมหามงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 กระทรวงวัฒนธรรม และคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ จึงเตรียมทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญที่ระลึก อัคราภิรักษศิลปิน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งจะเสด็จฯ แทนพระองค์ ในวันที่ 18 สิงหาคม 2558 ณ อาคารชัยพัฒนาสวนจิตรลดา
นายวีระ กล่าวว่า ส่วนรายละเอียดของ เหรียญที่ระลึก อัคราภิรักษศิลปิน มีลักษณะเป็นเหรียญทองคำขัดเงา ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ 99% ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 เซนติเมตร จำนวน 1 เหรียญ ลวดลายของเหรียญ ด้านหน้า กลางเหรียญมีรูปสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ผินพระพักตร์ทางเบื้องขวา ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ” ด้านหลัง กลางเหรียญมีพระรูปสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขณะทรงงานท่ามกลางราษฎร มีตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 12 สิงหาคม 2555 ภายในวงขอบเหรียญเบื้องล่างมีข้อความว่า “อัคราภิรักษศิลปิน 12 สิงหาคม 2555”
นายนนทิวรรธน์ อธิบายให้ฟังว่า ภาพที่ปรากฎภายในเหรียญที่ระลึก มีแนวคิด จากการที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระเมตตาได้แผ่ไพศาล ไปสู่ปวงราษฎร ทุกภูมิภาคของประทศ ทรงส่งเสริมงานศิลปาชีพ ซึ่งถือเป็นงานยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน ทรงพยายามฟื้นเอกลักษณ์ไทย โดยเฉพาะเรื่องผ้าไทยทุกประเภท โดยส่งเสริม และสนับสนุนให้ชาวบ้านแต่ละท้องถิ่นมีอาชีพ มีงานทำ ซึ่งเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้ง พระองค์ ทรงให้การอุปถัมภ์ดูแล ส่งเสริม งานศิลปวัฒนธรรมไทย จนทำให้ผ้าไทย มีเอกลักษณ์ มีความเจริญก้าวหน้า เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งในประเทศและต่างประเทศ
