อลังการ! วัดปากน้ำภาษีเจริญ ส่องความเจริญ ชมศิลปวัตถุ และสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา พร้อมตื่นตาความหรูหรา 5 ชั้น 5 ความโดดเด่นภายในพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล ส่วนจะตระการตาขนาดไหน ทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live จะพาไปเปิดความอลังการของพระอารามหลวงแห่งนี้กันแบบถึงใจ ถึงอารมณ์
ตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกี่ยวเนื่องกับวัดพระธรรมกายสำหรับ "วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ" ตั้งแต่หลักปฏิบัติตามแนววิชชาธรรมกาย รวมไปถึงกรณีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในฐานะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นหนึ่งเสียงสำคัญในการลงมติให้ "ธัมมชโย" เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่ต้องอาบัติปาราชิก หรือการธุดงค์ธรรมชัยที่ผ่านมาก็รับเป็นองค์ประธานให้
กระทั่งมีการแชร์ภาพวาดฝาผนังลักษณะคล้าย "สมเด็จช่วง" ขณะโปรดปัญจวัคคีย์จนทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ต้องบุกไปดูให้เห็นกับตาว่าภาพคล้ายเจ้าอาวาสวัดดังยกตนเสมอพระพุทธเจ้ามีจริงไหม แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบภาพตามที่เป็นข่าว ทว่ามีร่องรอยทาสีขาวทับภาพวาดบางส่วนอย่างน่าสงสัย
ไม่แปลกที่วัดแห่งนี้จะกลายเป็นวัดที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เช่นเดียวกับทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live ที่จะขออาสาพาไปเปิดความอลังการของพระอารามหลวงแห่งนี้กันแบบถึงใจ ถึงอารมณ์
ใหญ่โต! "ลานจอดรถ" สูง 6 ชั้น
แน่นอนว่า การเดินทางมาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ หลายคนตั้งใจมากราบไหว้ "หลวงพ่อสด" หรือ "หลวงพ่อวัดปากน้ำ" พระเกจิชื่อดังที่มีพุทธศาสนิกชนเลื่อมใสมากมาย แต่สำหรับใครที่มีขับรถยนต์มา คงต้องร้องโอ้โห! กับอาคารจอดรถ 6 ชั้น รองรับได้วันละ 900 คัน (เปิดบริการเข้า-ออกตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม) แถมมีลิฟต์ไว้ให้บริการด้วย โดยอัตราค่าจอดรถ ชั่วโมงที่ 1 จอดฟรี ชั่วโมงที่ 2-3 คิดค่าบริการ 20 บาท ชั่วโมงที่ 4 คิดค่าบริการ 30 บาท ส่วนชั่วโมงที่ 5-15 คิดค่าบริการ 10 บาทต่อชั่วโมง (เศษของชั่วโมงคิดเป็น 1 ชั่วโมง)
ก่อนจะไปยังสถานที่สำคัญๆ อย่าง "พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล" ทีมข่าวเดินสำรวจดูรอบๆ วัด พบว่า ทางวัดมีศิลปกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นหอพระไตรปิฏก ซึ่งแต่เดิมนั้นสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่หอไตรหลังที่ปรากฏอยู่นี้ สร้างขึ้นใหม่จากการถอดแบบของเดิม ทำลวดลายเดิม มีการลงรักปิดทองฝาผนังด้านนอกทั้งหลัง
นอกจากนั้น ยังมีตึกทรงไทย 2 ชั้น ที่ภายในเป็น "หอหลวงพ่อ" หรือเรียกชื่อเต็มๆ ว่า "หอสังเวชนีย์มงคลเทพนิรมิต" ศูนย์รวมใจของชาววัดปากน้ำในการประกอบบุญกุศลต่างๆ โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมถวายหลวงพ่อเป็นประจำทุกวัน หากท่านใดสนใจนั่งสมาธิเจริญภาวนา ทุกวันพฤหัสบดีเวลาประมาณบ่ายสองโมงจะมีการเจริญสมาธิภาวนาที่บริเวณชั้นสอง
มหาเจดีย์ 5 ชั้น เวอร์วังอลังการ!
เดินมาถึงสิ่งก่อสร้างใหญ่โตสีขาวมองเห็นโดดเด่นตระหง่านด้วยความสูงถึง 80 เมตร เรากำลังพูดถึง "พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล" เจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมผสมทรงกลมมีฐาน 9 ชั้น ประยุกต์ผสมผสานระหว่างศิลปะยุครัตนโกสินทร์กับศิลปะล้านนา ได้รูปแบบมาจากเจดีย์ของวัดโลกโมฬี ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
สำหรับคำว่า "พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล" เป็นนามที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญองค์ปัจจุบันได้ตั้งขึ้น โดยมีความหมายคือ "มหารัช" หมายถึงแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ และ "มงคล" มาจากราชทินนามของ "พระมงคลเทพมุนี" หรือ "หลวงพ่อสด" นั่นเอง
ด้านงบประมาณก่อสร้างพระมหาเจดีย์แห่งนี้ ใช้งบฯ ทั้งสิ้น 300 ล้านบาท ถือเป็นอนุสรณ์ทางพระพุทธศาสนาให้พุทธศานิกชนรุ่นหลังได้เห็นความงดงามของสถาปัตยกรรมไทย โดยตัวเจดีย์มีความสูงจากฐานถึงยอด 80 เมตร กว้าง 52 เมตร สูง 52 เมตร มี 5 ชั้น นอกจากเจดีย์แก้วที่ประดิษฐานอยู่บนชั้น 5 ซึ่งเป็นเจดีย์แก้วที่มีความสูง 8 เมตร สร้างจากกระจกที่มีความหนา 1 เซนติเมตรมาซ้อนกัน 800 ชั้น ที่มีอยู่หนึ่งเดียวในประเทศไทยแล้ว
อีกจุดเด่นหนึ่งของพระมหาเจดีย์ฯ ก็คือ บานประตูทางเข้าบริเวณชั้น 2 จำนวน 4 บาน สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อฉบับหนึ่งว่า สร้างจากไม้สักทอง และมีการแกะสลักเป็นรูปท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ประกอบด้วย ท้าวธตรัฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ และท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ ซึ่งตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา เพื่อคอยให้ความคุ้มครอง และคอยดูแลรักษา โดยมีการลงรักปิดทองอย่างสวยงามจากทองคำเปลว 1 แสนแผ่น พร้อมทั้งประดับด้วยคริสตัล คิดเป็นมูลค่าบานประตูละ 2 ล้านบาท
5 ชั้น 5 เด่น เห็นแล้วต้องอึ้ง!
เมื่อเจาะลึกเข้าไปในแต่ละชั้นของพระมหาเจดีย์ฯ ต้องบอกว่า มีความน่าสนใจแตกต่างกันไป เริ่มจาก ชั้น 5 (ห้องพุทธคุณารมณ์) เป็นที่ประดิษฐานของเจย์ดีย์แก้วจำลอง กล่าวกันว่า "เป็นเจดีย์แก้วองค์แรกของโลก" มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า "พระรัตนเจดีย์ศรีมหามงคล" จำลองแบบมาจากพระมหาเจดีย์มหารัชมงคล สร้างด้วยแก้วสีเขียวมรกต (ลายกระแสน้ำ) กว่า 800 ชิ้น 800 ชั้นสูงกว่า 8 เมตร น้ำหนักกว่า 18 ตัน ใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี
ส่วนองค์ประกอบสำคัญของพระเจดีย์แก้วองค์นี้ ได้แก่ พญานาค 80 ตน (เป็นจำนวนที่มาจากพระชนมายุของพระพุทธเจ้า) เพื่อปกป้ององค์พระธาตุ หรือดวงตาพญานาคที่หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ได้เมตตามอบดวงแก้วกายสิทธิ์จำนวน 160 คู่ ทำดวงตาพญานาคที่สุกสกาวแวววาวดั่งมีชีวิต นอกจากนั้นยังมีระเบียงให้ออกไปเดินชมทัศนียภาพรอบๆ วัดในมุมสูงด้วย
ลงมาที่ ชั้น 4 (ห้องธัมมคุณารมณ์) เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนบูรพาจารย์ของหลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เช่น พระมหาเถระ และพระเถระผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ผู้เป็นต้นแบบด้านคันถธุระ วิปัสสนาธุระ หรือผู้เป็นต้นแบบด้านการบริหาร หรือการปกครอง ประกอบด้วยรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หรือ "หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ" ขนาดเท่าครึ่งขององค์จริงหล่อด้วยทองคำบริสุทธิ์หนักถึง 1 ตัน (1,000 กิโลกรัม)
ตื่นตากันต่อใน ชั้นที่ 3 (ห้องสังฆคุณารมณ์) ห้องนี้ ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ ของที่ระลึก เครื่องสักการะที่ได้รับถวายมาในโอกาสต่างๆ เช่น พระพุทธรูป รูปเหมือนบูรพาจารย์ พัดยศโบราณ ประวัติเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ซึ่งเขียนด้วยลายมือของท่านเอง
ถัดลงมายัง ชั้นที่ 2 (ธรรมกายคุณารมณ์) เป็นพื้นที่ว่างไว้สำหรับจัดประชุม สัมมนา และปฏิบัติธรรม รวมไปถึงพิธีการสำคัญต่างๆ เช่น พิธีมอบประกาศสำนักนายกเรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา
ปิดท้ายกันที่ "ห้องมหาชนคุณารมณ์" ในชั้น 1 ถือเป็นห้องที่ชวนตื่นตาตื่นใจได้มากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธบารมีมงคล" (พระพุทธรูปหยกเขียว) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหยกจากประเทศอิตาลี ขนาดหน้าตัก 50 นิ้ว น้ำหนัก 1,600 กิโลกรัมแล้ว ยังเป็นสถานที่แสดงพิพิธภัณฑ์พื้นฐาน และสิ่งของเครื่องใช้โบราณจำนวนมาก
ไม่ว่าจะเป็น สมุดข่อย ภาพถ่ายของเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เครื่องมือเกษตรกรรม เรือ รถม้า เครื่องเบญจรงค์ เครื่องปั้นดินเผา รวมไปถึงรถยนต์โบราณ หนึ่งในนั้นมีรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานครที่เคยตกเป็นข่าวรถต้องสงสัยหลบเลี่ยงภาษีเมื่อ 2 ปีก่อนด้วย
ไม่เพียงแต่ความใหญ่โตของศาสนสถานผ่านช่างชั้นสูงฝีมือดี แถมมีการเก็บรักษาข้าวของมีค่าซึ่งมีการอุทิศถวายเพื่อสืบพระศาสนาเป็นอย่างดีแล้ว ด้านในสุดของวัด ยังมี "สวนกาญจนาภิเษก" ที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณให้ร่มเงา สามารถนั่งพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างสบายอารมณ์อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ คือความยิ่งใหญ่ ตระการตาของวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ วัดที่ "สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์" เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญเคยให้โอวาท เนื่องในพิธีประดิษฐานรูปหล่อทองคำพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ณ พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล เมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555 โดยประกาศชัดไว้ตอนหนึ่งว่า "...วัดปากน้ำกับวัดพระธรรมกายเป็นวัดพี่วัดน้อง หรือเสมือนหนึ่งว่าเป็นวัดเดียวกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน..."
ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754