xs
xsm
sm
md
lg

ลีลา ท่วงท่า เจตนาแฝงเร้นไร้เนียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์

การเมืองบ้านเรา ยังเน่าเหมือนเดิม ไม่ว่าจะมาจากการเมืองลากตั้ง หรือเลือกตั้งซื้อเสียง มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย การเมืองลากตั้งมาจากข้าราชการ นักการเมือง กลุ่มผลประโยชน์หนุนฐานอำนาจของกลุ่มพลังปืนจากนอกระบบ การเมืองซื้อเสียงมาจากทุนเงินลงขันเพื่อกินเมือง

การเมืองทั้ง 2 ประเภท เริ่มต้นจากการประกาศคำอ้างเปิดเผยว่ามีเจตนาดีต่อบ้านเมือง แต่เจตนาแฝงเร้นคือการเสริมสร้างฐานอำนาจให้มั่นคงเพื่อกอบโกยผลประโยชน์เพื่อตัวเอง พวกพ้อง

กลุ่มการเมืองจากเงินทุนสามานย์ประกาศแนวทางประชาธิปไตยเพื่อประชาชน

กลุ่มการเมืองจากอำนาจปืนอ้างความรักชาติบ้านเมืองเป็นเหตุและปกป้องสถาบันหลักและประชาชนเมื่อสำแดงพลังขับไล่นักการเมืองออกไปแล้วเข้ามาฮุบอำนาจแทน

การเมืองจากอำนาจทั้ง 2 ประเภทไม่ได้ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของตนเอง หน้าที่การงาน อาชีพและโอกาสสร้างความมั่นคง

เหมือนธุรกิจภาคเอกชนไม่ยอมรอภาครัฐให้ช่วย ทุกคนพึ่งพาตนเองผู้กุมอำนาจ บริหารอำนาจ ต่างมั่งคั่งร่ำรวย ไม่ปรากฏว่ามีใครยากจนลงจาก อำนาจการเมือง แตกต่างกันเพียงแต่ใครมีโอกาสมากกว่าในการแสวงหาความมั่งคั่งจากการทุจริต คอร์รัปชั่น

ทั้ง 2 กลุ่มเผชิญความเสี่ยงไม่มากนักจากการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย มีระบบขั้นตอนซับซ้อนยืดเยื้อจนกว่ากระบวนการยุติธรรมทั้งมวลจะถึงจุดสรุปว่ามีใครต้องรับโทษอาญาหรือไม่

สภาวะน้ำเน่าช่วงนี้มีปาหี่การเมืองในรูปแบบลับลวงพราง สลับขาหลอก เล่นกลกับชาวบ้านในประเด็นของเงื่อนไข เช่นควรปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไม่กำหนดระยะเวลา หรือวี่แววการล้มรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ผู้กุมอำนาจรัฐด้วยปืนยืนยันว่ากระบวนการทุกอย่างยังเป็นไปตามโรดแหม็บๆ การเลือกตั้งเป็นไปตามกำหนด รัฐธรรมนูญว่าอย่างไรก็ให้เป็นไปตามนั้น ถ้าจะเปลี่ยนก็ให้ไปหาวิธีมา

ได้ยินเพียงแค่นี้ พวกนิติศรีธนญชัยได้โอกาสแสดงทัศนะค้นหารูหมารอดในตัวบทกฎหมาย มีเนติบริกรเจ้าประจำรายหนึ่งอ้างว่าแม้โรดแหม็บๆ กำหนดเงื่อนเวลาตามลำดับของโรดแหม็บๆ แต่ต้องคำนึงถึงความเป็นจริงของสถานการณ์ในทุกช่วงเวลา ดังนั้นย่อมต้องมีความยืดหยุ่น

เมื่อโรดแหม็บๆ บางช่วงยืดเวลาออกไป เรื่องอื่นๆ ก็ต้องยืดตามไปด้วย ตามภาวะจำเป็น

เหมือนก่อนหน้านี้มีเสียงรับประกันว่า “ไม่มีการสืบทอดอำนาจอย่างเด็ดขาด” แต่ไม่มีใครรับประกันว่ากลุ่มเดิมจะ “ไม่ทอดยาว” อำนาจ ซึ่งต่างกันด้านความหมายโดยไม่ต้องใช้วิชานิติศรีธนญชัยรับรองหรือตีความ เพราะการสืบทอดอำนาจคือกลุ่มเดิมพยายามหาหนทางอยู่ต่อไปหลังจากช่วงเวลาการกุมอำนาจสิ้นสุดลง จึงหาวิธีอื่น เช่นให้มี “นายกฯ คนนอก” ไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้ง แต่มาได้เมื่อมีสถานการณ์พิเศษ ซึ่งสร้างขึ้นได้เช่นกัน

ส่วนการ “ทอดยาวอำนาจ” คือกลุ่มเดิมใช้วิชานิติศรีธนญชัยกุมอำนาจรัฐต่อเนื่อง ไม่มีขาดตอน ถ้าจำเป็นก็ไม่ต้องอ้างกฎหมายอะไรทั้งสิ้น แต่ใช้ความหน้าด้านตาใสหักดิบ ตัดสิทธิปิดปากชาวบ้าน

ข้าพเจ้าได้ประกาศหลายครั้งว่ากลุ่มอำนาจปัจจุบันจะหาวิธีอยู่ให้นานถึง 4 ปี ไม่เป็นไปตามคำอ้างตามโรดแหม็บๆ ว่าจะอยู่ประมาณ 1 ปี ร่างรัฐธรรมนูญให้เสร็จ แล้วจัดการเลือกตั้ง

ชาวบ้านได้เห็นลีลาการเล่นลิ้น เล่นเกมแหกตาประชนอยู่ทุกระยะ เห็นได้ชัดอีกว่าเกมการเมืองไม่จำกัดเฉพาะนักการเมือง คนนอกวงการก็เรียนรู้ปฏิบัติได้ ถ้ามีพวกเนติบริกรใช้วิชาศรีธนญชัยศาสตร์จัดการปูทางวางโรดแหม็บๆ เฉพาะกิจเพื่อสานเจตนาแฝงเร้นในการกุมอำนาจนานๆ

เดี๋ยวนี้ชาวบ้านเริ่มชินกับความสำเร็จของแผนหักดิบคือให้มีนายกฯ คนนอกได้

นักแต่งตั้งใน สปช. บางพวกมีแผนเพื่อทอดยาวอำนาจจากกลุ่มสมรู้ร่วมคิดฉีกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพื่อให้เสียเวลาตั้งกลุ่มนักแต่งรัฐธรรมนูญคณะใหม่ ทำให้กลุ่มอำนาจปัจจุบัน “ทอดยาว” อำนาจ เป็นประชาธิปไตยกำมะลอ สังคมจะไร้รากมั่นคง

นี่ไม่ใช่เกมลึกซึ้งอะไร เป็นยุทธวิธีหน้าด้านๆ ธรรมดา!

กลุ่มนักสมรู้ร่วมคิดล้มร่างรัฐธรรมนูญก็จะได้รางวัล ถูกวางตัวให้ “ลากยา” ในงานแต่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผสานกับงานปฎิรูปกำมะลอซึ่งเป็นข้ออ้างหาเหตุให้ “อยู่ยาว” และ “ลากยาว”

ประชาชนถูกยัดเยียดให้ยอมรับสภาพไร้สิทธิ ไร้เสียง ห้ามแสดงออกทางการเมือง ทั้งๆ ที่กระบวนการต่างๆ ก็เพื่อการเมือง เพราะกลัวนักการเมืองงาบหนักจะซื้อเสียงกลับมาเร็ว

นี่เป็นประชาธิปไตยลักษณะตัวประกันในสภาวะจำยอม ถ้าผู้กุมอำนาจไม่ซื่อสัตย์ ทะเยอทะยาน บ้านเมืองมีแต่จะเลวร้าย ประชาชนหาทางออกไม่ได้ กลายเป็นเหยื่อเผด็จการกินรวบ

บ้านเมืองไทยอยู่ในสภาวะของการเมืองอุบาทว์ มีอำนาจเพื่อโกงกิน ผู้มีอำนาจทุกยุคมุ่งเน้นการรักษาอำนาจ ขยายฐานอำนาจของตัวเองเพื่อให้อยู่ได้นาน ลืมประชาชนซึ่งถูกหลอกซ้ำซาก

คนมีฐานะมั่งคั่งในสังคมยังเพิกเฉยละเลยชนชั้นผู้ยากไร้ ลืมไปว่าถ้าทั่วทั้งแผ่นดินมีแต่คนสิ้นไร้ไม้ตอก คนอกไหม้ไส้ขมทุกข์ระทมจมอยู่ในสภาพด้อยโอกาส ตัวเองก็จะอยู่ยากเช่นกัน

จากนี้ไปเราจะเห็นลีลาผสมเล่ห์ในการรักษาอำนาจและสถานภาพของโอกาสทุกระดับชั้นในแวดวงการเมือง นอกจากผลประโยชน์เป็นเงินเดือนมากโขในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองแล้วยังถือว่าการดำรงตำแหน่งยังเป็นกุญแจเปิดทางไปสู่ผลประโยชน์ในการสร้างเครือข่ายอื่นๆ ด้วย

จะมีใครสักกี่คนใน สนช. สปช. และองค์กรอิสระต่างๆซึ่งเมื่อเปิดปากพูดแล้วยังมีคนเชื่อถือ ในยุคไร้การเมือง สภาวะถูกบังคับเช่นปัจจุบัน มีแต่คนเอาตัวรอด ประชาชนมาทีหลังเสมอ

เมื่อเล่ห์กล ลีลาถูกคนรู้ทันจับไต๋ได้ พวกต้องการอยู่ในอำนาจจะดิ้นรนหาช่องทางเพื่อรักษาสภาวะเดิม ข้ออ้างว่าจะปฏิรูปนั่นนี่โน่นจึงมีค่าเทียบเท่ากับผายลมสุนัขอิดโรยยามบ่ายจัดเท่านั้น

พุทโธ่! ถ้ามีเจตนาสุจริตใจทำงานเพื่อบ้านเมือง คงไม่ต้องให้ประชาชนทวงถามซ้ำซาก

คำมั่น ท่วงท่าใดๆ จึงเป็นเพียงการสลับขาหลอก รู้ทั้งรู้ว่าชาวบ้านรู้ทันก็ยังจะทำ

นั่นเป็นเพราะสิ้นท่าแล้ว ไร้ทางเลือก ต้องอาศัยลูกตลกด้านเป็นตัวช่วยเอาตัวรอดไปวันๆ

จะไปได้สักกี่น้ำ คนทำมาหากินลำบากมีความอดทนจำกัดนะ จะบอกให้!


กำลังโหลดความคิดเห็น