ASTV ผู้จัดการรายวัน – ส่งออกช่วยพลิกสถานการณ์ค่ายรถ “ฮอนด้า” ยิ้มครึ่งปีแรกโต 27% มูลค่ารวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับ “มาสด้า” ที่พุ่งกว่าเท่าตัว หรือมากถึง 4 หมื่นคัน ขณะที่ในไทยเปิดตัวปิกอัพ “บีที-50 โปร” ใหม่ ผนึกกำลังมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ดันยอดพุ่งสวนตลาด หรือลุ้นแชร์ 5% แตะสูงสุดในไทยอีกครั้ง
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดส่งออกของฮอนด้าในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา เติบโตขึ้น 78% ด้วยมูลค่า 19,119 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกชิ้นส่วนเพื่อประกอบรถยนต์มีมูลค่า 19,665 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3% และนอกจากนี้ยังมีการส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์เพิ่มขึ้น 25% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,550 ล้านบาท
“รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทย ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 มีมูลค่าทั้งสิ้น 40,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เนื่องจากความต้องการในตลาดออสเตรเลีย และตะวันออกกลางสูงขึ้นมาก โดยรถยนต์รุ่นที่ส่งออกสูงสุด ฮอนด้า ซิตี้, เอชอาร์-วี และแจ๊ซ รวมคิดเป็น 70% ของการส่งออกทั้งหมด ขณะที่ชิ้นส่วนยานยนต์ตลาดอาเซียนและอเมริกาใต้มีความต้องการเพิ่มเช่นกัน นั่นแสดงให้เห็นมาตรฐานการผลิตฮอนด้าของประเทศไทย”
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ไทยโดยรวมลดลงกว่า 16% ในส่วนของมาสด้ามียอดขายใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เนื่องจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ซึ่งทำให้มาสด้ามีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มรถยนต์นั่งหรือแชร์กว่า 11.6% ซึ่งถือว่าสูงสุดของมาสด้าในไทย และผลักดันให้ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ในตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋งสำเร็จเป็นครั้งแรก
“ครึ่งปีแรกมาสด้ามีแชร์ในตลาดรถยนต์ไทยรวมทุกประเภท 4.9% และล่าสุดมาสด้าได้แนะนำปิกอัพบีที-50 โปร ใหม่ หรือรุ่นไมเนอร์เชนจ์สู่ตลาดไทย โดยเชื่อว่าจะผลักดันให้มาสด้ามีแชร์ในตลาดรถยนต์รวมปีนี้เพิ่มเป็น 5% ซึ่งถือว่าใกล้จุดสูงสุดของมาสด้าที่เคยทำไว้ 5.3% เมื่อปี 2554 ที่เป็นช่วงตลาดรถไทยกำลังเติบโตสู่จุดสูงสุด แต่ปีนี้ตลาดรถยนต์ไทยคาดว่าจะลดลงเหลือไม่เกิน 8 แสนคันเท่านั้น ดังนั้นการเพิ่มแชร์ได้เกือบจุดสูงสุดของมาสด้าอีกครั้ง หรือมียอดขายกว่า 40,000 คัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ 34,000 คัน จึงเป็นความสำเร็จที่สวนตลาดรถโดยรวมปีนี้ เช่นเดียวกับการส่งออกรถยนต์จากไทย ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่เพิ่มมากกว่าสองเท่าตัว”
ทั้งนี้มีรายงานตัวเลขการส่งออกจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มาสด้ามียอดการส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ 40,558 คัน โดยช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีเพียง 15,908 คัน ซึ่งจากการเปิดเผยของมาสด้าในประเทศไทยถึงตัวเลขการเติบโตดังกล่าว มาจากการส่งออกรถยนต์นั่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ด้วยจำนวนกว่า 25,000 คัน ส่วนปิกอัพแม้จะเป็นช่วงปลายโมเดลแต่ส่งออกได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
“มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาดไทยครั้งแรกในโลก จะเริ่มส่งออกใน 1-2 เดือนจากนี้ไป สู่ตลาดออสเตรเลีย เอเชียและโอเชียเนีย จึงมั่นใจจะผลักดันให้มียอดการส่งออกของมาสด้าจากไทยเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน ส่วนตลาดในประเทศคาดว่ามาสด้าจะมียอดขายปิกอัพรุ่นใหม่นี้ประมาณ 1,000 คันต่อเดือน หรือถึงสิ้นปีคาดยอดขายปิกอัพทั้งหมด 10,000 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ประมาณ 13,000 คัน เพราะช่วงครึ่งปีแรกได้ชะลอการทำตลาด เพื่อเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุด”นายทาเกสึเอะกล่าวและว่า
สำหรับปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ได้มีการวางตำแหน่งสินค้าให้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบให้อารมณ์สปอร์ตแต่ดูแข็งแกร่งบึกบึนยิ่งขึ้น จากการปรับเปลี่ยนในส่วนของไฟหน้า-ท้าย และกระจังหน้าใหม่ รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นกล้องมองหลัง หรือที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มทางเลือกกับรุ่นสแตนดาร์ดแค็บ หรือปิกอัพตอนเดียว โดยบีที-50 ใหม่ ยังคงมีเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลให้เลือกทั้งรุ่น 2.2 และ 3.2 ลิตร ราคาเริ่มต้น 561,000-1,023,00 บาท
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดส่งออกของฮอนด้าในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา เติบโตขึ้น 78% ด้วยมูลค่า 19,119 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันที่ผ่านมา ขณะที่การส่งออกชิ้นส่วนเพื่อประกอบรถยนต์มีมูลค่า 19,665 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3% และนอกจากนี้ยังมีการส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์เพิ่มขึ้น 25% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,550 ล้านบาท
“รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์จากประเทศไทย ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 มีมูลค่าทั้งสิ้น 40,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เนื่องจากความต้องการในตลาดออสเตรเลีย และตะวันออกกลางสูงขึ้นมาก โดยรถยนต์รุ่นที่ส่งออกสูงสุด ฮอนด้า ซิตี้, เอชอาร์-วี และแจ๊ซ รวมคิดเป็น 70% ของการส่งออกทั้งหมด ขณะที่ชิ้นส่วนยานยนต์ตลาดอาเซียนและอเมริกาใต้มีความต้องการเพิ่มเช่นกัน นั่นแสดงให้เห็นมาตรฐานการผลิตฮอนด้าของประเทศไทย”
นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ไทยโดยรวมลดลงกว่า 16% ในส่วนของมาสด้ามียอดขายใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เนื่องจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ซึ่งทำให้มาสด้ามีส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มรถยนต์นั่งหรือแชร์กว่า 11.6% ซึ่งถือว่าสูงสุดของมาสด้าในไทย และผลักดันให้ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ในตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋งสำเร็จเป็นครั้งแรก
“ครึ่งปีแรกมาสด้ามีแชร์ในตลาดรถยนต์ไทยรวมทุกประเภท 4.9% และล่าสุดมาสด้าได้แนะนำปิกอัพบีที-50 โปร ใหม่ หรือรุ่นไมเนอร์เชนจ์สู่ตลาดไทย โดยเชื่อว่าจะผลักดันให้มาสด้ามีแชร์ในตลาดรถยนต์รวมปีนี้เพิ่มเป็น 5% ซึ่งถือว่าใกล้จุดสูงสุดของมาสด้าที่เคยทำไว้ 5.3% เมื่อปี 2554 ที่เป็นช่วงตลาดรถไทยกำลังเติบโตสู่จุดสูงสุด แต่ปีนี้ตลาดรถยนต์ไทยคาดว่าจะลดลงเหลือไม่เกิน 8 แสนคันเท่านั้น ดังนั้นการเพิ่มแชร์ได้เกือบจุดสูงสุดของมาสด้าอีกครั้ง หรือมียอดขายกว่า 40,000 คัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ 34,000 คัน จึงเป็นความสำเร็จที่สวนตลาดรถโดยรวมปีนี้ เช่นเดียวกับการส่งออกรถยนต์จากไทย ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่เพิ่มมากกว่าสองเท่าตัว”
ทั้งนี้มีรายงานตัวเลขการส่งออกจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มาสด้ามียอดการส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ 40,558 คัน โดยช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีเพียง 15,908 คัน ซึ่งจากการเปิดเผยของมาสด้าในประเทศไทยถึงตัวเลขการเติบโตดังกล่าว มาจากการส่งออกรถยนต์นั่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟ ด้วยจำนวนกว่า 25,000 คัน ส่วนปิกอัพแม้จะเป็นช่วงปลายโมเดลแต่ส่งออกได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
“มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ที่เพิ่งแนะนำสู่ตลาดไทยครั้งแรกในโลก จะเริ่มส่งออกใน 1-2 เดือนจากนี้ไป สู่ตลาดออสเตรเลีย เอเชียและโอเชียเนีย จึงมั่นใจจะผลักดันให้มียอดการส่งออกของมาสด้าจากไทยเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน ส่วนตลาดในประเทศคาดว่ามาสด้าจะมียอดขายปิกอัพรุ่นใหม่นี้ประมาณ 1,000 คันต่อเดือน หรือถึงสิ้นปีคาดยอดขายปิกอัพทั้งหมด 10,000 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ประมาณ 13,000 คัน เพราะช่วงครึ่งปีแรกได้ชะลอการทำตลาด เพื่อเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุด”นายทาเกสึเอะกล่าวและว่า
สำหรับปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ ได้มีการวางตำแหน่งสินค้าให้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์การออกแบบให้อารมณ์สปอร์ตแต่ดูแข็งแกร่งบึกบึนยิ่งขึ้น จากการปรับเปลี่ยนในส่วนของไฟหน้า-ท้าย และกระจังหน้าใหม่ รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นกล้องมองหลัง หรือที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มทางเลือกกับรุ่นสแตนดาร์ดแค็บ หรือปิกอัพตอนเดียว โดยบีที-50 ใหม่ ยังคงมีเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลให้เลือกทั้งรุ่น 2.2 และ 3.2 ลิตร ราคาเริ่มต้น 561,000-1,023,00 บาท
