นางวราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการสมาคมการค้ายาสูบไทย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้สมาคมฯ ซึ่งเป็นตัวแทนร้านค้าปลีกโชห่วยที่ขายบุหรี่ทั่วประเทศ 1,300 รายได้ส่งหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการพร้อมหลักฐานภาพถ่ายถึง นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา กรณีมีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกตระเวนออกตรวจตามร้านค้าทั้งร้านโชห่วยและโมเดิร์นเทรดโดยบังคับให้ร้านค้าเซ็นเอกสารห้ามไม่ให้ร้านค้าแบ่งขายบุหรี่เป็นมวนและห้ามโชว์บุหรี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อห้ามที่บรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ ทั้งๆที่ในความเป็นจริงร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือการชี้แจงใดๆจากกระทรวงสาธารณสุข ขณะเดียวกันร้านค้าในแถบพื้นที่ภาคอีสาน เช่น จ.นครราชสีมา และ จ.ชัยภูมิ โดยเฉพาะในเขตชุมชนใหญ่ ยังคงร้องเรียนเข้ามาว่ามีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ได้แจ้งว่าห้ามไม่ให้ร้านค้าแบ่งบุหรี่ขายอีกต่อไป หากพบเห็นจะจับปรับทันที อีกทั้งยังมีการขึ้นป้ายแจ้งประชาชนว่าห้ามแบ่งขาย ทั้งๆที่ร่างกฎหมายยังอยู่ในชั้นพิจารณา และยังไม่ผ่านออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ใดๆ เรื่องนี้ยิ่งตอกย้ำข้อกังวลของสมาคมฯในเรื่องการใช้อำนาจและดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในการปรับ-จับร้านค้า ซึ่งมีการระบุไว้ด้วยในร่างกฎหมายฉบับนี้ รวมทั้งปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย และการให้อำนาจโดยใช้ดุลพินิจอย่างกว้างขวางอีกด้วย
“เหตุการณ์ลักษณะนี้ทำให้สมาชิกร้านค้าหลายรายเกิดความกลัวและไม่กล้าเอาของออกมาขายอีก ซึ่งเขาก็ได้แจ้งมาว่าการค้าขายเงียบเหงากว่าเดิม ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจกำลังแย่ลงทุกวัน สมาคมฯ ขอเรียกร้องให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวหยุดการกระทำโดยพลการนี้ทันที เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และขอให้กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปตรวจสอบการกระทำเหล่านี้อย่างเร่งด่วน” นางวราภรณ์กล่าว
นางวราภรณ์ กล่าวด้วยว่า สมาคมฯและร้านค้าโชห่วยต่างเคารพในหลักการที่ต้องการปกป้องเยาวชนของสาธารณสุขซึ่งเรามีกฎหมายเรื่องอายุขั้นต่ำของผู้ซื้ออยู่แล้ว แต่ทางราชการไม่ควรปฏิบัติกับประชาชนโดยใช้อำนาจโดยพลการเช่นนี้ โดยเฉพาะกับผู้ค้ารายย่อยที่ต่างทำมาค้าขายโดยอาจไม่มีความรู้ข้อกฎหมายและ ไม่อยากถูกรังแกโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้นตัวแทนร้านค้าในเขตภาคอีสานที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ กำลังพิจารณาจะยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอความเป็นธรรมและชัดเจนต่อไป
“เหตุการณ์ลักษณะนี้ทำให้สมาชิกร้านค้าหลายรายเกิดความกลัวและไม่กล้าเอาของออกมาขายอีก ซึ่งเขาก็ได้แจ้งมาว่าการค้าขายเงียบเหงากว่าเดิม ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจกำลังแย่ลงทุกวัน สมาคมฯ ขอเรียกร้องให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวหยุดการกระทำโดยพลการนี้ทันที เพราะการกระทำดังกล่าวนั้นถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และขอให้กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปตรวจสอบการกระทำเหล่านี้อย่างเร่งด่วน” นางวราภรณ์กล่าว
นางวราภรณ์ กล่าวด้วยว่า สมาคมฯและร้านค้าโชห่วยต่างเคารพในหลักการที่ต้องการปกป้องเยาวชนของสาธารณสุขซึ่งเรามีกฎหมายเรื่องอายุขั้นต่ำของผู้ซื้ออยู่แล้ว แต่ทางราชการไม่ควรปฏิบัติกับประชาชนโดยใช้อำนาจโดยพลการเช่นนี้ โดยเฉพาะกับผู้ค้ารายย่อยที่ต่างทำมาค้าขายโดยอาจไม่มีความรู้ข้อกฎหมายและ ไม่อยากถูกรังแกโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้นตัวแทนร้านค้าในเขตภาคอีสานที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ กำลังพิจารณาจะยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอความเป็นธรรมและชัดเจนต่อไป