เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลรัฐมนตรีสาธารณสุข 10 ประเทศอาเซียน บวกสาม คือ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เรื่องโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส โดยระบุว่า ประเทศไทย ร่วมกับประเทศเวียดนาม และเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้ ในรูปแบบของการประชุมทางไกลครั้งแรกของรัฐมนตรีสาธารณสุขประเทศสมาชิกอาเซียน บวก 3 โดยได้หารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดการ การประเมินความเสี่ยงของโรค การเตรียมความพร้อม การตอบสนอง และการสื่อสารสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้อภิปรายร่วมกันถึงการสร้างความเข้มแข็งในการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคเมอร์สของภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า ผลการประชุมครั้งนี้ได้รับรองถ้อยแถลงความร่วมมือของประเทศสมาชิกเพื่อรับมือสถานการณ์การระบาดของโรคเมอร์ส และโรคอุบัติใหม่อื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากแถลงการณ์ร่วมกันของการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวก 3 สมัยพิเศษ ว่าด้วยการเตรียมพร้อมและรับมือการระบาดของโรคอีโบลา ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนธันวาคม 2557
สาระสำคัญของถ้อยแถลงดังกล่าว ประกอบด้วย การเพิ่มความเข้มแข็งของประเทศสมาชิกอาเซียนบวกสาม ในการเฝ้าระวังโรค และยกระดับกลไกการประเมินความเสี่ยงระดับภูมิภาคของโรคเมอร์ส หรือโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจถึงความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการควบคุมโรค การแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างรวดเร็วระหว่างประเทศสมาชิก การประสานความร่วมมือระหว่างชายแดนในภูมิภาคอาเซียน เพื่อการติดตามผู้เดินทางและความร่วมมือในการสอบสวนโรค
นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกทุกประเทศ พัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการที่สามารถวินิจฉัยโรคได้ รวมทั้งการมีมาตรการป้องกัน และควบคุมการติดเชื้อ ตลอดจนการสื่อสารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การป้องกันและควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูล และถ่ายทอดบทเรียนร่วมกัน ระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อสนับสนุนให้เกิดการทบทวนและสังเคราะห์การดำเนินงานที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการโรคเมอร์สในภูมิภาค
ด้านนายแพทย์สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้ มีข่าวดีจากประเทศเกาหลีล่าสุด เมื่อวานนี้ ผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังพ้นระยะ 14 วันแล้ว โดยมีผู้ป่วยยืนยัน 186 ราย เสียชีวิต 36 ราย ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศฟิลิปปินส์มีรายงานจากผู้ป่วยเดินทางจากประเทศตะวันออกกลาง ทุกประเทศ จึงต้องคงมาตรการเฝ้าระวังโรคเมอร์สอย่างต่อเนื่อง และประเทศเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสรุปผลประสบการณ์ของประเทศในระดับนานาชาติในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ ทุกประเทศได้ให้ความสำคัญการใช้มาตรการตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ เพื่อเฝ้าระวังควบคุมการแพร่กระจายโรคอย่างเหมาะสม
นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า ผลการประชุมครั้งนี้ได้รับรองถ้อยแถลงความร่วมมือของประเทศสมาชิกเพื่อรับมือสถานการณ์การระบาดของโรคเมอร์ส และโรคอุบัติใหม่อื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากแถลงการณ์ร่วมกันของการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวก 3 สมัยพิเศษ ว่าด้วยการเตรียมพร้อมและรับมือการระบาดของโรคอีโบลา ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนธันวาคม 2557
สาระสำคัญของถ้อยแถลงดังกล่าว ประกอบด้วย การเพิ่มความเข้มแข็งของประเทศสมาชิกอาเซียนบวกสาม ในการเฝ้าระวังโรค และยกระดับกลไกการประเมินความเสี่ยงระดับภูมิภาคของโรคเมอร์ส หรือโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจถึงความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการควบคุมโรค การแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างรวดเร็วระหว่างประเทศสมาชิก การประสานความร่วมมือระหว่างชายแดนในภูมิภาคอาเซียน เพื่อการติดตามผู้เดินทางและความร่วมมือในการสอบสวนโรค
นอกจากนี้ ยังเป็นการสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกทุกประเทศ พัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการที่สามารถวินิจฉัยโรคได้ รวมทั้งการมีมาตรการป้องกัน และควบคุมการติดเชื้อ ตลอดจนการสื่อสารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การป้องกันและควบคุมโรคมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูล และถ่ายทอดบทเรียนร่วมกัน ระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อสนับสนุนให้เกิดการทบทวนและสังเคราะห์การดำเนินงานที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการโรคเมอร์สในภูมิภาค
ด้านนายแพทย์สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้ มีข่าวดีจากประเทศเกาหลีล่าสุด เมื่อวานนี้ ผู้ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังพ้นระยะ 14 วันแล้ว โดยมีผู้ป่วยยืนยัน 186 ราย เสียชีวิต 36 ราย ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประเทศฟิลิปปินส์มีรายงานจากผู้ป่วยเดินทางจากประเทศตะวันออกกลาง ทุกประเทศ จึงต้องคงมาตรการเฝ้าระวังโรคเมอร์สอย่างต่อเนื่อง และประเทศเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสรุปผลประสบการณ์ของประเทศในระดับนานาชาติในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ ทุกประเทศได้ให้ความสำคัญการใช้มาตรการตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ เพื่อเฝ้าระวังควบคุมการแพร่กระจายโรคอย่างเหมาะสม