ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข แพทย์หญิงวราภรณ์ ภูมิสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะ เยี่ยมชมการดำเนินงานให้ผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส กลุ่มเสี่ยงสูงที่รับตัวไว้เฝ้าสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน ที่สถาบันบำราศนราดูร ออกจากระบบเฝ้าระวังโรคและเดินทางกลับ และนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมห้องแยกโรคความดันลบ พร้อมชื่นชมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกๆ คน ที่ให้การดูแลรักษาผู้ป่วย ผู้สัมผัสโรคเป็นอย่างดี
ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์สชาวโอมาน อยู่ในประเทศไทย รวม 154 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูง 36 คน ที่เหลือเป็นกลุ่มสัมผัสโรคเสี่ยงต่ำ ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ประกอบด้วย ญาติผู้ป่วย ผู้เดินทางร่วมเที่ยวบิน 2 แถวหน้า-หลัง บุคลากรทางการแพทย์ และคนขับรถแท็กซี่ สามารถติดตามได้ทุกคน ทุกคนสบายดี ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อโรคเมอร์ส
โดยในกลุ่มผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูง ครบกำหนดเฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน ในวันนี้ (29 มิ.ย.) จำนวน 20 คน เป็นผู้เดินทางร่วมเที่ยวบิน 14 คน คนขับรถแท็กซี่ 2 คน และบุคลากรทางการแพทย์ 4 คน โดยเป็นชาวต่างชาติ 12 คน สัญชาติอังกฤษ อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ และคนไทย 8 คน รับไว้สังเกตอาการที่กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สุราษฏร์ธานี กระบี่ ประจวบคีรีขันธ์ และบุรีรัมย์ ที่เหลืออีก 16 คน ยังอยู่ในระบบเฝ้าระวังให้ครบ 14 วัน
ทั้งนี้ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ครบกำหนดเฝ้าสังเกตอาการ ก่อนเดินทางกลับจะได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดว่าไม่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก และจะเก็บสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจบริเวณหลังโพรงจมูกส่งตรวจ ให้มั่นใจว่าไม่ติดโรค ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำที่แนะนำให้แยกตัวเองที่บ้าน ก็ให้กลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์สชาวโอมาน อาการดีขึ้นตามลำดับ รับประทานอาหารได้ ช่วยเหลือตัวเองได้พอควร อาการโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคประจำตัวดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะได้ตรวจสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจบริเวณหลังโพรงจมูก ให้มั่นใจว่าไม่มีเชื้อจากทางเดินหายใจแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้ ก่อนย้ายออกจากห้องแยกโรคความดันลบ ไปรักษาในห้องแยกโรคธรรมดา ส่วนญาติ 3 คน อาการปกติ ยังอยู่ในระบบเฝ้าระวังให้ครบ 14 วัน
ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์สชาวโอมาน อยู่ในประเทศไทย รวม 154 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูง 36 คน ที่เหลือเป็นกลุ่มสัมผัสโรคเสี่ยงต่ำ ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ประกอบด้วย ญาติผู้ป่วย ผู้เดินทางร่วมเที่ยวบิน 2 แถวหน้า-หลัง บุคลากรทางการแพทย์ และคนขับรถแท็กซี่ สามารถติดตามได้ทุกคน ทุกคนสบายดี ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อโรคเมอร์ส
โดยในกลุ่มผู้สัมผัสโรคเสี่ยงสูง ครบกำหนดเฝ้าสังเกตอาการ 14 วัน ในวันนี้ (29 มิ.ย.) จำนวน 20 คน เป็นผู้เดินทางร่วมเที่ยวบิน 14 คน คนขับรถแท็กซี่ 2 คน และบุคลากรทางการแพทย์ 4 คน โดยเป็นชาวต่างชาติ 12 คน สัญชาติอังกฤษ อิตาลี สวิสเซอร์แลนด์ และคนไทย 8 คน รับไว้สังเกตอาการที่กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สุราษฏร์ธานี กระบี่ ประจวบคีรีขันธ์ และบุรีรัมย์ ที่เหลืออีก 16 คน ยังอยู่ในระบบเฝ้าระวังให้ครบ 14 วัน
ทั้งนี้ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ครบกำหนดเฝ้าสังเกตอาการ ก่อนเดินทางกลับจะได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดว่าไม่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก และจะเก็บสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจบริเวณหลังโพรงจมูกส่งตรวจ ให้มั่นใจว่าไม่ติดโรค ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำที่แนะนำให้แยกตัวเองที่บ้าน ก็ให้กลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ
สำหรับผู้ป่วยยืนยันโรคเมอร์สชาวโอมาน อาการดีขึ้นตามลำดับ รับประทานอาหารได้ ช่วยเหลือตัวเองได้พอควร อาการโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคประจำตัวดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะได้ตรวจสารคัดหลั่งจากทางเดินหายใจบริเวณหลังโพรงจมูก ให้มั่นใจว่าไม่มีเชื้อจากทางเดินหายใจแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้ ก่อนย้ายออกจากห้องแยกโรคความดันลบ ไปรักษาในห้องแยกโรคธรรมดา ส่วนญาติ 3 คน อาการปกติ ยังอยู่ในระบบเฝ้าระวังให้ครบ 14 วัน