xs
xsm
sm
md
lg

"สุเทพ"พร้อมแกนนำ กปปส.สึกแล้ว ประกาศพร้อมเดินหน้าผลักดันปฏิรูปตามข้อเรียกร้อง กปปส.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- "สุเทพ"พร้อมแกนนำ กปปส.สึกแล้ว ประกาศพร้อมเดินหน้าผลักดันปฏิรูปตามข้อเรียกร้อง กปปส. ยอมรับกังวลสู้คดีกับระบอบทักษิณ แต่พร้อมเผชิญหน้าทุกอย่าง แนะ"ทักษิณ" ปล่อยวางยึดคำสอน"พุทธทาส" ยัน"มาร์ค"ไม่เคยชวนกลับพรรค พร้อมประเดิมงานแรก ยื่นหนังสือถึง "ผบช.ภ.8" ค้านย้ายสนง.จากสุราษฎร์ไปภูเก็ตทันที ด้าน"บิ๊กเบี้ยว" ส่ง ทหาร ประกบ"ทิดสุเทพ" แถลงข่าว 30 ก.ค.นี้ หลังไม่พบหนังสือขออนุญาต ชี้หากสุ่มเสียงการเมือง ต้องหยุด ยันใช้มาตรฐานเดียวกับทุกกลุ่ม ขณะที่ "ถาวร" พร้อมยื่นเรื่องขอแถลงข่าว มั่นใจไม่ผิดเงื่อนไข คสช.

เมื่อเวลา 05.19 น. วานนี้ (28ก.ค.) ที่วัดไตรธรรมมารามพระอารามหลวง ต.ตลาด อ.เมืองฯ จ.สุราษฎร์ธานี พระสุเทพ ปภากโร พระเชน อาภาธโร พระชินวรณ์ จันทสาโร และ พระธีรภัทร ได้ลาสิกขากับ พระวิมลธรรมโมลี เจ้าคณะภาค16 จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัติย์ และแกนนำ กปปส. มาร่วม อาทิ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ , นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ พร้อมญาติๆ และผู้นำท้องถิ่นร่วม 100 คน

หลังจากลาสิกขาแล้ว นายสุเทพ ได้สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายจุดสีฟ้า บริเวณหน้าอกด้านขวาปักธงชาติ ด้านซ้ายสัญลักษณ์ กปปส. สวมกางเกงขายาวสีครีม จากนั้นนายสุเทพและคณะได้เดินทางไปยัง สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมทำบุญตักบาตร พระบวชใหม่ รุ่นที่ 9 ซึ่งจัดขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยจัดให้มีพิธีอุปสมบทไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้าย มีผู้เข้าร่วมโครงการครั้งนี้จำนวน 47 คน โดยมีรายงานว่า ในวันที่ 30 ก.ค. นี้ นายสุเทพ จะจัดทำบุญเลี้ยงพระที่วัดธารน้ำไหล สวนโมกข์พลาราม อ.ไชยา ก่อนที่จะเปิดแถลงข่าว ถึงบทบาทหลังลาสิกขาบท

ทั้งนี้ นายสุเทพ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การลาสิกขาครั้งนี้ เพราะมีภารกิจที่ต้องดำเนินการต่อ โดยจะดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปแห่งประเทศไทย และเคลื่อนไหวในภาคประชาชน ตามที่เคยระบุ คือ เป็นปากเสียงแทนพี่น้องประชาชนที่ออกมาร่วมชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ ก่อนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการผลักดันให้มีการปฏิรูปประเทศ 6 ข้อ ที่กลุ่ม กปปส. เคยเรียกร้องให้ดำเนินการ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ขอให้รอฟังการแถลงข่าวในวันที่ 30 กรกฎาคม ที่กรุงเทพฯ

ส่วนการต่อสู้คดีความทางการเมืองนั้น ยอมรับว่าเป็นกังวลทุกคดี เพราะฝ่ายตรงข้ามคือระบอบทักษิณ มีอิทธิพลมาก สามารถใช้อิทธิพลในชั้นพนักงานสอบสวน และอัยการหรือแม้แต่ขั้นตอนในการพิจารณาคดี แต่อย่างไรก็ตาม ตนยังคงเชื่อมั่นในระบบ

นายสุเทพยัง ฝากถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันคล้ายวันเกิด 66 ปีเมื่อ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ควรสำรวจตัวเองว่า ในชีวิตได้ทำอะไรให้ชาติและบ้านเมือง รวมทั้งอย่ายึดมั่นถือมั่นในตนเอง หัดปล่อยวาง ตามคำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ และยืนยันด้วยว่า ในช่วงบวช นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มาพูดคุยเพื่อชวนกลับไปร่วมพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนแนวทางการสร้างความปรองดองนั้น ย้ำว่า ในฐานะที่เป็นแกนนำผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ควรได้รับการนิรโทษกรรม รวมถึงคดีอาญาร้ายแรง โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

เมื่อถามย้ำว่าพร้อมเผชิญหน้ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่มีอะไรที่จะต้องหลบหน้าใคร พร้อมเผชิญทุกอย่าง ไม่มีปัญหา เจอกันได้ทุกเวลา พร้อมพูดคุยกับทุกฝ่าย ให้ตนเสียสละอะไรให้กับบ้านเมืองตนก็พร้อมที่จะทำ

** "ทิดเทือก"ค้านย้ายสนง.ตำรวจภูธรภาค 8

ต่อมา เวลา 11.30 น. นายสุเทพ พร้อมคณะประมาณ 10 คน ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการย้ายสำนักงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ไปยังสำนักงานแห่งใหม่ที่ จ.ภูเก็ต ที่กำหนดให้เป็นไปตั้งแต่ วันที่ 1 ส.ค. นี้ ต่อ พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภาค 8 แต่ ผบช.ภาค 8 ติดราชการ จึงมอบหมายให้ พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพรสี รอง ผบช.ภาค 8 เป็นผู้รับหนังสือแทน

ทั้งนี้ ข้อความในหนังสือดังกล่าว ระบุข้อความคัดค้านการย้ายสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 จาก จ.สุราษฎร์ธานี ไปยัง จ.ภูเก็ต เนื่องจากข้าราชการชั้นผู้น้อยกว่า 200 นาย ได้รับผลกระทบ อีกทั้งที่ตั้งสำนักงานแห่งใหม่ ไม่ได้เป็นจุดศูนย์การของการคมนาคม ซึ่งอาจจะเป็นผลต่อการติดต่อประสานงานของประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบ จึงขอให้ ผบช.ภาค 8 พิจารณายับยั้งการย้ายดังกล่าวโดยทันที

"หากกางแผนที่ภูมิศาสตร์แล้วสุราษฎร์ธานี ยังเป็นจุดศูนย์กลางของงานราชการตำรวจในสังกัด ทั้ง จ.ชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช รวมทั้ง จ.ภูเก็ต กระบี่ พังงา ซึ่งสามารถเดินทางติดต่อราชการได้ง่าย ไม่เข้าใจว่าเหตุผลอะไร ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ถึงต้องการย้ายสำนักงานไปยัง จ.ภูเก็ต และหากจะย้ายสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ไป จ. ภูเก็ตจริง ๆ ก็ควรจะให้โอกาสข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ไม่สมัครใจ ได้มีโอกาสย้ายไปประจำตาม สภ.ต่างๆ จึงอยากให้ ผบช.ภ.8 ทบทวนคำสั่งดังกล่าว" นายสุเทพ กล่าว

**ทหารประกบ"ทิดเทือก"แถลงข่าว 30ก.ค.

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. จะมีการให้รายละเอียดกับสื่อฯถึงการดำเนินการทางการเมือง ในวันที่ 30 ก.ค.นี้ ว่า ตามแนวทางการปฏิบัติเดิมของ คสช. ทางนายสุเทพ คงจะได้มีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาทราบในรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหา หรือข้อมูลต่างๆที่จะมีการนำเสนอ ซึ่งก็คงเป็นไปตามแนวทางเดิมที่ คสช. เคยขอความร่วมมือไว้กับหลายบุคคล หรือหลายๆ กลุ่มเหมือนในห้วงที่ผ่านมา โดยเท่าที่ได้ทราบในเบื้องต้นจากสื่อฯ เห็นว่า จะเป็นเรื่องในทางสังคมเกี่ยวกับมูลนิธิฯ และเรื่องของอนาคตสังคมไทยเชิงสร้างสรรค์ ยังไม่ได้รับข้อมูลว่า จะมีแนวทางการให้ข้อมูลไปในลักษณะไปกระทบความขัดแย้ง หรือเป็นเรื่องของการเมือง แต่ทั้งนี้อาจต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมกับ หน่วยในพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง

พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสธ.ทบ. ในฐานะรองเลขาธิการคสช. กล่าวว่า จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ทราบว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ยังไม่ได้ทำหนังสือขออนุญาต หรือประสานมาทางคสช. ในการจัดการแถลงข่าวดังกล่าว โดยเบื้องต้นจากการติดตามผ่านทางสื่อ ทราบว่านายสุเทพ จะแถลงข่าวเกี่ยวกับ มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูป ถือเป็นเรื่องของมูลนิธิฯ หากไม่เกี่ยวกับการเมืองก็ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต เพราะตามคำสั่งของคสช. ระบุว่า การจัดกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ต้องขออนุญาตคสช.ก่อน ที่ผ่านมาทุกคนก็ทราบถึงขั้นตอนการดำเนินการดี หากจัดกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยง จะเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือไม่แน่ใจว่าเกี่ยวหรือไม่ ก็สามารถทำหนังสือขออนุญาตมาทางคสช.เพื่อพิจารณาได้ แต่หากมั่นใจว่าไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีเรื่องการเมือง ก็สามารถจัดกิจกรรมได้ เหมือนกับที่ผ่านมา มีหลายๆ กลุ่มที่จัดกิจกรรมในลักษณะนี้ ก็สามารถทำได้ อย่ามองว่าคสช. ดำเนินการ 2 มาตรฐาน เราปฏิบัติกับคน ทุกกลุ่ม มาตรฐานเดียวกันทั้งหมด

"กรณีนายสุเทพ จะแถลงข่าวในวันที่ 30 ก.ค.นั้น ผมจะส่งเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลพื้นที่นั้นให้ไปติดตามความเคลื่อนไหว และสังเกตการณ์ ว่าเนื้อหาที่พูดสุ่มเสี่ยงเรื่องการเมืองหรือไม่ หากพบว่ามีเรื่องการเมือง ก็ต้องขอร้องให้หยุดการแถลงข่าว เพราะขณะนี้บ้านเมืองต้องการความปรองดอง การเคลื่อนไหวอะไรที่จะส่งผลกระทบ ก็ขอให้เบาๆ กันหน่อย ซึ่งที่ผ่านมาผมขอขอร้องไปทางนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกี้อ เหมือนกัน ทั้งนี้ทางคสช. ไม่อยากไปละเมิดใคร หรือปิดกั้นอะไรมากนัก เพื่อให้ทุกฝ่ายได้แสดงออก แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม จะเห็นว่านายกรัฐมนตรี ได้ผ่อนคลายให้มากแล้วเพื่อให้สามารถขยับตัวกันได้บ้าง" พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าว

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับนายสุเทพ ก่อนถึงวันแถลงข่าวหรือไม่ พล.อ.ฉัตรเฉลิม กล่าวว่าหากนายสุเทพ ไม่แน่ใจว่าเรื่องที่จะแถลงจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ก็ขอให้ทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดการแถลงข่าวมา ในวันนี้ (29 ก.ค.) ทางคสช.ก็จะพิจารณาให้

**"ทิดสุเทพ"ยื่นเรื่องขอแถลงข่าววันนี้

นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. กล่าวถึงกรณี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก ในฐานะรองเลขาธิการคสช. ระบุว่า หากนายสุเทพ จะแถลงข่าวถึงบทบาทภายหลังจากการสึก ที่โรงแรมอินเตอร์คอนทิเนนทัล ในวันที่ 30 ก.ค.นี้ จะต้องขออนุญาตจากทางคสช.ก่อนว่า เรื่องนี้ตนเพิ่งทราบ แต่ก็คงจะยื่นเอกสารคำร้องขออนุญาต ในวันที่ 28 ก.ค.ไปเลย แต่ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะสามารถจัดงานได้ เพราะเรื่องที่จะแถลงนั้น อยู่ในเงื่อนไขของทาง คสช. อีกทั้งรูปแบบการแถลงข่าวนั้น ก็จะมุ่งเน้นให้กลุ่มคนที่ติดตามกปปส. ได้รับทราบถึงกิจกรรม และให้โอกาสร่วมบุญร่วมกุศลกับทางมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ขอให้สบายใจได้ว่า ไม่มีเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่ม นปช. กล่าวว่า ขอแสดงความดีใจกับนายสุเทพ ที่ได้ลาสิกขา ออกมาเป็นประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ เดินหน้าปฏิรูปการเมือง คงมีภารกิจมากมาย แต่อย่าได้วิตก เพราะนายสุเทพ ได้ประกาศแล้วว่าจะไม่ลงเลือกตั้ง จากนี้สิ่งที่มีอยู่ก็คือประชาชนที่รวมกับนายสุเทพ ซึ่งจะต้องรักษาตรงนี้ไว้ เพราะจะเป็นพลังเดียว คนการเมืองเขี้ยวลากดินขนาดนี้ ย่อมรู้ว่า วันนี้ประชาชนคิดอะไรอยู่
กำลังโหลดความคิดเห็น