"รองเอก อังสนานนท์" รักษาราชการแทนฯ บินด่วนเคลียร์คดีฆาตกรรมโหดอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พุ่งเป้าฝีมือคนใกล้ชิด ล่าสุดออกหมายจับแล้ว หลานชายคนใก้ลชิด ตัดประเด็นหน้าที่การงาน คาดปมมรณะมาจากรสนิยมทางเพศ ส่วนทรัพย์สินสร้อยทอง 10 บาท กับเงินสด คนร้ายฉวยติดมือระหว่างหลบหนี เชื่อรวบตัวเร็ววันนี้
เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.คินวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 150/259 หมู่บ้านอัยการ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบศพนายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัดประจำกรมปฏิบัติหน้าที่ประจำศาลแขวงจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ในห้องนอนบนชั้น 2 ของบ้าน สภาพศพถูกตีด้วยของแข็ง มีบาดแผลฉกรรจที่ใบหน้า และลำตัว ใกล้กันพบมีดพร้า 1 อันคาดว่าคนร้ายใช้เป็นอาวุธ
นอกจากนี้พบว่าทรัพย์สินของผู้ตายหายไปด้วยคือทองรูปพรรณ น้ำหนัก 10 บาท และปืน 1 กระบอก จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นายพยงค์ เพิ่งย้ายมาทำงานที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุอัยการที่พักอยู่บ้านใกล้กันเห็นความผิดปกติ โดยบ้านพักของนายพยงค์ ไม่เปิดไฟทั้งๆ ที่มีรถประจำตำแหน่งจอดอยู่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ และพบนายพยงค์ เสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมาเวลา 09.30 น.วานนี้ (29 มิ.ย.58) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ได้เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ประกอบด้วย พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผรอง ผบก.ภ.จว.) สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธุ์ศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และตำรวจที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 นายเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยการประชุมไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวร่วมรับฟังและได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแสของคนร้ายอย่างเร่งด่วน พร้อมกับระบุว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมคณะ จะเดินทางลงพื้นที่มาตามคดีนี้ด้วยตัวเอง
"ในส่วนของคดีล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสของคนร้ายในระดับหนึ่งแล้ว โดยได้มอบหมายให้ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษออกติดตามตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และติดตามหลานชายที่พักอยู่ด้วยกัน และเป็นคนดูแลบ้าน ซึ่งก่อนเกิดเหตุหลานชายได้กลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนประเด็นเบื้องต้นทางตำรวจตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์หรือประสงค์ต่อทรัพย์ หน้าที่การงาน และเรื่องชู้สาว" พล.ต.ท.เดชา กล่าว
ต่อมา พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อมาถึงได้เข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8 และนายตำรวจชุดคลี่คลายคดีทันที สำหรับแนวทางการสอบสวนขณะนี้ได้มุ่งเป้าไปที่คนใกล้ชิด ซึ่งอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายและได้หายตัวไป หลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถติดต่อได้
จากนั้นเวลา 14.30 น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8, พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีอย่างรัดกุม เพราะผู้เสียชีวิตเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยใช้เวลาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประมาณ 10 นาที
จากนั้นรอง ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดคดีและพิสูจน์ให้ได้ว่า ใครเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุแน่ชัด การรวบรวมวัตถุพยาน ที่สามารถเก็บได้จากที่เกิดเหตุ การสอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ ที่รู้เห็นเกี่ยวข้อง ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากพอสมควรและมั่นใจว่าหากการตรวจพิสูจน์พยานต่างๆ ตรงตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะสามารถออกหมายจับกุมได้ภายใน 3 วัน โดยต้องรอการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย ซึ่งคดีไม่ได้มีความสลับซับช้อนอะไร ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ลงมากำกับดูแลด้วยตัวเอง
ด้าน พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8 กล่าวยอมรับว่าคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญพอสมควร เพราะผู้เสียชีวิตเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เชื่อว่าคดีนี้ไม่น่าจะซับซ้อนอะไรมาก ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานต่าง ๆ ประกอบ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บดีเอ็นเอ.ของผู้ก่อเหตุในพื้นที่เกิดเหตุส่งตรวจพิสูจน์ว่าตรงกับนายนิวัฒน์ จงสุข อายุ 37 ปีคนสนิทที่ใกล้ชิดที่คอยช่วยดูแลบ้านและไปไหนมาไหนด้วยกัน และที่เป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับคดี ส่วนประเด็นของคดีนี้ได้ตั้งประเด็นไว้กว้างๆ 3 เรื่อง คือ ประเด็นเกี่ยวกับทรัพย์ ขัดแย้งส่วนตัว และชู้สาว
รายงานแจ้งว่า สำหรับสาเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตัดประเด็นหน้าที่การงานของ นายพยงค์ ออกไปทั้งหมด เนื่องจากไม่มีน้ำหนักและยังไม่พบความขัดแย้ง แต่น่าจะมาจากรสนิยมทางเพศของผู้ตาย เนื่องจากก่อนเกิดเหตุเพียงวันเดียว นายไก่ หลานชายที่อยู่ด้วยประจำ ขออนุญาตเดินทางไปทำธุระที่จ.นครศรีธรรมราช และให้ นายนิวัฒน์ หรือ เจมส์ จงสุข น้องชายซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานผู้ตายมาทำหน้าที่แทน ก่อนลงมือทำร้าย นายพยงค์ จนเสียชีวิต และฉวยเอาทรัพย์สินติดมือไป คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้
สำหรับศพของนายพยงค์ ดอกไม้หอม นั้นทางญาติได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดเพ็ญมิตร ต.กระเบียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านเกิด
เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.คินวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 150/259 หมู่บ้านอัยการ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี หลังได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตในบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบศพนายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัดประจำกรมปฏิบัติหน้าที่ประจำศาลแขวงจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ในห้องนอนบนชั้น 2 ของบ้าน สภาพศพถูกตีด้วยของแข็ง มีบาดแผลฉกรรจที่ใบหน้า และลำตัว ใกล้กันพบมีดพร้า 1 อันคาดว่าคนร้ายใช้เป็นอาวุธ
นอกจากนี้พบว่าทรัพย์สินของผู้ตายหายไปด้วยคือทองรูปพรรณ น้ำหนัก 10 บาท และปืน 1 กระบอก จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นายพยงค์ เพิ่งย้ายมาทำงานที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุอัยการที่พักอยู่บ้านใกล้กันเห็นความผิดปกติ โดยบ้านพักของนายพยงค์ ไม่เปิดไฟทั้งๆ ที่มีรถประจำตำแหน่งจอดอยู่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ และพบนายพยงค์ เสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมาเวลา 09.30 น.วานนี้ (29 มิ.ย.58) ที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) ได้เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี ประกอบด้วย พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผรอง ผบก.ภ.จว.) สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ภู่พันธุ์ศรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และตำรวจที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 นายเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยการประชุมไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวร่วมรับฟังและได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแสของคนร้ายอย่างเร่งด่วน พร้อมกับระบุว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมคณะ จะเดินทางลงพื้นที่มาตามคดีนี้ด้วยตัวเอง
"ในส่วนของคดีล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสของคนร้ายในระดับหนึ่งแล้ว โดยได้มอบหมายให้ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษออกติดตามตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และติดตามหลานชายที่พักอยู่ด้วยกัน และเป็นคนดูแลบ้าน ซึ่งก่อนเกิดเหตุหลานชายได้กลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนประเด็นเบื้องต้นทางตำรวจตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ ฆ่าชิงทรัพย์หรือประสงค์ต่อทรัพย์ หน้าที่การงาน และเรื่องชู้สาว" พล.ต.ท.เดชา กล่าว
ต่อมา พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อมาถึงได้เข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8 และนายตำรวจชุดคลี่คลายคดีทันที สำหรับแนวทางการสอบสวนขณะนี้ได้มุ่งเป้าไปที่คนใกล้ชิด ซึ่งอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายและได้หายตัวไป หลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถติดต่อได้
จากนั้นเวลา 14.30 น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8, พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีอย่างรัดกุม เพราะผู้เสียชีวิตเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยใช้เวลาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ประมาณ 10 นาที
จากนั้นรอง ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดคดีและพิสูจน์ให้ได้ว่า ใครเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุแน่ชัด การรวบรวมวัตถุพยาน ที่สามารถเก็บได้จากที่เกิดเหตุ การสอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ ที่รู้เห็นเกี่ยวข้อง ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากพอสมควรและมั่นใจว่าหากการตรวจพิสูจน์พยานต่างๆ ตรงตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะสามารถออกหมายจับกุมได้ภายใน 3 วัน โดยต้องรอการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย ซึ่งคดีไม่ได้มีความสลับซับช้อนอะไร ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ลงมากำกับดูแลด้วยตัวเอง
ด้าน พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ.8 กล่าวยอมรับว่าคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญพอสมควร เพราะผู้เสียชีวิตเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เชื่อว่าคดีนี้ไม่น่าจะซับซ้อนอะไรมาก ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานต่าง ๆ ประกอบ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บดีเอ็นเอ.ของผู้ก่อเหตุในพื้นที่เกิดเหตุส่งตรวจพิสูจน์ว่าตรงกับนายนิวัฒน์ จงสุข อายุ 37 ปีคนสนิทที่ใกล้ชิดที่คอยช่วยดูแลบ้านและไปไหนมาไหนด้วยกัน และที่เป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับคดี ส่วนประเด็นของคดีนี้ได้ตั้งประเด็นไว้กว้างๆ 3 เรื่อง คือ ประเด็นเกี่ยวกับทรัพย์ ขัดแย้งส่วนตัว และชู้สาว
รายงานแจ้งว่า สำหรับสาเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตัดประเด็นหน้าที่การงานของ นายพยงค์ ออกไปทั้งหมด เนื่องจากไม่มีน้ำหนักและยังไม่พบความขัดแย้ง แต่น่าจะมาจากรสนิยมทางเพศของผู้ตาย เนื่องจากก่อนเกิดเหตุเพียงวันเดียว นายไก่ หลานชายที่อยู่ด้วยประจำ ขออนุญาตเดินทางไปทำธุระที่จ.นครศรีธรรมราช และให้ นายนิวัฒน์ หรือ เจมส์ จงสุข น้องชายซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานผู้ตายมาทำหน้าที่แทน ก่อนลงมือทำร้าย นายพยงค์ จนเสียชีวิต และฉวยเอาทรัพย์สินติดมือไป คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้ในเร็ววันนี้
สำหรับศพของนายพยงค์ ดอกไม้หอม นั้นทางญาติได้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดเพ็ญมิตร ต.กระเบียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านเกิด
