รอยเท้า“บิ๊กบัง”กำลังเป็นรอยเท้า“บิ๊กตู่”!

“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

นักคิดหลายคนฝากส่งข้อความถึง ท่านผู้นำเผด็จการทหารผู้ยิ่งใหญ่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ว่า ไม่สำคัญว่าคุณเป็นใคร..มาจากไหน แต่ต้องรู้ว่า ความสามารถที่จะนำไปสู่ความล้มเหลว และความสำเร็จนั้น..เริ่มต้นที่ตัวคุณเสมอ..!

ดังนั้น การสัประยุทธ์ทุกสมรภูมิ-จะแพ้หรือชนะ นอกจากต้องรู้เขา-รู้เราแล้ว ยังต้องคิดดี-คิดถูก สุดท้ายต้องทำดี-ทำถูก คิดสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสมรภูมินั้นด้วย

โดยเฉพาะสมรภูมิทางการเมืองนั้น หัวใจสำคัญที่สุดแห่งความสำเร็จ คือ ต้องคิด-ต้องทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งเสมอ!

เหลี่ยม-เก่งกว่า-ตู่-ทุกเรื่อง..อ๊ะป่าว?

ไม่มีใคร“ตัดสินชี้ขาด”ได้ในขณะนี้ เพราะรัฐประหารของ“บิ๊กตู่”ยังไม่ได้ปิดฉากลง และ เหลี่ยมก็ยังไม่“ตาย”ไปจากการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองนี่นา

สงครามการเมืองครั้งนี้-จึงยังไม่รู้ว่า “บิ๊กตู่” หรือ “บิ๊กเหลี่ยม” ใครจะชนะ?

แต่ที่แน่ๆ “บิ๊กตู่” ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ รูปแบบการเมืองใหม่ๆแน่นอน นอกจากจะเดินไปสู่ “จุดพ่ายแพ้” เพราะ “บิ๊กตู่” ยังจมปลักอยู่กับการเมือง-เรื่อง “เลือกตั้ง” แบบเดิมๆ ที่โกงได้-ใช้เงินซื้อเสียงได้ อีกทั้ง กกต.ไร้ประสิทธิภาพเหมือนเดิม

“บิ๊กตู่” รู้ใช่ไหมล่ะว่า การเลือกตั้งสกปรกของชาติไทย คือ เวทีที่เหลี่ยมถนัดและได้เปรียบต่อการเอาชนะเหนือพรรคคู่แข่งทางการเมืองมาตลอด

มิใช่แค่เหลี่ยมและเครือข่าย มั่นใจในชัยชนะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง แต่อเมริกาและชาติตะวันตกก็เชื่อว่า..“มีเลือกตั้งเมื่อไหร่-เหลี่ยมชนะแน่” ทั้งยังมั่นใจว่า “พรรคของเหลี่ยมต้องได้ สส.มากที่สุดในสภา” อีกด้วย

อเมริกาและชาติตะวันตก จึงหนุนหลังเหลี่ยมกับพวก ให้กดดัน-ต่อต้าน-ปิดล้อม รัฐบาลเผด็จการทหารของ “บิ๊กตู่” จนต้องตั้งรับครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ “บิ๊กตู่” จะบริหารชาติไทยมากว่าหนึ่งปีแล้ว แต่....

“บิ๊กตู่” ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ที่แก้ต้นเหตุปัญหาของชาติ ตามที่ประชาชนเรียกร้องต้องการเลย เช่น

การลงโทษคนชั่วคอร์รัปชั่นโกงชาติและล้มเจ้า การปฏิรูปชาติไทยทุกภาคส่วน เช่น ปฏิรูปการเลือกตั้ง เพื่อขจัดการใช้เงินซื้อเสียง ปฏิรูปการขจัดเผด็จการรัฐสภา ปฏิรูปการใช้อำนาจรัฐ มิให้คนชั่วใช้ทำการคอร์รัปชั่นโกงชาติ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้เที่ยงธรรม โดยเฉพาะปฏิรูปตำรวจ ฯลฯ

รวมทั้งปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาสในสังคม มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน สามารถเข้าถึงเงินทุนและเทคโนโลยีทันสมัย ฯลฯ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน ฯลฯ

รัฐบาลยุคผู้นำ “บิ๊กตู่” ก็น่าเสียดายนัก เพราะขาดทีมงานที่ดีมีคุณภาพ ทั้ง“นักคิด-นักปฏิบัติ”ที่จริงใจ ต่อการทำงานเพื่อชาติและประชาชน ผลงานส่วนใหญ่ของ “บิ๊กตู่” จึงล้วนทำตามความต้องการของข้าราชการแทบทั้งสิ้น

ดังนั้น กว่าหนึ่งปีที่ผ่านไป ผลงานรัฐบาล “บิ๊กตู่” จึงไม่มีอะไรโดดเด่น มีแต่ข้าราชการ “ชงเรื่อง” ให้ “บิ๊กตู่” สนองเท่านั้น หลายเรื่องที่สำคัญๆ จึงบกพร่อง และผิดพลาดจน “บิ๊กตู่” แทบเสียผู้เสียคน

หลายเรื่องที่ข้าราชการต้องการ เป็นเรื่องที่ชาติและประชาชนเสียผลประโยชน์ อีกทั้งทำลายสิ่งแวดล้อมชาติอย่างรุนแรง แต่ข้าราชการกลับจงใจ “ชง” ข้อมูลผิดๆให้ “บิ๊กตู่” เช่น

กรณีจะยกสัมปทานน้ำมัน ที่ชาติไทยเสียเปรียบต่อต่างชาติ และกรณีจะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่จังหวัดกระบี่นั้น แทนที่ “บิ๊กตู่” จะฟังข้อมูลจากสองฝ่าย เพื่อเลือกสิ่งที่ดีกว่าให้กับชาติ “บิ๊กตู่” กลับไม่ฟังข้อมูลฝ่ายประชาชนแม้แต่น้อย และดันเชื่อข้าราชการฝ่ายเดียวอย่างหัวปักหัวปำ

จน “บิ๊กตู่” โดดออกมาหนุนสองโครงการดังกล่าว-สุดลิ่มทิ่มประตู..!

เมื่อประชาชนผู้รักชาติ นำข้อเท็จจริงออกมาตีแผ่ จนเกิดการต่อต้านขยายวงกว้าง ทำให้โครงการเจ้าปัญหาทั้งสอง ต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว แต่ “บิ๊กตู่” ก็ปล่อยให้ผู้เกี่ยวข้อง ยังแอบเดินงานนี้ต่อไปเรื่อยๆ

การจัดการปัญหาสองเรื่องนี้ ให้เกิดผลดีต่อชาติมากที่สุดนั้น จนบัดนี้ “บิ๊กตู่” ยังไร้ปัญญาจะหาทางออกที่ดีได้ ทั้งนี้เพราะ “บิ๊กตู่” จมปลักอยู่กับความต้องการของข้าราชการ ซึ่งบางเรื่องมิใช่ความต้องการของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง เช่น

การยกสัมปทานน้ำมันที่ชาติไทยเสียเปรียบ ให้กับบริษัทในและต่างประเทศนั้น ส่งผลให้คน ไทย ทั้งชาติต้องซื้อน้ำมันในราคาแพงกว่าชาติเพื่อนบ้าน รวมถึงอเมริกา ที่ซื้อน้ำมันจากชาติไทย ซึ่งเป็น เรื่อง ผิดปกติอย่างชัดแจ้งที่สุด

“บิ๊กตู่” รู้ใช่ไหมล่ะว่า การปล่อยให้บริษัทค้าน้ำมันไทยบางแห่ง เอาเปรียบคนไทยอย่างหน้า ด้านๆ ด้วยการขายน้ำมันราคาแพงเกินจริงนั้น ทำให้บริษัทค้าน้ำมันไทยแห่งนั้น ได้กำไรนับแสนล้านบาทต่อปี บนความทุกข์ยากของคนไทยทั้งชาติ

นั่นยังไม่รวมการรีดเงินคนไทยเข้ากองทุนน้ำมัน แล้วแอบนำเงินนี้ไปช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบ ให้กับบริษัทปิโตรเคมีบางบริษัทของไทยอีกด้วย

แต่ “บิ๊กตู่” กลับไม่แยแส ต่อปัญหาความเดือนร้อนของคนไทยทั้งชาติ ที่ต้องซื้อน้ำมันในราคาที่แพงเกินจริงนี้เลย โดย “บิ๊กตู่”กลับไปเอาจริงเอาจัง ใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาให้กลุ่มคน“เล่นหวย” แทน!

แถมค่าสัมปทานขุดเจาะน้ำมัน ที่บริษัทผูกขาดต่างชาติ ตอบแทนให้กับชาติไทยก็เป็นจำนวน เพียงน้อยนิด ในขณะที่ประเทศอื่นๆในโลก ซึ่งเป็นเจ้าของบ่อน้ำมันในยุคนี้ ล้วนต่อรองกับบริษัทค้าน้ำมันต่างชาติ จนได้ผลประโยชน์เข้ารัฐ เพิ่มขึ้นจาก 30% เป็นกว่า 80% กันแล้วมากมาย

คนไทยและชาติไทยถูกเอาเปรียบมากมาย จนเป็นที่ประจักษ์ชัดเช่นนี้แล้ว แต่นายกฯ “บิ๊กตู่” ก็ยังเห็น “กงจักรเป็นดอกบัว” ยังหลงเชื่อและเข้าข้างกระทรวงพลังงานฯ และบริษัทค้าน้ำมันของไทยบางแห่ง อย่างไม่ลืมหูลืมตาอยู่อีก

เมื่อ “บิ๊กตู่” รับข้อมูลเพียงด้านเดียว จากข้าราชการกระทรวงพลังงานฯ บางคน จึงร้อนรนจะเร่งเปิดสัมปทานรอบที่ 21 ให้กับบริษัทต่างชาติ แต่แล้ว “บิ๊กตู่” ก็ต้องชะลอการเปิดสัมปทานน้ำมันฯ ครั้งนี้ไว้ชั่วคราว เพราะถูกประชาชนผู้รักชาติ แฉโพยความเสียเปรียบของชาติไทย จนเกิดกระแสปกป้องผลประโยชน์ของชาติไทยอย่างกว้างขวางนั่นเอง
ส่วนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ ก็ถูกประชาชนและนักวิชาการ ออกมาเปิดเผยข้อมูลการทำลายสิ่งแวดล้อม มีผลกระทบต่อทั้งมนุษย์และธรรมชาติอย่างร้ายแรง ในการใช้ถ่านหินมา เผาเป็นพลังงานไฟฟ้า จนชาติต่างๆในโลกลด-ละ-เลิก ใช้พลังงานสกปรกอย่างถ่านหินกันไปแล้ว

โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่แห่งนี้ จะส่งผลทำลายสัตว์น้ำนานาชนิด อาชีพประมงของชาวบ้าน อีก ทั้ง ยังจะทำความเสียหายอย่างมหาศาล มาสู่ธุรกิจการท่องเที่ยวของกระบี่ ที่มีรายได้มากกว่าหกหมื่นล้านบาทต่อปีอีกด้วย

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คือ ความงามทางธรรมชาติของกระบี่ ที่ติดอันดับต้นๆ ของโลกจะถูกทำลาย โดยไม่มีวันจะซื้อหรือสร้างธรรมชาติอันล้ำค่าแห่งนี้ กลับคืนมาให้ชาวกระบี่และชาติไทยได้ชั่วนิรันดร์

“บิ๊กตู่” คำนึงถึงเรื่องแบบนี้บ้างไหม? “บิ๊กตู่” ตรองด้วยข้อมูลที่ถูกต้องหรือเปล่า? “บิ๊กตู่” เชื่อจริงๆรึว่า ชาติไทยไม่มีพลังงานทางเลือกอื่น ที่จะนำมาใช้ทำไฟฟ้าได้อีกแล้ว?

เรื่องที่บรรดาข้าราชการเสนอ โดย “บิ๊กตู่” สนองนั้น ส่วนใหญ่จึงมิใช่การแก้ต้นเหตุปัญหาของชาติเลย ผลงานของ “บิ๊กตู่” ในฐานะผู้นำรัฐประหาร กว่าหนึ่งขวบปี จึงไม่อาจแก้วิกฤตร้ายแรงอันชั่วร้ายของชาติ และประชาชนในแทบทุกมิติได้เลย

ดังนั้น ฟันธงได้เลยว่า รัฐประหารยุค “บิ๊กตู่” คงแก้ต้นเหตุปัญหาชั่วร้ายของชาติไทยไม่ได้แน่นอน!

แนวโน้มรัฐประหารของ“บิ๊กตู่” จึงทำท่าจะ“เสียของ-เยี่ยวไม่สุด” ไม่ต่างจาก“บิ๊กบัง”เสียแล้วสิ นอกเสียจากว่า “บิ๊กตู่” จะกลับลำ ทำสิ่งที่ถูกต้อง ยึดผลประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง

เส้นทางรัฐประหารของ“บิ๊กตู่”ยามนี้ กำลังเดินย่ำลงไปในรอยเท้ารุ่นพี่ “บิ๊กบัง”หรือเปล่า..???