ASTVผู้จัดการรายวัน- "บิ๊กตู่" เล่นบทรำคาญ เลี่ยงปมร้อน ย้อนถามสื่อจะให้ใช้ ม. 44 จับพระอย่างนั้นหรือ บอกกรณี"ธัมมชโย" ยังมีกฎหมายปกติดำเนินการได้ ด้านสาวกธรรมกาย ยกพวกบุกศูนย์ราชการ กดดันผู้ตรวจการแผ่นดิน อ้างเรื่องเกิดมา 16 ปีแล้ว จบไปแล้ว อดีต ส.ส.เพื่อไทย เปรียบ “ธัมมชโยกับพระอดีตแกนนำ กปปส.” ใครเลวกว่ากัน ด้านพุทธะอิสระหนุนใช้ ม44 แนะ เพื่อไม่ให้มีมลทิน
วานนี้ (21ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอให้คสช.ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการร่วมสองฝ่าย ประกอบด้วยคฤหัสถ์ และบรรพชิต เพื่อศึกษาประเด็นทางพระธรรมวินัย ที่ยังไม่ได้ข้อยุติและ กรณีพระธัมมชโย ต้องอาบัติปาราชิก ตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ว่า " อ๋อ เรื่องพระธัมมชโย ใช่ไหม เรื่อง มาตรา 44 สื่อเอามาใช้ก็แล้วกัน มันมีวิธีการตั้งเยอะแยะ กฎหมายปกติก็มีอยู่ และระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการสอบสวน ถ้ามันถูก ก็ว่าไปตามถูก แต่ถ้ามันผิด ก็ต้องว่าไปตามผิด จะใช้ มาตรา 44 ไปจับพระอย่างนั้นหรือ ให้มันรู้เรื่องกันบ้าง"
เมื่อถามย้ำว่า แต่เข้าต้องการให้มีการตรวจสอบ เรื่องผิดพระธรรมวินัย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ตรวจสอบอยู่แล้ว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ตรวจสอบอยู่ มีผลสอบสวนออกมาระยะหนึ่ง ไปตรวจค้นกันดู
" อย่าไปขัดแย้งกันมากมาย ผิดก็คือผิด อย่างไรมันก็ผิด วันนี้ผลสอบยังไม่ออก เดี๋ยวคณะกรรมการชุดเดิมก็สอบมีผลออกมา ให้เวลาฝ่ายกฎหมายทำงานบ้าง จะมาเร่งอย่างนั้น อย่างนี้ เดี๋ยวก็ลุกขึ้นมาต่อสู้กัน กฎหมายก็เดินหน้าไม่ได้ การพิจารณาต่างๆ ก็ติดขัดไปหมด เพราะมีการสร้างความขัดแย้งสูง ผิดหรือไม่ล่ะ มันก็ผิด ไม่ผิดวันนี้ ก็ผิดวันพรุ่งนี้ ถ้าทุกคนยอมรับความผิดกันทั้งหมด ถึงจะมาคุยกันได้ว่า จะหาทางออกกันอย่างไร แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก มันก็ยากและลำบาก ทุกคนจะยอมหรือไม่ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** สาวกธรรมกายบุกกดดันผู้ตรวจฯ
เมื่อเวลา 13.30 น.วานนี้ (21ก.ค.) มีพระภิกษุจากวัดพระธรรมกาย กว่า 100 รูป พร้อมประชาชนร่วม 600 คน ได้มารวมตัวกันที่ บริเวณประตูด้านทิศตะวันออก อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย กรณีสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ดำเนินการกับ พระธัมมชโย ให้เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช โดยเห็นว่า ข้อหาปาราชิก เมื่อ16 ปี ยุติไปแล้วทั้งคดีทางโลก และทางธรรม ส่วนการถอนฟ้องคดีเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ก็ถือเป็นที่สุดแล้ว พระธัมมชโย จึงไม่มีความผิด ดังนั้นไม่ควรรื้อฟื้นคดีดังกล่าวขึ้นมาอีก และผู้ตรวจการแผ่นดินก็ไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ แต่กลับนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมาเผยแพร่ จึงขอให้ยุติการกระทำที่ไม่เป็นประโยชน์ ทำให้เกิดความแตกแยก วุ่นวายในสังคม นี้เสีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมาชุมนุมครั้งนี้ มีการนำเครื่องขยายเสียงมาปราศรัย และชูป้ายข้อความ "เรามาขอความเป็นธรรมให้หลวงพ่อธัมมชโย " "ลูกหลวงพ่อไม่เล่นการเมือง แต่รักความยุติธรรม" "ผู้ตรวจการฯไม่ใช้หลักกฏหมาย แต่ตะเกียกตะกายใช้หลักกู" "ผู้ตรวจการฯตาบอดหรือไง คนรีดไถโรงแรมไม่ปาราชิกหรือ"
ด้านนายวิสุทธิ์ พึ่งประดิษฐ์ แกนนำ เปิดเผยว่าที่มาวันนี้ ต้องการยื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ พระธัมมชโย ซึ่งยืนยันว่า ที่ดินที่มีปัญหานั้น เป็นที่ดินทีมีการถวายให้ พระธัมมชโย และมีการมอบให้กับวัดแล้ว ทั้งนี้ หลักฐานเรื่องดังกล่าวมีอยู่ที่อัยการสูงสุดทั้งหมดแล้ว ส่วนจะเคลื่อนไหวต่อไปหรือไม่ ต้องดูท่าทีของผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน
ต่อมานายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมี นายอดิศักดิ์ วรรณสิน ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์พระเทพญาณมหามุนี เป็นตัวแทนยื่นหนังสือ โดยหนังสือดังกล่าว ระบุว่า ประเด็นเรื่องพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชที่ผู้ตรวจการแผ่นดินอ้างถึงนั้น เป็นคำแนะนำ ไม่มีผลบังคับตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ และมหาเถรสมาคมได้นำเข้าที่ประชุม เพื่อพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว ตั้งแต่ปี 2542 การรื้อฟื้นเรื่องที่เสร็จสิ้นไปแล้ว จึงถือว่าขัดหลักนิติธรรม ฝ่าฝืนพระธรรมวินัย
ส่วนกรณีที่อัยการสูงสุดถอนฟ้อง ก็เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมาย และศาลก็ได้อนุญาตให้ถอนฟ้องแล้ว เท่ากับศาลเห็นว่าถูกต้องเหมาะสมที่จะอนุญาตให้ถอนฟ้องได้ ดังนั้นผู้ตรวจการแผ่นดินจึงไม่มีอำนาจหน้าที่ และไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะเสนอให้ตั้งคณะทำงานหรือคณะกรรมการมาดำเนินการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ ให้เป็นที่เสียหายแก่ระบบการปกครองทั้งศาสนจักร และอาณาจักรอีกต่อไป และถือว่าไม่ยุติธรรมต่อพระธัมมชโย ทั้งยังจะสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชน อันจะขัดต่อนโยบายปรองดอง คสช. จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทบทวนและยุติการดำเนินการกรณีดังกล่าว
นายรักษเกชาได้ชี้แจงว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินยินดีที่จะรับเรื่องนี้ไว้ พร้อมจะให้ความเป็นธรรมในการพิจารณา ซึ่งการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินยังไม่ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด และพร้อมที่จะรับข้อมูลหลักฐานโต้แย้งเพิ่มเติมได้ ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวมีผู้ยื่นร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ หากไม่ตรวจสอบ ก็จะถือว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีการถอนฟ้องของ อสส. ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีอำนาจไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ก็จะนำเรื่องนี้เสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อพิจารณาต่อไป
วันเดียวกัน มีรายงานว่า นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง โพสต์รูปภาพและข้อความว่า “สวัสดีครับพี่น้องที่รักทั้งหลาย วันนี้เห็นข่าวว่า"ผู้ตรวจการฯชงให้ประยุทธ์ใช้ม.44จัดการธัมมชโย(พระเทพญาณมหามุนี) ซื้อที่ดินใช้ชื่อตัวเอง"ผมไม่เคยเป็นศิษย์ของธัมมชโย แต่ใคร่จะขอให้ชาวพุทธตั้งสติกันนิดนึง การถวายที่ดินนั้นดูที่เจตนาเจ้าภาพว่าถวายให้ใครอย่างไร ถวายส่วนตัวหรือถวายให้วัด หากถวายส่วนตัวก็ต้องดูว่า ผู้ที่รับที่ดินนั้นนำไปทำประโยชน์อันใด ในสมัยพุทธกาลคหบดีก็เคยถวายที่ดินแด่พระพุทธเจ้า เช่น ถวายสวนมะม่วง(วัดอัมพวัน) ถวายสวนไผ่ (วัดเวฬุวัน)
"พี่น้องครับ ผมอยากจะฝากไปยังผู้ตรวจการฯและนายไพบูลย์ นิติตะวัน ช่วยชงให้ประยุทธ์ ใช้ม.44 ไปจัดการกับอลัชชี..ที่ออกมานำทัพตั้งแก๊งการเมือง ปิดสถานที่ราชการ(ศูนย์ราชการ) ปิดสถานที่สมัครรับเลือกตั้ง มีการ์ด(มือปืนป๊อปคอน)ยิงคนบาดเจ็บและตาย ระหว่าง...กับธัมมชโยใครเลวกว่ากันครับ"
อีกด้าน เพจเฟซบุ๊คของ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" ได้โพสต์ข้อความเปรียบเทียบถึงเวลาที่ต้นธาตุต้นธรรมจะต้องถูกพิพากษาลงโทษเสียที
คดีธรรมกายเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 42 จนถึง 58 ใช้ชีวิตพระมหาเถระระดับสมเด็จหมดไป 2 องค์ ใช้เวลาไป 17 ปี ใช้รัฐบาลหมดไป 6 รัฐบาล ตั้งแต่สมัย
- ชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์
- พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร พรรคไทยรักไทย
- พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (คปค.)
- สมัคร สุนทรเวช พรรคพลังประชาชน
- สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พรรคพลังประชาชน
- อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์
- ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย
แต่ก็ยังไม่มีใครนำเอาโจรห่มผ้าเหลืองอย่าง...ผู้นี้มาลงโทษได้ แม้สมเด็จพระสังฆราชและสมเด็จวัดชนะ กรรมการมหาเถรสมาคมทั้ง 2 พระองค์จะทรงพยายามกำจัดอลัชชีผู้เหยียดหยามพระธรรมวินัยผู้นี้ก็ตามที
แต่อลัชชีผู้นี้มีอำนาจการเมืองของคนตระกูล..คุ้มกะลาหัว เลยทำตัวยิ่งใหญ่ ขยายสาขาไปทั่วโลก โดยการลงทุนสร้างสำนักและคณะธรรมทูตสายต่างประเทศ ซึ่งล้วนแต่อยู่ในอาณัติของ..ทั้งสิ้น ทั้งยังแผ่อิทธิพลครอบงำกรรมการมหาเถรและสังฆมณฑลเอาไว้เป็นพวก เพื่อจะได้เป็นกำแพงปกป้องความชั่วของตัวเอง
และหากจะถามหมู่ภิกษุสงฆ์เหล่านั้นรวมทั้งกรรมการมหาเถรสมาคมบางคน ว่ารู้ไหมที่..เป็นอลัชชี ย่ำยีพระธรรมวินัย หมู่สงฆ์กลุ่มนี้ล้วนรู้อยู่แก่ใจ แต่เพราะเห็นแก่พวก เห็นแก่หน้า เห็นแก่ลาภสักการะที่..และบริวารหยิบยื่นให้ จึงหลงลืมละเลยไปว่าพระธรรมวินัยบัญญัติเอาไว้เช่นไร
หรือไม่หมู่สงฆ์กลุ่มนี้ก็คือ อ้วกเอียวอัน เรียกว่าชั่วเหมือนๆ กัน เลยอยู่ด้วยกันได้ เวลาล่วงเลยมาจนมาถึงรัฐบาล คสช. ที่ฉันมั่นใจว่ามีความจงรักภักดี บังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา จึงทำให้ฉันกล้าที่จะเสี่ยง กล้าที่จะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมถวายให้แด่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช ที่ทรงเสด็จมาขอให้ช่วยในเรื่องธรรมกายในขณะที่พระองค์ยังทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงอยู่
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ วันนี้พุทธบริษัทผู้มีจิตซื่อตรงต่อพระธรรมวินัยจึงได้เห็นผลคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาออกมาชี้มูลความผิด ยืนยันว่านายไชยบูลย์ หรือ ธัมมชโย เป็นอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระแน่นอน
งานนี้ต้องให้เครดิตขอบคุณแก่ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา ที่กรุณาเสียสละและเสี่ยงสืบสวนสอบสวนจนความจริงกระจ่าง และมีความตั้งมั่นตั้งใจทำงานถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา สังฆราชะบูชา จนได้บทสรุปออกมาเหมือนดังที่สมเด็จพระสังฆราชได้ทรงวินิจฉัยและทรงพระลิขิตเอาไว้
แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาจะชี้มูลความผิดแล้วและส่งเรื่องให้หัวหน้า คสช. รัฐบาลดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา ๔๔ จัดการกำจัดโจรปล้นพระธรรมวินัยตระกูลธรรมกายให้สิ้นไปจากศาสนจักร ฉันคงจะต้องมีหน้าที่อยู่อีก คือต้องตามดูเจ้าหน้าที่ของรัฐและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะลงดาบแก่ธรรมกายอย่างไร
ตลอดจนเจ้าคณะปกครองตามลำดับชั้น และกรรมการมหาเถรสมาคมที่เคยออกมาปกป้อง..กันสุดฤทธิ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ว่าจะทำอะไรกับนายธัมมชโยได้หรือไม่
ซึ่งโดยมารยาทควรให้รัฐบาลจัดการเสียก่อน แต่ถ้ายังนิ่งเฉย เตะถ่วงหน่วงเหนี่ยวอยู่ ฉันคงต้องออกโรงอีกครั้ง คงต้องเข้าไปจี้ ให้เข้าไปจับ..ถอดจีวร ใส่กุญแจมือ ชดใช้กรรมได้แล้ว อย่าปล่อยปะละเลยให้โจรเอาผ้าเหลืองมาห่มหลอกลวงชาวบ้านหากินอยู่เลย มันอยู่มานานมากพอแล้ว
งานถวายพระเพลิงพระศพของสมเด็จพระสังฆราชจะได้จัดขึ้นอย่างมีสง่าราศี สมแก่พระเกียรติขององค์สมเด็จพระสังฆราช ผู้ทรงเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พระองค์จักได้จากไปอย่างไม่มีมลทิน เพราะหากไม่สามารถเอาผิดแก่นายธัมมชโยได้ตามพระลิขิต นั่นก็เท่ากับว่าพระสังฆราชจะต้องเป็นอาบัติสังฆาทิเสสเสียเอง เช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นเด็ดขาด โดยเฉพาะเกิดขึ้นในรัฐบาล คสช.
และหากพุทธบริษัท รัฐบาล มีความเคารพศรัทธาเทิดทูนต่อเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช ก็ไม่ควรให้พระองค์ท่านจากไปด้วยมลทินที่นายธัมมชโยและกรรมการมหาเถร ที่ผู้อื่นยัดเยียดให้ ยังไงยังไง คดีธัมมชโยต้องจบก่อนที่จะถวายพระเพลิง จึงจะสมควร.
วานนี้ (21ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง กรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอให้คสช.ใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการร่วมสองฝ่าย ประกอบด้วยคฤหัสถ์ และบรรพชิต เพื่อศึกษาประเด็นทางพระธรรมวินัย ที่ยังไม่ได้ข้อยุติและ กรณีพระธัมมชโย ต้องอาบัติปาราชิก ตามพระลิขิตสมเด็จพระสังฆราช ว่า " อ๋อ เรื่องพระธัมมชโย ใช่ไหม เรื่อง มาตรา 44 สื่อเอามาใช้ก็แล้วกัน มันมีวิธีการตั้งเยอะแยะ กฎหมายปกติก็มีอยู่ และระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการสอบสวน ถ้ามันถูก ก็ว่าไปตามถูก แต่ถ้ามันผิด ก็ต้องว่าไปตามผิด จะใช้ มาตรา 44 ไปจับพระอย่างนั้นหรือ ให้มันรู้เรื่องกันบ้าง"
เมื่อถามย้ำว่า แต่เข้าต้องการให้มีการตรวจสอบ เรื่องผิดพระธรรมวินัย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ตรวจสอบอยู่แล้ว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ตรวจสอบอยู่ มีผลสอบสวนออกมาระยะหนึ่ง ไปตรวจค้นกันดู
" อย่าไปขัดแย้งกันมากมาย ผิดก็คือผิด อย่างไรมันก็ผิด วันนี้ผลสอบยังไม่ออก เดี๋ยวคณะกรรมการชุดเดิมก็สอบมีผลออกมา ให้เวลาฝ่ายกฎหมายทำงานบ้าง จะมาเร่งอย่างนั้น อย่างนี้ เดี๋ยวก็ลุกขึ้นมาต่อสู้กัน กฎหมายก็เดินหน้าไม่ได้ การพิจารณาต่างๆ ก็ติดขัดไปหมด เพราะมีการสร้างความขัดแย้งสูง ผิดหรือไม่ล่ะ มันก็ผิด ไม่ผิดวันนี้ ก็ผิดวันพรุ่งนี้ ถ้าทุกคนยอมรับความผิดกันทั้งหมด ถึงจะมาคุยกันได้ว่า จะหาทางออกกันอย่างไร แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก มันก็ยากและลำบาก ทุกคนจะยอมหรือไม่ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** สาวกธรรมกายบุกกดดันผู้ตรวจฯ
เมื่อเวลา 13.30 น.วานนี้ (21ก.ค.) มีพระภิกษุจากวัดพระธรรมกาย กว่า 100 รูป พร้อมประชาชนร่วม 600 คน ได้มารวมตัวกันที่ บริเวณประตูด้านทิศตะวันออก อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย กรณีสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ดำเนินการกับ พระธัมมชโย ให้เป็นไปตามพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช โดยเห็นว่า ข้อหาปาราชิก เมื่อ16 ปี ยุติไปแล้วทั้งคดีทางโลก และทางธรรม ส่วนการถอนฟ้องคดีเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ก็ถือเป็นที่สุดแล้ว พระธัมมชโย จึงไม่มีความผิด ดังนั้นไม่ควรรื้อฟื้นคดีดังกล่าวขึ้นมาอีก และผู้ตรวจการแผ่นดินก็ไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ แต่กลับนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมาเผยแพร่ จึงขอให้ยุติการกระทำที่ไม่เป็นประโยชน์ ทำให้เกิดความแตกแยก วุ่นวายในสังคม นี้เสีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมาชุมนุมครั้งนี้ มีการนำเครื่องขยายเสียงมาปราศรัย และชูป้ายข้อความ "เรามาขอความเป็นธรรมให้หลวงพ่อธัมมชโย " "ลูกหลวงพ่อไม่เล่นการเมือง แต่รักความยุติธรรม" "ผู้ตรวจการฯไม่ใช้หลักกฏหมาย แต่ตะเกียกตะกายใช้หลักกู" "ผู้ตรวจการฯตาบอดหรือไง คนรีดไถโรงแรมไม่ปาราชิกหรือ"
ด้านนายวิสุทธิ์ พึ่งประดิษฐ์ แกนนำ เปิดเผยว่าที่มาวันนี้ ต้องการยื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับ พระธัมมชโย ซึ่งยืนยันว่า ที่ดินที่มีปัญหานั้น เป็นที่ดินทีมีการถวายให้ พระธัมมชโย และมีการมอบให้กับวัดแล้ว ทั้งนี้ หลักฐานเรื่องดังกล่าวมีอยู่ที่อัยการสูงสุดทั้งหมดแล้ว ส่วนจะเคลื่อนไหวต่อไปหรือไม่ ต้องดูท่าทีของผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน
ต่อมานายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมี นายอดิศักดิ์ วรรณสิน ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์พระเทพญาณมหามุนี เป็นตัวแทนยื่นหนังสือ โดยหนังสือดังกล่าว ระบุว่า ประเด็นเรื่องพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชที่ผู้ตรวจการแผ่นดินอ้างถึงนั้น เป็นคำแนะนำ ไม่มีผลบังคับตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ และมหาเถรสมาคมได้นำเข้าที่ประชุม เพื่อพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว ตั้งแต่ปี 2542 การรื้อฟื้นเรื่องที่เสร็จสิ้นไปแล้ว จึงถือว่าขัดหลักนิติธรรม ฝ่าฝืนพระธรรมวินัย
ส่วนกรณีที่อัยการสูงสุดถอนฟ้อง ก็เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมาย และศาลก็ได้อนุญาตให้ถอนฟ้องแล้ว เท่ากับศาลเห็นว่าถูกต้องเหมาะสมที่จะอนุญาตให้ถอนฟ้องได้ ดังนั้นผู้ตรวจการแผ่นดินจึงไม่มีอำนาจหน้าที่ และไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะเสนอให้ตั้งคณะทำงานหรือคณะกรรมการมาดำเนินการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ ให้เป็นที่เสียหายแก่ระบบการปกครองทั้งศาสนจักร และอาณาจักรอีกต่อไป และถือว่าไม่ยุติธรรมต่อพระธัมมชโย ทั้งยังจะสร้างความแตกแยกระหว่างประชาชน อันจะขัดต่อนโยบายปรองดอง คสช. จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินทบทวนและยุติการดำเนินการกรณีดังกล่าว
นายรักษเกชาได้ชี้แจงว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินยินดีที่จะรับเรื่องนี้ไว้ พร้อมจะให้ความเป็นธรรมในการพิจารณา ซึ่งการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินยังไม่ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด และพร้อมที่จะรับข้อมูลหลักฐานโต้แย้งเพิ่มเติมได้ ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวมีผู้ยื่นร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดิน ต้องตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ หากไม่ตรวจสอบ ก็จะถือว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีการถอนฟ้องของ อสส. ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีอำนาจไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ก็จะนำเรื่องนี้เสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อพิจารณาต่อไป
วันเดียวกัน มีรายงานว่า นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง โพสต์รูปภาพและข้อความว่า “สวัสดีครับพี่น้องที่รักทั้งหลาย วันนี้เห็นข่าวว่า"ผู้ตรวจการฯชงให้ประยุทธ์ใช้ม.44จัดการธัมมชโย(พระเทพญาณมหามุนี) ซื้อที่ดินใช้ชื่อตัวเอง"ผมไม่เคยเป็นศิษย์ของธัมมชโย แต่ใคร่จะขอให้ชาวพุทธตั้งสติกันนิดนึง การถวายที่ดินนั้นดูที่เจตนาเจ้าภาพว่าถวายให้ใครอย่างไร ถวายส่วนตัวหรือถวายให้วัด หากถวายส่วนตัวก็ต้องดูว่า ผู้ที่รับที่ดินนั้นนำไปทำประโยชน์อันใด ในสมัยพุทธกาลคหบดีก็เคยถวายที่ดินแด่พระพุทธเจ้า เช่น ถวายสวนมะม่วง(วัดอัมพวัน) ถวายสวนไผ่ (วัดเวฬุวัน)
"พี่น้องครับ ผมอยากจะฝากไปยังผู้ตรวจการฯและนายไพบูลย์ นิติตะวัน ช่วยชงให้ประยุทธ์ ใช้ม.44 ไปจัดการกับอลัชชี..ที่ออกมานำทัพตั้งแก๊งการเมือง ปิดสถานที่ราชการ(ศูนย์ราชการ) ปิดสถานที่สมัครรับเลือกตั้ง มีการ์ด(มือปืนป๊อปคอน)ยิงคนบาดเจ็บและตาย ระหว่าง...กับธัมมชโยใครเลวกว่ากันครับ"
อีกด้าน เพจเฟซบุ๊คของ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" ได้โพสต์ข้อความเปรียบเทียบถึงเวลาที่ต้นธาตุต้นธรรมจะต้องถูกพิพากษาลงโทษเสียที
คดีธรรมกายเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 42 จนถึง 58 ใช้ชีวิตพระมหาเถระระดับสมเด็จหมดไป 2 องค์ ใช้เวลาไป 17 ปี ใช้รัฐบาลหมดไป 6 รัฐบาล ตั้งแต่สมัย
- ชวน หลีกภัย พรรคประชาธิปัตย์
- พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร พรรคไทยรักไทย
- พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (คปค.)
- สมัคร สุนทรเวช พรรคพลังประชาชน
- สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พรรคพลังประชาชน
- อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์
- ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย
แต่ก็ยังไม่มีใครนำเอาโจรห่มผ้าเหลืองอย่าง...ผู้นี้มาลงโทษได้ แม้สมเด็จพระสังฆราชและสมเด็จวัดชนะ กรรมการมหาเถรสมาคมทั้ง 2 พระองค์จะทรงพยายามกำจัดอลัชชีผู้เหยียดหยามพระธรรมวินัยผู้นี้ก็ตามที
แต่อลัชชีผู้นี้มีอำนาจการเมืองของคนตระกูล..คุ้มกะลาหัว เลยทำตัวยิ่งใหญ่ ขยายสาขาไปทั่วโลก โดยการลงทุนสร้างสำนักและคณะธรรมทูตสายต่างประเทศ ซึ่งล้วนแต่อยู่ในอาณัติของ..ทั้งสิ้น ทั้งยังแผ่อิทธิพลครอบงำกรรมการมหาเถรและสังฆมณฑลเอาไว้เป็นพวก เพื่อจะได้เป็นกำแพงปกป้องความชั่วของตัวเอง
และหากจะถามหมู่ภิกษุสงฆ์เหล่านั้นรวมทั้งกรรมการมหาเถรสมาคมบางคน ว่ารู้ไหมที่..เป็นอลัชชี ย่ำยีพระธรรมวินัย หมู่สงฆ์กลุ่มนี้ล้วนรู้อยู่แก่ใจ แต่เพราะเห็นแก่พวก เห็นแก่หน้า เห็นแก่ลาภสักการะที่..และบริวารหยิบยื่นให้ จึงหลงลืมละเลยไปว่าพระธรรมวินัยบัญญัติเอาไว้เช่นไร
หรือไม่หมู่สงฆ์กลุ่มนี้ก็คือ อ้วกเอียวอัน เรียกว่าชั่วเหมือนๆ กัน เลยอยู่ด้วยกันได้ เวลาล่วงเลยมาจนมาถึงรัฐบาล คสช. ที่ฉันมั่นใจว่ามีความจงรักภักดี บังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา จึงทำให้ฉันกล้าที่จะเสี่ยง กล้าที่จะเดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมถวายให้แด่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช ที่ทรงเสด็จมาขอให้ช่วยในเรื่องธรรมกายในขณะที่พระองค์ยังทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงอยู่
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ วันนี้พุทธบริษัทผู้มีจิตซื่อตรงต่อพระธรรมวินัยจึงได้เห็นผลคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาออกมาชี้มูลความผิด ยืนยันว่านายไชยบูลย์ หรือ ธัมมชโย เป็นอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระแน่นอน
งานนี้ต้องให้เครดิตขอบคุณแก่ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา ที่กรุณาเสียสละและเสี่ยงสืบสวนสอบสวนจนความจริงกระจ่าง และมีความตั้งมั่นตั้งใจทำงานถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา สังฆราชะบูชา จนได้บทสรุปออกมาเหมือนดังที่สมเด็จพระสังฆราชได้ทรงวินิจฉัยและทรงพระลิขิตเอาไว้
แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภาจะชี้มูลความผิดแล้วและส่งเรื่องให้หัวหน้า คสช. รัฐบาลดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา ๔๔ จัดการกำจัดโจรปล้นพระธรรมวินัยตระกูลธรรมกายให้สิ้นไปจากศาสนจักร ฉันคงจะต้องมีหน้าที่อยู่อีก คือต้องตามดูเจ้าหน้าที่ของรัฐและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะลงดาบแก่ธรรมกายอย่างไร
ตลอดจนเจ้าคณะปกครองตามลำดับชั้น และกรรมการมหาเถรสมาคมที่เคยออกมาปกป้อง..กันสุดฤทธิ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ว่าจะทำอะไรกับนายธัมมชโยได้หรือไม่
ซึ่งโดยมารยาทควรให้รัฐบาลจัดการเสียก่อน แต่ถ้ายังนิ่งเฉย เตะถ่วงหน่วงเหนี่ยวอยู่ ฉันคงต้องออกโรงอีกครั้ง คงต้องเข้าไปจี้ ให้เข้าไปจับ..ถอดจีวร ใส่กุญแจมือ ชดใช้กรรมได้แล้ว อย่าปล่อยปะละเลยให้โจรเอาผ้าเหลืองมาห่มหลอกลวงชาวบ้านหากินอยู่เลย มันอยู่มานานมากพอแล้ว
งานถวายพระเพลิงพระศพของสมเด็จพระสังฆราชจะได้จัดขึ้นอย่างมีสง่าราศี สมแก่พระเกียรติขององค์สมเด็จพระสังฆราช ผู้ทรงเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พระองค์จักได้จากไปอย่างไม่มีมลทิน เพราะหากไม่สามารถเอาผิดแก่นายธัมมชโยได้ตามพระลิขิต นั่นก็เท่ากับว่าพระสังฆราชจะต้องเป็นอาบัติสังฆาทิเสสเสียเอง เช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นเด็ดขาด โดยเฉพาะเกิดขึ้นในรัฐบาล คสช.
และหากพุทธบริษัท รัฐบาล มีความเคารพศรัทธาเทิดทูนต่อเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช ก็ไม่ควรให้พระองค์ท่านจากไปด้วยมลทินที่นายธัมมชโยและกรรมการมหาเถร ที่ผู้อื่นยัดเยียดให้ ยังไงยังไง คดีธัมมชโยต้องจบก่อนที่จะถวายพระเพลิง จึงจะสมควร.