ASTVผู้จัดการรายวัน - ผบ.ตร.ยันสั่งตรงซื้อปืนสวัสดิการ ตร. 1.5 แสนกระบอก ไม่มีเอี่ยวผลประโยชน์ นับเป็นครั้งแรกที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นผู้ทำสัญญากับบริษัทผู้ผลิตและนำเข้าด้วยตนเอง
วานนี้ (21 ก.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช. ) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขออนุญาตสั่งและนำเข้าอาวุธปืนตามโครงการจัดหาอาวุธปืนพกสั้นเพื่อเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการตำรวจมีกรรมสิทธิอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ยี่ห้อซิกซาวเออร์ รุ่น พี 320 จากประเทศอเมริกา ว่า อาวุธปืนดังกล่าวมีความทันสมัย และสามารถมาใช้ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ราชการในความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเสริมหรือทดแทนอาวุธปืนพกสั้นของทางราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีจำนวนไม่เพียงพอแก่การใช้งาน ซึ่งของเดิมเป็นอาวุธปืนที่ไม่ทันสมัย เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณการจัดหา
ทั้งนี้ ก่อนทำหนังสือดังกล่าวได้ทำการสำรวจความต้องการ มีข้าราชการตำรวจประสงค์ขอซื้อจำนวน 152,469 ราย โดยมีการเทียบเคียงกัน 2 ยี่ห้อ แต่ขนาด 9 มม.ยี่ห้อซิกซาวเออร์ เป็นที่ต้องการมากสุด และเพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือกันได้ในการปฏิบัติหน้าที่จึงต้องใช้ปืนในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งจะสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร้องขอไปยังรัฐบาลในการจัดซื้อปืนจำนวนดังกล่าว เป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจระดับปฏิบัติการ
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังเพื่อขอลดหย่อนภาษี ซึ่งมีมูลค่าร้อยละ 40 ของราคาปืน แต่กระทรวงการคลังไม่สามารถลดหย่อนภาษีให้ได้ เนื่องจากเป็นภาษีส่วนบุคคล โดยผู้ที่ยื่นความประสงค์ใช้สิทธิสวัสดิการ ต้องชำระค่าปืนเป็นเงินสดและไม่สามารถให้ปืนกับผู้อื่นผู้ใดที่ไม่ใช่ทายาทได้ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นผู้ทำสัญญากับบริษัทผู้ผลิตและนำเข้าด้วยตนเอง
"ยืนยันว่าการทำเช่นนี้เพื่อประโยชน์ เพื่อประสิทธิภาพ ไม่มีนัยแอบแฝง ไม่ต้องกังวลว่าผมจะกอบโกยก่อนการเกษียณ ขอให้เรื่องนี้ผ่านความเห็นชอบ จะผ่านในยุคไหนไม่สำคัญ เพราะผมเคยตรวจเยี่ยมกำลังพล เช็คความพร้อม ทดสอบให้ยิงปืนขึ้นฟ้า 10 คน แต่มีปืนที่ยิงได้แค่ 6 คน บ่งบอกถึงประสิทธิภาพไม่เต็มร้อย ซึ่งจะเป็นอันตรายกับตำรวจผู้ปฏิบัติการ" ผบ.ตร. ระบุ
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า อาวุธปืนที่ตำรวจระดับปฏิบัติการใช้อยู่ในปัจจุบัน มีอายุมากกว่า 30 ปี และสภาพไม่สมบูรณ์ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ได้ สวัสดิการดังกล่าวทำเพื่อต้องการให้ตำรวจได้มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพดีในการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังเตรียมจัดหาอุปกรณ์สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน อาทิ เข็มขัด กุญแจมือ ปลอกปืน จำหน่ายในราคาถูกเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจด้วย.
วานนี้ (21 ก.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( สตช. ) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขออนุญาตสั่งและนำเข้าอาวุธปืนตามโครงการจัดหาอาวุธปืนพกสั้นเพื่อเป็นสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการตำรวจมีกรรมสิทธิอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ยี่ห้อซิกซาวเออร์ รุ่น พี 320 จากประเทศอเมริกา ว่า อาวุธปืนดังกล่าวมีความทันสมัย และสามารถมาใช้ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ราชการในความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเสริมหรือทดแทนอาวุธปืนพกสั้นของทางราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีจำนวนไม่เพียงพอแก่การใช้งาน ซึ่งของเดิมเป็นอาวุธปืนที่ไม่ทันสมัย เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณการจัดหา
ทั้งนี้ ก่อนทำหนังสือดังกล่าวได้ทำการสำรวจความต้องการ มีข้าราชการตำรวจประสงค์ขอซื้อจำนวน 152,469 ราย โดยมีการเทียบเคียงกัน 2 ยี่ห้อ แต่ขนาด 9 มม.ยี่ห้อซิกซาวเออร์ เป็นที่ต้องการมากสุด และเพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือกันได้ในการปฏิบัติหน้าที่จึงต้องใช้ปืนในรูปแบบเดียวกัน ซึ่งจะสนับสนุนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงเป็นเหตุผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร้องขอไปยังรัฐบาลในการจัดซื้อปืนจำนวนดังกล่าว เป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจระดับปฏิบัติการ
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังเพื่อขอลดหย่อนภาษี ซึ่งมีมูลค่าร้อยละ 40 ของราคาปืน แต่กระทรวงการคลังไม่สามารถลดหย่อนภาษีให้ได้ เนื่องจากเป็นภาษีส่วนบุคคล โดยผู้ที่ยื่นความประสงค์ใช้สิทธิสวัสดิการ ต้องชำระค่าปืนเป็นเงินสดและไม่สามารถให้ปืนกับผู้อื่นผู้ใดที่ไม่ใช่ทายาทได้ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นผู้ทำสัญญากับบริษัทผู้ผลิตและนำเข้าด้วยตนเอง
"ยืนยันว่าการทำเช่นนี้เพื่อประโยชน์ เพื่อประสิทธิภาพ ไม่มีนัยแอบแฝง ไม่ต้องกังวลว่าผมจะกอบโกยก่อนการเกษียณ ขอให้เรื่องนี้ผ่านความเห็นชอบ จะผ่านในยุคไหนไม่สำคัญ เพราะผมเคยตรวจเยี่ยมกำลังพล เช็คความพร้อม ทดสอบให้ยิงปืนขึ้นฟ้า 10 คน แต่มีปืนที่ยิงได้แค่ 6 คน บ่งบอกถึงประสิทธิภาพไม่เต็มร้อย ซึ่งจะเป็นอันตรายกับตำรวจผู้ปฏิบัติการ" ผบ.ตร. ระบุ
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า อาวุธปืนที่ตำรวจระดับปฏิบัติการใช้อยู่ในปัจจุบัน มีอายุมากกว่า 30 ปี และสภาพไม่สมบูรณ์ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ได้ สวัสดิการดังกล่าวทำเพื่อต้องการให้ตำรวจได้มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพดีในการปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกันทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังเตรียมจัดหาอุปกรณ์สำหรับเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการให้เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน อาทิ เข็มขัด กุญแจมือ ปลอกปืน จำหน่ายในราคาถูกเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจด้วย.