ถึงเวลาแล้วที่คุณท่านต้องตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี แม้คุณท่านจะยังปากแข็งว่าไม่มีความจำเป็น เพราะชาวบ้านซึ่งเฝ้าดูสภาพโดยรวมของผลงานมองว่า “เรือแป๊ะ” ไปต่ออีกไม่ไหว
ถ้ายังดันทุรังไปอีก ต้องล่มแน่เพราะมีมรสุมคลื่นลมถาโถมเข้ามาทุกทาง
วิกฤตรอบทิศ ส่วนหนึ่งเกิดจากตัวแป๊ะซึ่งหมักหมมปัญหากลายเป็นวิกฤตศรัทธา ชาวบ้านเริ่มรู้ทันมากขึ้น ไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อมั่นว่าจะนำพาเรือแป๊ะไปสู่จุดหมายปลายทางโดยปลอดภัย
ตัวแป๊ะเองก็ถูกมองว่าเริ่มอยู่ในอาการของคนขาดความเชื่อมั่น ปากกล้า ขาแกว่ง ทุกวันนี้อยู่ได้โดยเชื่อว่าปัญหาส่วนใหญ่จะหาทางออกด้วยสภาวะ และกาลเวลาแก้ปัญหาของมันเอง
เช่นความเชื่อแบบลมๆ แล้งๆ ว่าวิกฤตภัยแล้งจะหายไปถ้ามีฝนตก แต่ไม่ได้มองไกลว่าถ้าฝนไม่ตกหรือตกน้อย จะมีน้ำพอใช้ได้อีกนานสักแค่ไหน ที่อยู่รอดมาได้เพราะยังมีน้ำเก่าค้างในเขื่อน
คุณท่านต้องคิดหนักเรื่องคณะรัฐมนตรี เพราะเกี่ยวโยงกับความเป็นเพื่อนพ้องน้องพี่ และก็น่าจะรู้กระจ่างในหัวอกแล้วว่า เพราะความเป็นเพื่อนพ้องน้องพี่นั่นแหละทำให้คุณท่านอยู่ในสภาพเฉา
ถ้าว่ากันง่ายๆ ด้วยภาษาชาวบ้านก็คือ “เกือบสิ้นท่า” นั่นเอง ยิ่งความนิยมในตัวคุณท่านเป็นเพียงปัจจัยเดียวที่เหลืออยู่ อีกไม่นานต้นทุนนี้คงแห้งเหือดเป็นของเสีย ที่ผ่านมาเป็นการเสียของ
ถ้าคุณท่านอยากย้อน หรือสวนตามถนัดว่า “ทำไมต้องปรับ” คำตอบคือ ผลงานที่ผ่านมานั้น “สอบตก” คะแนนสอบผ่านที่ได้มาก่อนหน้านั้นถือว่าเป็นความเกรงใจ การให้โอกาสช่วงแรก
บ้านเมืองมีปัญหาสารพัด นับวันมีแต่เลวร้ายลงทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อม ประชาชนแทบหมดอาลัยตายอยากเพราะผิดหวังซ้ำซากจากการไม่แก้ปัญหา ไร้ปฏิรูปทุกด้าน
ทุกวันนี้เหมือนอยู่ไปวันๆ ใช้อารมณ์ เสียงคำรามล้งเล้งฮึ่มฮ่ำไปตามเรื่อง แต่สไตล์ขู่ชาวบ้านแบบนี้ถูกจับไต๋ได้แล้วว่า “ไม่มีอะไร” ชาวบ้านไม่มีเหตุผลต้องเกรงกลัว เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด
ถ้าเก่งจริง แน่จริง ใจถึง ประชาชนพึ่งได้ ทำไมไม่จัดการพวกต้นตอปัญหาจนเปิดช่องให้คุณท่านและพวกฉวยโอกาสทำรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐและหลายคนเสวยสุยสะสมทรัพย์ดังที่เป็นอยู่
ที่ทำเหมือนกับการเยี่ยวรดหัวใจชาวบ้านก็คือ มีความพยายามหาช่องทางให้พวกการเมืองกลุ่มอำนาจเก่าได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการบริหารบ้านเมือง เป็นการวางรากฐานเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ชัดๆ ทั้งๆ ที่คนดีไร้มลทินใจซื่อมือสะอาดในบ้านเมืองยังมีอีกมากมาย
หรือคุณท่านและพวกไม่สามารถทำงานร่วมกับคนดีได้ เหมือนขบวนการเหลี่ยมซึ่งใช้งานเฉพาะคนชั่วร้ายกังฉินเพื่อให้เป็นมือไม้ในการโกงบ้านกินเมืองแบบบูรณาการ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
คุณท่านย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าผลงาน ครม.ส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน ถ้าทำงานเป็นชาวบ้านต้องเห็น รับรู้ เลื่อมใสศรัทธา แต่ความเป็นจริงทุกวันนี้รัฐมนตรีมากกว่าครึ่งค่อนชาวบ้านไม่รู้จัก
ตลอดมาคุณท่านยืนยันเสียงแข็งว่าจะไม่ปรับ ครม.แน่นอนท่านทำได้ เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านไม่แน่ใจแล้วว่าเจตนาแท้จริงของการรัฐประหารนั้นทำเพื่ออะไรกันแน่
ถ้าเจตนาดี ทำเพื่อบ้านเมือง คงได้เห็นคุณท่านจัดการขบวนการการเมืองชั่วร้ายกังฉินอย่างเป็นระบบรวดเร็ว เร่งปฏิรูปประเทศ ทะลวงจุดบอด ผ่าทางตัน โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม
ชาวบ้านต้องผิดหวัง ไม่เห็นการปฏิรูปเกิดขึ้น แถมคุณท่านยังประกาศด้วยความภูมิใจ ท่วงท่าโอ่อ่าว่าจะไม่ปฏิรูปองค์กรตำรวจตัวปัญหาในยุคของท่าน ปล่อยให้เป็นภารกิจของรัฐบาลหน้า
คุณท่านบอกว่าจะปฏิรูปด้านอื่นได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือให้รัฐบาลหน้าทำต่อไป... เอ่อ...แล้วรัฐบาลหน้าเป็นรัฐบาลแห่งชาติเจ้าสัวอุปถัมภ์ ซึ่งมีท่านยังเป็น ผู้นำอย่างที่มีการโยนหินถามทางกันใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นคุณท่านย่อมไม่มีเหตุต้องอยู่ต่อไปเพราะเป็นการยื้อเวลาก่อนกลียุค
เป็นกลียุคซึ่งคนในรัฐบาลท่านคาดว่าจะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีกว่า คราวนี้กลุ่มผู้ขัดแย้งจะออกมาพร้อมกับปืน และหลังจากหัวหน้าตำรวจกำลังขออนุมัติพิเศษสั่งซื้อปืนพกยี่ห้อซิกซาวเออร์ จำนวนแสนห้าหมื่นกว่ากระบอกให้ตำรวจ จากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง อ้างว่ามีความจำเป็น
ไม่เปิดช่องให้รายอื่นเสนอตัวเข้าแข่งขัน จนชาวบ้านร้องฮือฮาว่า “ซื้อปืนทิ้งทวน” ตัวเองก็จะเกษียณอายุในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้แล้ว ทำไมไม่ให้หัวหน้าตำรวจคนใหม่จัดการ แต่ก็เข้าใจนะ
คนมองโลกในแง่ร้ายประเมินว่า ถ้ามีใครคิดหากินค่านายหน้ากระบอกละหมื่นบาท ก็สบายแล้ว อิ่มหลายปี ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่จะคิดอย่างนี้กับ “ซอมยอสกาสิโน” ไม่ได้ ทุกวันนี้ก็รวยเละ
ครม.ของคุณท่านจะอนุมัติตามคำขอของ “ซอมยอส” หรือไม่ น่าคิด!
ลำพัง “ซอมยอส” ก็ไม่มีอะไร แต่ 2 คนที่เป็นแบ็กให้นี่แหละ ทำให้การปฏิรูปตำรวจไม่เกิดขึ้น
เท่ากับว่าขบวนการเพื่อนพ้องน้องพี่ของคุณท่านคือปัญหาของชาติอย่างแท้จริง เป็นตัวขัดขวาง ขัดขาทำให้คุณท่านทำอะไรไม่ได้ดังใจ ทั้งๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ทำให้ท่านต้องมัวหมอง เสียคนเพราะต้องอยู่ในสภาวะจำยอมของระบบพี่ๆ น้องๆ ดูแล้วคุณท่านไม่มีทางกล้าหักดิบ
คนเราทุกคนเมื่อถึงภาวะจำเป็นคับขัน ย่อมเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองเสมอ
พวกนี้ยอมทิ้งปล่อยชาติบ้านเมืองมาทีหลัง! มีคนรักชาติแท้จริง ไม่ใช่รักชาติแต่ปาก ร้องเพลงกล่าวปฏิญาณ แต่อาจยังไม่เกิด ไม่มีอำนาจ หรือมีอยู่เพียงในกลุ่มประชาชนคนต้นทุนต่ำ รักชาติมากกว่าตัวเอง
หาคนรวย คนมีอำนาจ รักชาติได้ยาก เพราะถ้ารักชาติ รักประชาชนคงไม่ตั้งหน้าตั้งตากอบโกยจนมั่งคั่งหรือหวงอำนาจ เร่งเสริมอำนาจ จนไม่ยอมให้ประชาชนมีส่วนแบ่งในอำนาจ
บ้านเมืองไปไม่รอดแน่ ถ้ายังอยู่ในสภาพทุกวันนี้เหมือนเรือรั่วขาดหางเสือ แป๊ะไต้ก๋งเรือมัวแต่ทะเลาะกับผู้โดยสาร ขณะที่เพิกเฉยปล่อยให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ กอบโกยผลประโยชน์เต็มที่
มีอำนาจ ไม่ใช้อำนาจแก้ปัญหาบ้านเมือง สร้างระบบคุณธรรม จัดการคนชั่ว อำนาจก็ย่อมเสื่อม ผู้คนสิ้นศรัทธา ไม่เคารพนับถือ ไปอุ้มชูคนชั่วอย่างออกนอกหน้า ประชาชนก็ไร้ที่พึ่งพิง
ถ้าคุณท่านถือดี เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ปรับเปลี่ยน ครม.จะมีปัญหาอะไร ใครกล้าหือ?
อ๋อ! อยู่ได้แน่ แต่จะซังกะตายอยู่อย่างไร้ราคา และชาวบ้านคงจะไม่ยอมให้อยู่ได้นาน
ถ้ายังดันทุรังไปอีก ต้องล่มแน่เพราะมีมรสุมคลื่นลมถาโถมเข้ามาทุกทาง
วิกฤตรอบทิศ ส่วนหนึ่งเกิดจากตัวแป๊ะซึ่งหมักหมมปัญหากลายเป็นวิกฤตศรัทธา ชาวบ้านเริ่มรู้ทันมากขึ้น ไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อมั่นว่าจะนำพาเรือแป๊ะไปสู่จุดหมายปลายทางโดยปลอดภัย
ตัวแป๊ะเองก็ถูกมองว่าเริ่มอยู่ในอาการของคนขาดความเชื่อมั่น ปากกล้า ขาแกว่ง ทุกวันนี้อยู่ได้โดยเชื่อว่าปัญหาส่วนใหญ่จะหาทางออกด้วยสภาวะ และกาลเวลาแก้ปัญหาของมันเอง
เช่นความเชื่อแบบลมๆ แล้งๆ ว่าวิกฤตภัยแล้งจะหายไปถ้ามีฝนตก แต่ไม่ได้มองไกลว่าถ้าฝนไม่ตกหรือตกน้อย จะมีน้ำพอใช้ได้อีกนานสักแค่ไหน ที่อยู่รอดมาได้เพราะยังมีน้ำเก่าค้างในเขื่อน
คุณท่านต้องคิดหนักเรื่องคณะรัฐมนตรี เพราะเกี่ยวโยงกับความเป็นเพื่อนพ้องน้องพี่ และก็น่าจะรู้กระจ่างในหัวอกแล้วว่า เพราะความเป็นเพื่อนพ้องน้องพี่นั่นแหละทำให้คุณท่านอยู่ในสภาพเฉา
ถ้าว่ากันง่ายๆ ด้วยภาษาชาวบ้านก็คือ “เกือบสิ้นท่า” นั่นเอง ยิ่งความนิยมในตัวคุณท่านเป็นเพียงปัจจัยเดียวที่เหลืออยู่ อีกไม่นานต้นทุนนี้คงแห้งเหือดเป็นของเสีย ที่ผ่านมาเป็นการเสียของ
ถ้าคุณท่านอยากย้อน หรือสวนตามถนัดว่า “ทำไมต้องปรับ” คำตอบคือ ผลงานที่ผ่านมานั้น “สอบตก” คะแนนสอบผ่านที่ได้มาก่อนหน้านั้นถือว่าเป็นความเกรงใจ การให้โอกาสช่วงแรก
บ้านเมืองมีปัญหาสารพัด นับวันมีแต่เลวร้ายลงทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สภาพแวดล้อม ประชาชนแทบหมดอาลัยตายอยากเพราะผิดหวังซ้ำซากจากการไม่แก้ปัญหา ไร้ปฏิรูปทุกด้าน
ทุกวันนี้เหมือนอยู่ไปวันๆ ใช้อารมณ์ เสียงคำรามล้งเล้งฮึ่มฮ่ำไปตามเรื่อง แต่สไตล์ขู่ชาวบ้านแบบนี้ถูกจับไต๋ได้แล้วว่า “ไม่มีอะไร” ชาวบ้านไม่มีเหตุผลต้องเกรงกลัว เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด
ถ้าเก่งจริง แน่จริง ใจถึง ประชาชนพึ่งได้ ทำไมไม่จัดการพวกต้นตอปัญหาจนเปิดช่องให้คุณท่านและพวกฉวยโอกาสทำรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐและหลายคนเสวยสุยสะสมทรัพย์ดังที่เป็นอยู่
ที่ทำเหมือนกับการเยี่ยวรดหัวใจชาวบ้านก็คือ มีความพยายามหาช่องทางให้พวกการเมืองกลุ่มอำนาจเก่าได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการบริหารบ้านเมือง เป็นการวางรากฐานเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ชัดๆ ทั้งๆ ที่คนดีไร้มลทินใจซื่อมือสะอาดในบ้านเมืองยังมีอีกมากมาย
หรือคุณท่านและพวกไม่สามารถทำงานร่วมกับคนดีได้ เหมือนขบวนการเหลี่ยมซึ่งใช้งานเฉพาะคนชั่วร้ายกังฉินเพื่อให้เป็นมือไม้ในการโกงบ้านกินเมืองแบบบูรณาการ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
คุณท่านย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าผลงาน ครม.ส่วนใหญ่ไม่ได้มาตรฐาน ถ้าทำงานเป็นชาวบ้านต้องเห็น รับรู้ เลื่อมใสศรัทธา แต่ความเป็นจริงทุกวันนี้รัฐมนตรีมากกว่าครึ่งค่อนชาวบ้านไม่รู้จัก
ตลอดมาคุณท่านยืนยันเสียงแข็งว่าจะไม่ปรับ ครม.แน่นอนท่านทำได้ เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านไม่แน่ใจแล้วว่าเจตนาแท้จริงของการรัฐประหารนั้นทำเพื่ออะไรกันแน่
ถ้าเจตนาดี ทำเพื่อบ้านเมือง คงได้เห็นคุณท่านจัดการขบวนการการเมืองชั่วร้ายกังฉินอย่างเป็นระบบรวดเร็ว เร่งปฏิรูปประเทศ ทะลวงจุดบอด ผ่าทางตัน โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรม
ชาวบ้านต้องผิดหวัง ไม่เห็นการปฏิรูปเกิดขึ้น แถมคุณท่านยังประกาศด้วยความภูมิใจ ท่วงท่าโอ่อ่าว่าจะไม่ปฏิรูปองค์กรตำรวจตัวปัญหาในยุคของท่าน ปล่อยให้เป็นภารกิจของรัฐบาลหน้า
คุณท่านบอกว่าจะปฏิรูปด้านอื่นได้เพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือให้รัฐบาลหน้าทำต่อไป... เอ่อ...แล้วรัฐบาลหน้าเป็นรัฐบาลแห่งชาติเจ้าสัวอุปถัมภ์ ซึ่งมีท่านยังเป็น ผู้นำอย่างที่มีการโยนหินถามทางกันใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นคุณท่านย่อมไม่มีเหตุต้องอยู่ต่อไปเพราะเป็นการยื้อเวลาก่อนกลียุค
เป็นกลียุคซึ่งคนในรัฐบาลท่านคาดว่าจะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีกว่า คราวนี้กลุ่มผู้ขัดแย้งจะออกมาพร้อมกับปืน และหลังจากหัวหน้าตำรวจกำลังขออนุมัติพิเศษสั่งซื้อปืนพกยี่ห้อซิกซาวเออร์ จำนวนแสนห้าหมื่นกว่ากระบอกให้ตำรวจ จากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง อ้างว่ามีความจำเป็น
ไม่เปิดช่องให้รายอื่นเสนอตัวเข้าแข่งขัน จนชาวบ้านร้องฮือฮาว่า “ซื้อปืนทิ้งทวน” ตัวเองก็จะเกษียณอายุในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้แล้ว ทำไมไม่ให้หัวหน้าตำรวจคนใหม่จัดการ แต่ก็เข้าใจนะ
คนมองโลกในแง่ร้ายประเมินว่า ถ้ามีใครคิดหากินค่านายหน้ากระบอกละหมื่นบาท ก็สบายแล้ว อิ่มหลายปี ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่จะคิดอย่างนี้กับ “ซอมยอสกาสิโน” ไม่ได้ ทุกวันนี้ก็รวยเละ
ครม.ของคุณท่านจะอนุมัติตามคำขอของ “ซอมยอส” หรือไม่ น่าคิด!
ลำพัง “ซอมยอส” ก็ไม่มีอะไร แต่ 2 คนที่เป็นแบ็กให้นี่แหละ ทำให้การปฏิรูปตำรวจไม่เกิดขึ้น
เท่ากับว่าขบวนการเพื่อนพ้องน้องพี่ของคุณท่านคือปัญหาของชาติอย่างแท้จริง เป็นตัวขัดขวาง ขัดขาทำให้คุณท่านทำอะไรไม่ได้ดังใจ ทั้งๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ทำให้ท่านต้องมัวหมอง เสียคนเพราะต้องอยู่ในสภาวะจำยอมของระบบพี่ๆ น้องๆ ดูแล้วคุณท่านไม่มีทางกล้าหักดิบ
คนเราทุกคนเมื่อถึงภาวะจำเป็นคับขัน ย่อมเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองเสมอ
พวกนี้ยอมทิ้งปล่อยชาติบ้านเมืองมาทีหลัง! มีคนรักชาติแท้จริง ไม่ใช่รักชาติแต่ปาก ร้องเพลงกล่าวปฏิญาณ แต่อาจยังไม่เกิด ไม่มีอำนาจ หรือมีอยู่เพียงในกลุ่มประชาชนคนต้นทุนต่ำ รักชาติมากกว่าตัวเอง
หาคนรวย คนมีอำนาจ รักชาติได้ยาก เพราะถ้ารักชาติ รักประชาชนคงไม่ตั้งหน้าตั้งตากอบโกยจนมั่งคั่งหรือหวงอำนาจ เร่งเสริมอำนาจ จนไม่ยอมให้ประชาชนมีส่วนแบ่งในอำนาจ
บ้านเมืองไปไม่รอดแน่ ถ้ายังอยู่ในสภาพทุกวันนี้เหมือนเรือรั่วขาดหางเสือ แป๊ะไต้ก๋งเรือมัวแต่ทะเลาะกับผู้โดยสาร ขณะที่เพิกเฉยปล่อยให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ กอบโกยผลประโยชน์เต็มที่
มีอำนาจ ไม่ใช้อำนาจแก้ปัญหาบ้านเมือง สร้างระบบคุณธรรม จัดการคนชั่ว อำนาจก็ย่อมเสื่อม ผู้คนสิ้นศรัทธา ไม่เคารพนับถือ ไปอุ้มชูคนชั่วอย่างออกนอกหน้า ประชาชนก็ไร้ที่พึ่งพิง
ถ้าคุณท่านถือดี เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ปรับเปลี่ยน ครม.จะมีปัญหาอะไร ใครกล้าหือ?
อ๋อ! อยู่ได้แน่ แต่จะซังกะตายอยู่อย่างไร้ราคา และชาวบ้านคงจะไม่ยอมให้อยู่ได้นาน
