xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตภัยแล้ง บทเรียนราคาแพง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์

ใครจะนึกว่าประเทศไทยจะเผชิญวิกฤตภัยแล้งสาหัสขนาดนี้ นอกจากจะยังมีความไม่แน่นอนว่าจากนี้ไปจะมีฝนตกมากเพียงพอหรือไม่เท่านั้น ภัยแล้งอาจยืดเยื้อเรื้อรังเนื่องด้วยปรากโการณ์เอลนิโญยาวนานถึง 3 ปี ตามที่นักวิชาการประมานการณ์ไว้ก็ได้

นั่นหมายความว่า จากนี้ไปฝนอาจไม่ตกมากตามที่ประเทศไทยต้องการ เพื่อให้ปริมาณน้ำมาเติมในเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อเป็นน้ำต้นทุน ทำให้อยู่ ได้ จนถึงหลังเมษายนปีหน้า

ว่ากันง่ายๆ ให้เห็นภาพชัดๆ จากนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ถ้าไม่มีพายุขนาดกลาง 2-3 ลูกหอบฝนเข้ามาเติมน้ำในเขื่อน เราคงไม่รอดจนถึงเดือนเมษายนแน่

เท่าที่ผ่านมา มีฝนตกและตกหนัก “เป็นแห่งๆ” ตามพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา จะเป็นแห่งหนตำบลใดมีแต่พื้นที่มีฝนตกเท่านั้นที่รับรู้ หรือมีรายงานน้ำท่วมระยะสั้นเพราะระบายไม่ทัน

แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บของเขื่อนหลัก ที่ผ่านมาแผ่นดิน แห้งแล้งเพราะขาดน้ำ ฝนตกมาเท่าไหร่ถูกแผ่นดินแห้งดูดซับน้ำไว้เกือบหมด แทบไม่เหลือให้ไหลลงสู่แม่น้ำ

ปีนี้คำว่า “น้ำป่าไหลหลาก” อาจไม่มีในพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน

ปีนี้จะได้ยินคำว่า “น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง” แม้เราจะเผชิญเหตุการณ์สยองขวัญเมื่อน้ำท่วมเกือบทั้งประเทศในปี 2554 และถ้าจะมีน้ำท่วมบ้าง อย่าให้ รุนแรงเหมือนปีนั้น

แต่ปีนี้แล้งรุนแรง กินพื้นที่หลายจังหวัด ไม่ปรากฏมาก่อนในรอบ 50 ปี จนถึงขั้นคนในเมืองเสี่ยงกับการขาดแคลนน้ำเพื่อใช้และดื่มกิน แต่ทั่วไปคนพอมีเงินบ้างก็พึ่งน้ำดื่มบรรจุขวดจนคุ้น

คนเมืองหลวงยังมีความมั่นใจกับคำรับรองของผู้บริหารองค์กรประปาว่ายังจะมีน้ำประปาบริการจนถึงกลางเดือนสิงหาคม โดยมีความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าฝนจะตกหลังจากนั้น

อย่างที่ว่าไว้ ถ้าไม่มีฝนมากเพียงพอจนสิ้นฤดูฝนขณะที่น้ำในเขื่อนหลัก แทบไม่เหลือ จะทำอย่างไร เพราะมีเงินมากเท่าไหร่ก็ซื้อแม่น้ำไม่ได้ ความหวัง จะผันน้ำจากอิระวดี หรือสาละวินกระทันหันปีนี้เป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีฝนตกอีก หลายเดือน คนไทยจะเผชิญวิกฤตร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยประสบ

อาจเลวร้ายกว่าวิกฤตเศรษฐกิจเพราะลดค่าเงินบาทในปี 2540 นำไปสู่ปรากฏการณ์เปิดท้ายขายของ “คนเคยรวย” ต้องเอาของมีค่า สมบัติมาขาย
เป็นปีที่คนไทยต้องซื้อเสื้อผ้า รองเท้า สินค้ามือสองใช้ แต่คนชนบทไม่เดือดร้อนมาก

ภัยแล้งปีนี้ทำให้คนชนบท ชาวนา คนในเมืองเดือดร้อนถ้วนหน้า ถ้าขาดน้ำ แต่ภาคชนบทจะสาหัสกว่าเพราะยากจน ว่างงาน ชาวนาเกษตรกรไม่มีผลผลิต ขาย ขาดรายได้ หนี้สินเพิ่ม

ถ้าไม่มีข้าวนาปีกำหนดเก็บเกี่ยวเดือนธันวาคม ประเทศไทยคงไม่มีข้าวเหลือส่งออก ชาวนาอาจไม่มีข้าวกินด้วยซ้ำ เป็นไปได้ที่ต้องเอาข้าวรอวันเน่าใน โกดังจากยุคแม่นางปูเพาะเห็ดเอามากิน

จากยุค “คนเคยรวย” เราอาจได้เห็นสภาพคนเคยรวย คนยากจน ลดระดับสู่ “คนสิ้นไร้ไม้ตอก” เมื่อหนี้สินพอกพูนเกินความสามารถจะรับได้เพราะภัยแล้งยืดเยื้อ

ยังจินตนาการไม่ได้ว่าถ้าประเทศไทยมีวิกฤตภัยแล้งนาน 3-5 ปี จะอยู่ในสภาพอย่างไร

คนไทยคุ้นเคยกับการมีน้ำใช้เหลือเฟือ เป็น 1 ใน 10 ประเทศซึ่งใช้น้ำมาก ที่สุดในโลก อยู่ในระดับประเทศที่มีประชาชนหลายร้อยล้านหรือพันล้านคนทั้งๆ ที่เรามีเพียง 67 ล้านคน

แต่ก็แปลก เรามีวิกฤตขนาดนี้ ผู้บริหารบ้านเมืองยังไม่ประกาศภาวะวิกฤต หรืออาจเป็นเพราะไม่ตื่นตระหนก คุมสติไว้ได้อย่างมั่นคง ไม่เสียขวัญเพื่อไม่ให้ประชาชนแตกตื่น

หรือเป็นเพราะรู้ว่าชาวบ้านรู้แล้ว ประกาศไปก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรให้สะเด็ดน้ำ

ถ้ารัฐบาลตื่นตระหนก ถ้าฝนไม่ตก ก็ทำอะไรไม่ได้ ร้านสะดวกซื้อไม่ขายแม่น้ำ ขายแต่น้ำขวดและสินค้าที่ทำให้แม่ค้ารายย่อยระดับรากหญ้า โชห่วยสิ้นอาชีพ ล้มหายตายจาก

ทำได้อย่างเดียวคือสวดอ้อนวอนขอความเมตตาพระพิรุณเท่านั้น

วิกฤตภัยแล้งครั้งนี้ทำให้พวกถือดีได้เห็นประโยชน์ของอ่างเก็บน้ำพระราม 9 ในปทุมธานี เป็นแก้มลิงโดยพระราชดำริของในหลวง ท่านทรงย้ำ นัก ย้ำหนาให้ขุดแก้มลิงไว้เก็บน้ำแทนการเร่งระบายน้ำสู่ทะเลทุกครั้งเมื่อมีปัญหา น้ำท่วม แต่คนมีหน้าที่ไม่เคยนึกว่าจะต้องเผชิญกับภัยแล้ง

นักการเมือง ผู้บริหารบ้านเมืองจองหองผสมโง่เขลาเบาปัญญาไม่เคยเชื่อฟัง

นอกจากไม่เก็บน้ำ ในปี 2555-56 ยังโง่บัดซบถึงขั้นเร่งระบายน้ำออกจาก เขื่อนหลักเพราะความกลัวน้ำท่วมจนขี้ไหลย้อนขึ้นไปแทนสมอง กลัวว่าน้ำจะท่วมนาข้าวอาหรับ

ยุคนี้ผู้บริหารบ้านเมืองพยายามขุดลอกคูคลอง ห้วยหนองบางแห่ง แต่ยังไม่เพียงพอ ต้องทำทั้งประเทศ เตรียมไว้ น้ำไม่มาปีนี้ก็ต้องจำยอม ถ้ามาอีกต้อง เก็บไว้ให้มากที่สุดเผื่อช่วงแล้ง

ถ้าขุดก้นแม่น้ำลึกเป็นแอ่งท้องช้างเป็นช่วงๆ อ่างเก็บน้ำ บึงขนาดใหญ่ ห้วย หนอง แก้มลิงลึกมาก ก็เก็บน้ำไว้ได้มาก ไม่จำเป็นต้องเร่งระบายน้ำลงทะเล

ไม่เร่งขุดตอนนี้ จะทำตอนไหน?

ประเทศไทยล้างผลาญทรัพยากรได้เร็วติดอันดับโลก ทำกันเองยังไม่พอ ดันส่งเสริมการลงทุนให้คนต่างชาติเข้ามากอบโกยความมั่งคั่งจากแผ่นดินไทย ขุดทั้งก๊าซ น้ำมัน ทองคำ โปแตช โครงการอุตสาหกรรมสารพัด แล้วทิ้งกากสารพิษไว้ฆ่าคนไทยเจ้าของประเทศให้ตายแบบผ่อนส่ง

ป่าไม้ที่เคยสมบูรณ์เป็นภูเขาหัวโล้น โครงการปลูกป่า ทำแบบซังกะตาย

ดูแล้วรัฐบาลคุณท่านน่าจะถึงทางตัน แต่ยังดื้อรั้นปากแข็งทั้งๆ ที่รัฐมนตรีหลายคนห่วยแตก ไร้ผลงาน เป็นของเสียชัดๆ ถ้าคุณท่านยังมองว่าพวกรัฐมนตรีกว่าครึ่งค่อนยังทำงานได้ เป็นข้ออ้างว่าไม่ต้องปรับ ครม. นั่นแสดงว่าความสามารถในการประเมินของคุณท่านมีปัญหาเช่นกัน

ถ้าเอา ครม. มาเรียงตัวเพื่อคัดออก ก็ยังมองไม่เห็นว่าสมควรเก็บคนไหนไว้ มีกว่าครึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม “โลกลืม” ชาวบ้านไม่รู้จัก มีเยอะที่ชาวบ้านไม่รู้ว่าเป็นรัฐมนตรีกินเงินภาษีนานกว่า 1 ปี

ปรับ ครม. เถอะ ถ้ายังเกรงใจ มาด้วยต้องไปด้วยกัน ระวังด้วยว่าคนไทยเจอภัยแล้งอาจแล้งน้ำใจ กล้าบอกคุณท่านว่า “งั้นก็ไปได้ ไม่ขอรบกวนให้เสียสละ เกรงใจจริงๆ”

คุณท่านน่าจะรู้ว่าคนไทยรักง่ายหน่ายเร็ว รังเกียจคนยโสโอหัง จองหอง

คุณเหลี่ยมคือตัวอย่างเป็นๆ รวยล้นฟ้ายังซื้อที่ดินยืนเต็ม 2 ตีนบนแผ่นดินเกิดไม่ได้

อย่าลืม ชาวนา เกษตรกร ถูกภาวะจำยอมให้เสียสละเพื่อให้คนในเมืองมีน้ำใช้ ไม่เดือดร้อน ชาวนาทนเห็นต้นข้าวแห้งตายคาทุ่ง ไม่มีแม้แต่น้ำตา

ถ้าทำนาไม่ได้ ชาวนาไม่มีข้าวกิน ไม่มีรายได้ อาจเดินทางเข้าเมือง ขอร้องให้คนในเมืองเสียสละทรัพย์สินบ้าง ให้พวกเขาอยู่รอด สู้กับภัยแล้งในฤดูกาลใหม่

ถ้าไม่ยอมเสียสละ อาจเผชิญกับความไม่สะดวกในการดำรงชีวิต

ใครจะรับผิดชอบ?
กำลังโหลดความคิดเห็น