พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน“เมืองสุขภาพดี วิถีชุมชน”ณ เลียบคลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-26 กรกฎาคม 58 ว่า ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ของการจัดงาน มีประชาชนเข้าร่วมงาน และจัดจ่ายซื้อหาสินค้าจำนวนมาก โดยมียอดจำหน่ายสินค้ารวม 9,878,089 บาท ผู้เข้าชมงานสะสม 59,111 คน เฉพาะยอดวันที่ 18 ก.ค. 58 มียอดจำหน่ายสินค้า 1,496,863 บาท ผู้เข้าชมงานประจำวัน 6,582 คน
โดยยอดจำหน่ายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ร้านส้มทิพย์ เสน่ห์จันทน์ ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันเปลือกส้มโอ 234,980 บาท ร้านมาดามเฮง จำหน่ายผลิตภัณฑ์สบู่ 143,788 บาท บริษัท ยูนิกลอรี่ จำหน่ายผลไม้/สมุนไพรอบแห้ง 140,000 บาท ร้านอภัยภูเบศร์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร 127,000 บาท และร้านองค์การเภสัชกรรมจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร 48,800 บาท
"สัปดาห์หน้า จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการจัดงานแล้ว ขอเชิญพี่น้องประชาชนเข้าร่วมชมงาน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขในฐานะเจ้าภาพการจัดงาน ได้เชิญผู้ประกอบการมาร่วมออกบูธ และจำหน่ายและสินค้า ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยกว่า 100 ร้านค้าทั่วประเทศ ในราคาย่อมเยา หาซื้อยาก อาทิ เจลฟ้าทะลายโจร ยาสมุนไพรวัยทอง ขนมหวานจากผักพื้นบ้าน เช่น กระพังโหม หรือต้นตดหมูตดหมา ผลิตภัณฑ์จากหญ้ารีแพร์ ชาสำเร็จรูปกระชับสัดส่วน เป็นต้น"
นอกจากนั้น ยังได้มีการจัดกิจกรรมด้านสุขภาพมากมาย อาทิ การนวดตอกเส้น นวดรักษาอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต นิ้วล็อก ไหล่ติด ไมเกรน การเสวนาให้ความรู้ด้านสุขภาพ เพื่อนำไปต่อยอดอาชีพเสริม การแนะนำสมุนไพรป้องกันและรักษาโรคต่างๆ การบริการตรวจสุขภาพมวลของร่างเบื้องต้น เป็นต้น และการบริการฉีดวัคซีนฟรีของกรมควบคุมโรค ซึ่งสัปดาห์แรกของการจัดงานได้บริการวัคซีนป้องกันโรคไขหวัดใหญ่ไปแล้ว และตั้งแต่วันที่ 17-26 ก.ค.ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ และบาดทะยักฟรีวันละ 500 คน
สำหรับวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค. นี้ โดยกิจกรรมที่น่าสนใจจัดเต็มตลอดทั้งวัน ช่วงเวลา 11.30-14.00น. มีกิจกรรมให้ความรู้และตอบปัญหาชิงรางวัลในหัวข้อ “เจ็บจากรถ หมดกังวล มีคนจ่าย อย่างไร ?” 14.00-16.00 น. การแสดงดนตรีคลายเครียด 16.00-18.00 น. เสวนาให้ความรู้หัวข้อ “The mask “do it yourself”” และ 18.00 น . จะมีการแจกต้นกล้าสมุนไพรฟรี ให้กับผู้ร่วมงาน
สำหรับวัตถุประสงค์ของงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ เชื่อมโยงภาคเกษตรไปสู่ภาคการผลิต ขยายโอกาสธุรกิจต่อเนื่องในอนาคต ทั้งตลาดในประเทศ อาเซียน และตลาดโลก ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยมีมูลค่าปีละประมาณ 48,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตร้อยละ 15-20 ต่อปี จึงความสนับสนุนให้มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยยอดจำหน่ายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ร้านส้มทิพย์ เสน่ห์จันทน์ ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันเปลือกส้มโอ 234,980 บาท ร้านมาดามเฮง จำหน่ายผลิตภัณฑ์สบู่ 143,788 บาท บริษัท ยูนิกลอรี่ จำหน่ายผลไม้/สมุนไพรอบแห้ง 140,000 บาท ร้านอภัยภูเบศร์ จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร 127,000 บาท และร้านองค์การเภสัชกรรมจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร 48,800 บาท
"สัปดาห์หน้า จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการจัดงานแล้ว ขอเชิญพี่น้องประชาชนเข้าร่วมชมงาน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขในฐานะเจ้าภาพการจัดงาน ได้เชิญผู้ประกอบการมาร่วมออกบูธ และจำหน่ายและสินค้า ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยกว่า 100 ร้านค้าทั่วประเทศ ในราคาย่อมเยา หาซื้อยาก อาทิ เจลฟ้าทะลายโจร ยาสมุนไพรวัยทอง ขนมหวานจากผักพื้นบ้าน เช่น กระพังโหม หรือต้นตดหมูตดหมา ผลิตภัณฑ์จากหญ้ารีแพร์ ชาสำเร็จรูปกระชับสัดส่วน เป็นต้น"
นอกจากนั้น ยังได้มีการจัดกิจกรรมด้านสุขภาพมากมาย อาทิ การนวดตอกเส้น นวดรักษาอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต นิ้วล็อก ไหล่ติด ไมเกรน การเสวนาให้ความรู้ด้านสุขภาพ เพื่อนำไปต่อยอดอาชีพเสริม การแนะนำสมุนไพรป้องกันและรักษาโรคต่างๆ การบริการตรวจสุขภาพมวลของร่างเบื้องต้น เป็นต้น และการบริการฉีดวัคซีนฟรีของกรมควบคุมโรค ซึ่งสัปดาห์แรกของการจัดงานได้บริการวัคซีนป้องกันโรคไขหวัดใหญ่ไปแล้ว และตั้งแต่วันที่ 17-26 ก.ค.ฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ และบาดทะยักฟรีวันละ 500 คน
สำหรับวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ค. นี้ โดยกิจกรรมที่น่าสนใจจัดเต็มตลอดทั้งวัน ช่วงเวลา 11.30-14.00น. มีกิจกรรมให้ความรู้และตอบปัญหาชิงรางวัลในหัวข้อ “เจ็บจากรถ หมดกังวล มีคนจ่าย อย่างไร ?” 14.00-16.00 น. การแสดงดนตรีคลายเครียด 16.00-18.00 น. เสวนาให้ความรู้หัวข้อ “The mask “do it yourself”” และ 18.00 น . จะมีการแจกต้นกล้าสมุนไพรฟรี ให้กับผู้ร่วมงาน
สำหรับวัตถุประสงค์ของงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ เชื่อมโยงภาคเกษตรไปสู่ภาคการผลิต ขยายโอกาสธุรกิจต่อเนื่องในอนาคต ทั้งตลาดในประเทศ อาเซียน และตลาดโลก ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมสมุนไพรไทยมีมูลค่าปีละประมาณ 48,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตร้อยละ 15-20 ต่อปี จึงความสนับสนุนให้มีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง