**สิ้นเดือนสิงหาคม "รัฐบาลบิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะบริหารงานครบ 1 ปีเต็ม พ่วงสถิติรัฐบาลที่ไม่มีการปรับครม. ออกจากตำแหน่งระหว่างขวบปี มีแต่ปรับเข้าให้เต็มตามโควต้า ที่ว่างอยู่
แม้จะมีกระแสข่าวมาเขย่าเก้าอี้ "รัฐมนตรี" หลายรายที่ทำงานไม่เข้าเป้า มีกระบวนการปล่อยข่าวไล่กันในช่วงต้นปี แต่"บิ๊กตู่" ใจแข็งท่องคาถาให้โอกาส "บิ๊กรมต."ได้พิสูจน์ฝีมือ
และในช่วงที่มีกระแสข่าวอย่างหนัก หนีไม่พ้นการตัดสินใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 เปิดช่องให้ "นักการเมือง" ที่เคยติดโทษทางการเมืองให้เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ จึงเก็งกันว่า ถึงเวลาแล้วที่ "บิ๊กตู่" จะปรับครม.
ทว่ากระแสข่าวก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆไป เพราะต้องรอให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 เดินหน้าไปก่อน หลังมีผลบังคับใช้ กระบวนการ "ปล่อยข่าว" จะกลับมาเลื่อยขากันต่อ
ล่าสุด ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งไม่ทันข้ามคืน กระแสปรับครม. ถูกปล่อยข่าวจาก"บางพวก" ให้กลับมาเลื่อยขาเก้าอี้รัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ครั้งนี้การปรับครม. เริ่มมีมูลความจริง มีความเป็นไปได้สูง ที่ "บิ๊กตู่" จะตัดสินใจทิ้งบางคนไว้กลางทาง
**กระแสข่าวที่ลือกันหนาหูกว่าใครเพื่อน หนีไม่พ้นตำแหน่งของ“หม่อมอุ๋ย”ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ที่โดนเซาะกันตั้งนานแล้ว เก้าอี้ของ“หม่อมอุ๋ย”ก็ยังแข็งแรงดีอยู่ โดยแคนดิเดตที่จะเข้ามาแทน ก็ยังเป็นคนเดิม-เชื่อเดิมนาม “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”ที่ปรึกษา คสช.
ว่ากันว่า ชื่อของ“สมคิด”เข้าไปนั่งกลางดวงใจของ“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งพักหลังช่วยกันทำงานด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช.
ที่สำคัญเป็น สมคิด ที่ดีลภาคธุรกิจกับ จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่ง สมคิด มีคอนเนกชันมากมาย จนทั้ง “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ปลื้มอกปลื้มใจ เห็นฝีไม้ลายมือในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคงในเก้าอี้ของ“หม่อมอุ๋ย”จึงโดน สมคิด กัดเซาะด้วยผลงานที่เข้าตากว่า
พลันที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 มีผลบังคับใช้ ชื่อของ “สมคิด”จึงลอยมาแต่ไกลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีน้ำหนักมากกว่าทุกครั้ง แถมอาการกั๊กๆ ของ“บิ๊กป้อม”ที่โยนให้ “บิ๊กตู่”ตัดสินใจว่าจะปรับครม. หรือไม่ ยิ่งน่าสนใจว่า จะมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น
**และยิ่ง “บิ๊กตู่”ถูกถามว่า จะปรับครม. หรือไม่ แต่กลับตอบว่า“ไม่รู้” ทั้งที่ก่อนหน้านี้มักจะตอบชัดเจนเสียงดังตามสไตล์ว่า“ไม่ปรับ” อาการของ“บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ส่งสัญญาณทางการเมืองให้“หม่อมอุ๋ย”รู้สึกเสียวสันหลังมายิ่งขึ้น
เพราะหากถึงเวลาที่“บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ต้องเลือกว่าจะให้โอกาสใครเข้าช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตัวเลือกในใจมีแค่“สมคิด”และหากให้โอกาส “สมคิด” ฟันธงได้เลยว่า คนที่ต้องจำใจหลีกทางให้ คือ"หม่อมอุ๋ย" เพราะเสือ 2 ตัว มักจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
“หม่อมอุ๋ย”กับ“สมคิด”มีแนวคิดทางเศรษฐกิจที่ต่างกันสุดขั้ว ไม่มีทางที่จะมานั่งสั่งการร่วมกันได้ หากมี “หม่อมอุ๋ย” ก็ต้องไม่มี “สมคิด” หากมี “สมคิด” ก็ต้องไม่มี “หม่อมอุ๋ย” นี่เป็นทางสองแพร่งที่ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ต้องเลือก
และหากเลือก “สมคิด” มีหวังทีมครม.เศรษฐกิจที่ “หม่อมอุ๋ย” เลือกมากับมือต้องออกกันยกทีม นี่คืออีกแรงกระเพื่อมหนึ่งที่ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ต้องประเมินให้ดี ซึ่งหากปล่อยให้ทีมเศรษฐกิจ พลีชีพตาม“หม่อมอุ๋ย” มีหวังโดนวิจารณ์หนักแน่
นอกจากนี้ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ยังต้องประเมินบรรดา เพื่อนทหาร ที่เข้ามานั่งในครม. แต่ผลงานยังไม่เข้าตาอีกด้วย บางคนถึงขั้นโลกลืมไปแล้วว่าเข้ามาอยู่ในตำแหน่งไหน บางคนไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้จับต้องได้ แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ บางคนทำตัวเป็นเหลือบไร แอบลักกิน-ขโมยกิน ผิดคอนเซปต์ของ “บิ๊กตู่”ที่เข้ามาบริหารประเทศอย่างแรง
กระทรวงที่อยู่ในลิสต์ต้องสงสัยมากที่สุดคงเป็น กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การดูแลของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ที่มีข่าวลือว่า “ขายข้าว”ได้ปริมาณมาก แต่ยอดรายรับที่ได้จากการขายข้าว กลับไม่เข้าเป้าตามที่ตั้งไว้
**สวนทางกับการแทงยอดข้าวเสียที่มีปริมาณมาก จึงโดนตั้งข้อสังเกตว่า ข้าวหายไหน หรือมี “ไอ้โม่ง”แทงข้าวเสีย แต่เอาไปต่อยอดขายเอง งานนี้ "บิ๊กนมชง" ไม่มีคำอธิบายที่สังคมสงสัยเป็นตัวเลขออกมาได้ จึงโดนตั้งข้อครหาไปโดยปริยาย
อีกทั้ง"บิ๊กนมชง" ยังสร้างความผิดหวังให้ “บิ๊กตู่”อย่างหนัก หลังการทำงานของ คณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ทำงานไม่เข้าเป้าตามที่วางเอาไว้ ว่ากันว่า “บิ๊กนมชง”แทบไม่เรียกประชุมบริหารจัดการน้ำเลย จะประชุมสักครั้งก็ต่อเมื่อจะชงเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.
จนทำให้“บิ๊กตู่”ต้องยึดอำนาจกลับมาบริหารจัดการเอง โดยให้รื้อ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) มาบริหารจัดการใหม่ ลดบทบาทของ“บิ๊กนมชง”ลงไป
ขณะที่ กระทรวงคมนาคม ที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม คุมบังเหียน กลับมีข่าวลือออกมาเช่นกันว่า มี “ซูเอี๋ย”กับบางบริษัท ในการจัดทำโครงการสร้างพื้นฐานของประเทศไทย
และหากพูดถึงบรรดา “รมต.โลกลืม”ที่ไร้ผลงาน ไม่มีชื่อปรากฏบนหน้าสื่อ คงจะไล่เรียงได้ไม่หมด
**“รัฐบาลบิ๊กตู่”อาจจะถึงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยน ครม. เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานให้กลับมาคึกครื้นอีกครั้ง แม้“บิ๊กตู่”จะอั้นมานานแล้ว แต่คงอั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว ซึ่งต้องรอพิสูจน์ว่า จะกล้าหาญชาญชัย ปลด“พี่น้องขุนทหาร”ออกจากตำแหน่งบ้างหรือไม่
เพราะต้องยอมรับกันจริงๆว่า การบริหารงานประเทศไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก “ทหาร”ไม่ได้ทำได้ทุกอย่าง ประเทศจะเดินหน้าไปได้ บางครั้งก็ต้องเปิดทางให้มืออาชีพทำ คนที่ทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่มีผลงาน หนีบขึ้นเรือแป๊ะไปก็คงไร้ประโยชน์ ไม่สมควรที่จะได้ไปต่อ
**จึงต้องรอดูว่าคำพูดของ “บิ๊กตู่”ที่บอกว่า เวลาทำงานผมไม่มี“เพื่อน”จะเป็นจริงตามที่พูดไว้ได้ มากน้อยแค่ไหน
แม้จะมีกระแสข่าวมาเขย่าเก้าอี้ "รัฐมนตรี" หลายรายที่ทำงานไม่เข้าเป้า มีกระบวนการปล่อยข่าวไล่กันในช่วงต้นปี แต่"บิ๊กตู่" ใจแข็งท่องคาถาให้โอกาส "บิ๊กรมต."ได้พิสูจน์ฝีมือ
และในช่วงที่มีกระแสข่าวอย่างหนัก หนีไม่พ้นการตัดสินใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 เปิดช่องให้ "นักการเมือง" ที่เคยติดโทษทางการเมืองให้เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ จึงเก็งกันว่า ถึงเวลาแล้วที่ "บิ๊กตู่" จะปรับครม.
ทว่ากระแสข่าวก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆไป เพราะต้องรอให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 เดินหน้าไปก่อน หลังมีผลบังคับใช้ กระบวนการ "ปล่อยข่าว" จะกลับมาเลื่อยขากันต่อ
ล่าสุด ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งไม่ทันข้ามคืน กระแสปรับครม. ถูกปล่อยข่าวจาก"บางพวก" ให้กลับมาเลื่อยขาเก้าอี้รัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ครั้งนี้การปรับครม. เริ่มมีมูลความจริง มีความเป็นไปได้สูง ที่ "บิ๊กตู่" จะตัดสินใจทิ้งบางคนไว้กลางทาง
**กระแสข่าวที่ลือกันหนาหูกว่าใครเพื่อน หนีไม่พ้นตำแหน่งของ“หม่อมอุ๋ย”ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ที่โดนเซาะกันตั้งนานแล้ว เก้าอี้ของ“หม่อมอุ๋ย”ก็ยังแข็งแรงดีอยู่ โดยแคนดิเดตที่จะเข้ามาแทน ก็ยังเป็นคนเดิม-เชื่อเดิมนาม “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์”ที่ปรึกษา คสช.
ว่ากันว่า ชื่อของ“สมคิด”เข้าไปนั่งกลางดวงใจของ“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งพักหลังช่วยกันทำงานด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช.
ที่สำคัญเป็น สมคิด ที่ดีลภาคธุรกิจกับ จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่ง สมคิด มีคอนเนกชันมากมาย จนทั้ง “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ปลื้มอกปลื้มใจ เห็นฝีไม้ลายมือในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคงในเก้าอี้ของ“หม่อมอุ๋ย”จึงโดน สมคิด กัดเซาะด้วยผลงานที่เข้าตากว่า
พลันที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว 2557 มีผลบังคับใช้ ชื่อของ “สมคิด”จึงลอยมาแต่ไกลอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีน้ำหนักมากกว่าทุกครั้ง แถมอาการกั๊กๆ ของ“บิ๊กป้อม”ที่โยนให้ “บิ๊กตู่”ตัดสินใจว่าจะปรับครม. หรือไม่ ยิ่งน่าสนใจว่า จะมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น
**และยิ่ง “บิ๊กตู่”ถูกถามว่า จะปรับครม. หรือไม่ แต่กลับตอบว่า“ไม่รู้” ทั้งที่ก่อนหน้านี้มักจะตอบชัดเจนเสียงดังตามสไตล์ว่า“ไม่ปรับ” อาการของ“บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ส่งสัญญาณทางการเมืองให้“หม่อมอุ๋ย”รู้สึกเสียวสันหลังมายิ่งขึ้น
เพราะหากถึงเวลาที่“บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ต้องเลือกว่าจะให้โอกาสใครเข้าช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตัวเลือกในใจมีแค่“สมคิด”และหากให้โอกาส “สมคิด” ฟันธงได้เลยว่า คนที่ต้องจำใจหลีกทางให้ คือ"หม่อมอุ๋ย" เพราะเสือ 2 ตัว มักจะอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
“หม่อมอุ๋ย”กับ“สมคิด”มีแนวคิดทางเศรษฐกิจที่ต่างกันสุดขั้ว ไม่มีทางที่จะมานั่งสั่งการร่วมกันได้ หากมี “หม่อมอุ๋ย” ก็ต้องไม่มี “สมคิด” หากมี “สมคิด” ก็ต้องไม่มี “หม่อมอุ๋ย” นี่เป็นทางสองแพร่งที่ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ต้องเลือก
และหากเลือก “สมคิด” มีหวังทีมครม.เศรษฐกิจที่ “หม่อมอุ๋ย” เลือกมากับมือต้องออกกันยกทีม นี่คืออีกแรงกระเพื่อมหนึ่งที่ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ต้องประเมินให้ดี ซึ่งหากปล่อยให้ทีมเศรษฐกิจ พลีชีพตาม“หม่อมอุ๋ย” มีหวังโดนวิจารณ์หนักแน่
นอกจากนี้ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม”ยังต้องประเมินบรรดา เพื่อนทหาร ที่เข้ามานั่งในครม. แต่ผลงานยังไม่เข้าตาอีกด้วย บางคนถึงขั้นโลกลืมไปแล้วว่าเข้ามาอยู่ในตำแหน่งไหน บางคนไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้จับต้องได้ แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ บางคนทำตัวเป็นเหลือบไร แอบลักกิน-ขโมยกิน ผิดคอนเซปต์ของ “บิ๊กตู่”ที่เข้ามาบริหารประเทศอย่างแรง
กระทรวงที่อยู่ในลิสต์ต้องสงสัยมากที่สุดคงเป็น กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การดูแลของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ที่มีข่าวลือว่า “ขายข้าว”ได้ปริมาณมาก แต่ยอดรายรับที่ได้จากการขายข้าว กลับไม่เข้าเป้าตามที่ตั้งไว้
**สวนทางกับการแทงยอดข้าวเสียที่มีปริมาณมาก จึงโดนตั้งข้อสังเกตว่า ข้าวหายไหน หรือมี “ไอ้โม่ง”แทงข้าวเสีย แต่เอาไปต่อยอดขายเอง งานนี้ "บิ๊กนมชง" ไม่มีคำอธิบายที่สังคมสงสัยเป็นตัวเลขออกมาได้ จึงโดนตั้งข้อครหาไปโดยปริยาย
อีกทั้ง"บิ๊กนมชง" ยังสร้างความผิดหวังให้ “บิ๊กตู่”อย่างหนัก หลังการทำงานของ คณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ทำงานไม่เข้าเป้าตามที่วางเอาไว้ ว่ากันว่า “บิ๊กนมชง”แทบไม่เรียกประชุมบริหารจัดการน้ำเลย จะประชุมสักครั้งก็ต่อเมื่อจะชงเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.
จนทำให้“บิ๊กตู่”ต้องยึดอำนาจกลับมาบริหารจัดการเอง โดยให้รื้อ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) มาบริหารจัดการใหม่ ลดบทบาทของ“บิ๊กนมชง”ลงไป
ขณะที่ กระทรวงคมนาคม ที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม คุมบังเหียน กลับมีข่าวลือออกมาเช่นกันว่า มี “ซูเอี๋ย”กับบางบริษัท ในการจัดทำโครงการสร้างพื้นฐานของประเทศไทย
และหากพูดถึงบรรดา “รมต.โลกลืม”ที่ไร้ผลงาน ไม่มีชื่อปรากฏบนหน้าสื่อ คงจะไล่เรียงได้ไม่หมด
**“รัฐบาลบิ๊กตู่”อาจจะถึงเวลาที่ต้องปรับเปลี่ยน ครม. เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานให้กลับมาคึกครื้นอีกครั้ง แม้“บิ๊กตู่”จะอั้นมานานแล้ว แต่คงอั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว ซึ่งต้องรอพิสูจน์ว่า จะกล้าหาญชาญชัย ปลด“พี่น้องขุนทหาร”ออกจากตำแหน่งบ้างหรือไม่
เพราะต้องยอมรับกันจริงๆว่า การบริหารงานประเทศไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก “ทหาร”ไม่ได้ทำได้ทุกอย่าง ประเทศจะเดินหน้าไปได้ บางครั้งก็ต้องเปิดทางให้มืออาชีพทำ คนที่ทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่มีผลงาน หนีบขึ้นเรือแป๊ะไปก็คงไร้ประโยชน์ ไม่สมควรที่จะได้ไปต่อ
**จึงต้องรอดูว่าคำพูดของ “บิ๊กตู่”ที่บอกว่า เวลาทำงานผมไม่มี“เพื่อน”จะเป็นจริงตามที่พูดไว้ได้ มากน้อยแค่ไหน