xs
xsm
sm
md
lg

“ธวัชชัย”ปูดการเมือง ส่อป่วนใต้ 15-17 ก.ค. แฉ2พรรคใหญ่หนุนบึม

เผยแพร่:

ASTVผู้จัดการรายวัน- "บิ๊กเยิ้ม"ทิ้งบอมบ์ ระวังบึ้มใต้ 15-17 ก.ค. ปูด 2 พรรคการเมือง ลงขัน รวมประชาชน 1 ล้านคน ก่อความไม่สงบหวังล้มรัฐบาล วอนทุกฝ่ายหยุดเคลื่อนไหว แล้วหันมาช่วย"บิ๊กตู่" เดินหน้าพัฒนาประเทศดีกว่า ด้านปชป. ยันไม่มีเอี่ยวแผนโค่นล้มรัฐบาล จี้ อดีตมทภ. 2 เปิดชื่อ 2 พรรคการเมืองใหญ่เอี่ยวบึ้มใต้ ป้องกันคนเข้าใจผิด ชี้มีโทษถึงยุบพรรค แนะจับตา ขรก.ได้ประโยชน์จากงบในพื้นที่ "เพื่อไทย" เย้ยพวก สปช.ไม่มีผลงาน เลยหาเรื่องป้ายสีพรรคการเมือง

พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ด้านการปกครองส่วนท้องถิ่นและอดีตแม่ทัพภาคที่ 2และคณะ สปช.ได้ออกมา แถลงข่าวถึงความเป็นได้ของการก่อเหตุใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ในวันที่ 15- 17 ก.ค. เนื่องจากตนได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เคยทำงานร่วมกับตน ตนทราบดีว่ามีกลุ่มที่จะก่อความไม่สงบอยู่ กลุ่มใหญ่ๆ ประกอบด้วยกลุ่มค้ายา5เสพติด กลุ่มค้าน้ำมันเถื่อน กลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มการเมือง ซึ่งสาเหตุหลักของสถานการณ์รุนแรงในขณะนี้มาจากกลุ่มการเมืองที่ต้องการเคลื่อนไหว เพราะถ้าหากมีความรุนแรง งบประมาณที่ลงไปในพื้นที่มากขึ้น

นอกจากนี้ตนทราบข่าวมาว่ามีพรรคการเมือง 2 พรรคลงขันให้ก่อสถานการณ์ก่อการร้ายและเตรียมจัดตั้งแกนนำรวบรวมคนในอัตรา 1 ต่อ 100 คน ซึ่งจะรวบรวมให้ได้อย่างน้อย 1 ล้านคน โดยมีประชาชนจากภาคใต้เป็นกองหน้าและกองหลัง ส่วนประชาชนจากภาคอีสานเป็นกองกลาง เพื่อเข้ามาชุมนุมโค่นล้มรัฐบาลในกรุงเทพฯ รวมไปถึงสถานการณ์ทางการเมืองมีความรุนแรงขึ้น โดยมีความต้องการให้เกิดการล้มรัฐบาล ดังนั้นตนขอเรียกร้องไปยังกลุ่มต่างๆที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ให้หยุดการเคลื่อนไหวแล้วสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเพื่อช่วยกันพัฒนาปฏิรูปประเทศ
พ.อ.ธนศักดิ์ มิตรภรานนท์ สมาชิกสปช.จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า พล.อ.ธวัชชัย และพล.อ.ประยุทธ์ได้ดูแลปัญหาชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง จึงวอนให้ประชาชน นักศึกษา และคณาจารย์ ร่วมกันสร้างประเทศให้เกิดความสงบสุข โดยเฉพาะคณาจารย์มีหน้าที่อบรมนักศึกษาให้เป็นคนดีภายใต้กรอบประเพณีไทย ขณะที่นักศึกษามีหน้าที่ต้องเรียนและมาบริหารประเทศในอนาคต จึงฝากนักศึกษาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวเพื่อให้ประเทศเกิดความสงบ เพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าพัฒนาให้ทันนานาอารยประเทศ

** จี้"บิ๊กเยิ้ม"พูดให้ชัดว่าเป็น 2 พรรคไหน
นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ระบุถึง 2 พรรคการเมืองใหญ่ อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตนทราบว่า พล.อ.ธวัชชัย เคยทำงานด้านชายแดน ด้านความมั่นคงมามาก การข่าวจะชัดเจน แต่การพูดคลุมเครือว่ามี 2 พรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง ทำให้คนเข้าใจผิด การที่มีพรรคการเมืองพรรคใดก็ตามอยู่เบื้องหลัง ไม่มีการวางระเบิด ก่อการร้าย โทษของการทำผิดทางการเมือง คือพรรคการเมืองต้องถูกยุบ และผู้ที่เป็นประชาชนมีโทษถึงประหารชีวิต จึงขอให้ พล.อ.ธวัชชัย ระบุออกมาให้ชัดภายในวันนี้ว่า เป็นพรรคการเมืองไหน หรือ อักษรย่อก็ได้
"เราไม่ได้กินปูนร้อนท้อง แต่พวกผมในนามพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ช่วยกันดำเนินการ และร่วมมือกับรัฐบาลในการขจัดคนที่ก่อการร้าย”
นายถาวร กล่าวต่อว่า คนที่เป็นรัฐมนตรี หรือคนที่ทำงานด้านความมั่นคง ต้องแสดงความรับผิดชอบให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เหตุเกิดขึ้นวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ผู้รับผิดชอบลงพื้นที่วันที่ 12 ก.ค. และเป็นเพียงแม่ทัพภาคที่ 4 ไม่มีรัฐมนตรีที่รับผิดชอบลงไปดูพื้นที่เลย

**จับตาขรก.ได้ประโยชน์จากงบในพื้นที่
นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบว่า พล.อ.ธวัชชัย ได้ข้อมูลมาจากไหน แต่ขอยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแนวทางการรวบรวมประชาชนเพื่อมาโค่นล้มรัฐบาลแน่นอน เพราะแนวทางของพรรคคือ ต้องการสนับสนุนการปฏิรูปประเทศให้เป็นไปตามโรดแมป
"อยากให้ พล.อ.ธวัชชัย พูดออกมาให้ชัดไปเลยว่า เป็นพรรคไหน นักการเมืองคนไหน ที่ทำแบบนี้ ถ้าพูดคลุมเครือแบบนี้ ในขณะนี้มีอะไรก็จะมาลงที่พรรคการเมืองหมด ถ้าพรรคการเมืองไหนทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ ควรจะต้องเปิดโปง บอกความจริงให้กับประชาชนได้รับทราบ ผมยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีทางทำแบบนั้นเด็ดขาด" นายนิพิฎฐ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ธวัชชัย กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองสนับสนุนเหตุการณ์รุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อให้มีงบประมาณลงไปในพื้นที่มากขึ้นนั้น นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เวลางบประมาณลงไป คนที่ได้ประโยชน์คือข้าราชการ ไม่ใช่นักการเมือง ตนตอบแทนทุกพรรคการเมืองเลยว่า ไม่มีพรรคใดได้ประโยชน์ ยิ่งช่วงเวลานี้พรรคการเมืองไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศ ก็ไม่มีทางที่จะเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณได้ ถ้าหากมีความรุนแรงเกิดขึ้น ก็ต้องไปดูด้วยว่า มีข้าราชการกลุ่มใดได้รับงบประมาณมากขึ้น และมีประโยชน์จากการใช้งบประมาณมากขึ้น ต้องไปแก้ปัญหาตรงนี้ให้ถูกจุด
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า กรณีที่ พล.อ.ธวัชชัย เรียกร้องไม่ให้กลุ่มใดออกมาเคลื่อนไหวในช่วงเวลานี้ เพื่อสนับสนุนรัฐบาลนั้น ตนคิดว่า ทุกคนควรสนับสนุนนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เท่าที่ตนดู เข้าใจว่านายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ทุกคนทุกกลุ่ม รวมไปถึงกลุ่มนักศึกษา มาแสดงความเห็นในเวที ในกรอบที่เหมาะสม เพราะฉะนั้น คนที่อยู่ในแวดวงของสปช. ผู้มีอำนาจ ไม่ควรออกมาพูดอะไรขัดแย้งกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูด

**เย้ยไม่มีผลงาน เลยป้ายสีพรรคการเมือง
นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ธวัชชัย แถลงข่าวว่ามีพรรคการเมือง 2 พรรค ลงขันให้ก่อสถานการณ์ก่อการร้าย และเตรียมจัดตั้งแกนนำรวบรวมคนในเพื่อมาโค่นล้มรัฐบาลว่า คนเหล่านี้ไปไหนไม่เป็น ก็โทษพรรคการเมือง สปช.ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน คิดแต่จะทำให้ตัวเองดูดี พยายามต่อท่ออำนาจให้ตัวเองด้วยการเสนอทำประชามติ ต่ออายุรัฐบาล 2 ปี ไม่สำเร็จ ก็มีมาเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติอีก วันๆ คิดแต่จะทำลายพรรคการเมือง

**พท.เล็งใช้เวทีสนช.ทิ้งระเบิดระบายแค้น
นายวรชัย ยังกล่าวด้วยว่า ในการแถลงเปิดคดีถอดถอน 248 อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาส.ว. ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ ตนและอดีตส.ส.ทุกคนยืนยันจะใช้สิทธิชี้แจง เพราะมีความอัดอั้นตันใจกันทุกคน และวันนี้ คนที่จะพิจารณาถอดถอนเราคือพวกที่มาจากการรัฐประหาร เอาพวกยึดอำนาจมาถอดถอนคนที่มาจากประชาชน เรารับไม่ได้จริงๆ

** เลขาฯสมช.ฉุนสื่อถามภาคใต้"เมืองร้าง"
นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ในภาคใต้ ที่มีการก่อเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่องว่า ภาคใต้มีคนหลายกลุ่มซึ่งบางกลุ่มอาจไม่เห็นด้วยกับกระบวนการแสวงหาทางออกของรัฐบาล ซึ่งประชาชนเขาไม่เห็นด้วยกับการกระทำความรุนแรงอยู่แล้ว และรัฐบาลที่ลงไป ก็ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร แต่ลงไปดูแลประชาชนทำให้ทุกส่วนราชการกล้าที่จะลงไปในพื้นที่ ที่การพัฒนาไปไม่ถึง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย จึงเป็นห่วงว่าภาคใต้จะกลายเป็นเมืองร้าง เลขาฯ สมช. กล่าวว่า ไม่มีๆ "พวกคุณอย่ามาตั้งคำถามที่หวือหวาแบบนี้ มันไม่มีประโยชน์"
เมื่อถามถึงความคืบหน้าของกระบวนการสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยอยู่ตลอด สิ่งที่รัฐบาลกำลังจะทำนั้นเพื่อการแสวงหาทางออกที่แท้จริงเช่นหากยุติความรุนแรงแล้วหลังจากนั้นจะอยู่กันอย่างไร หาทางออกแบบไหน คดีเล็กๆ น้อยๆ จะทำอย่างไร

**โจรใต้วางบึมสังหาร2จุดอส.เจ็บ4นาย
เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.สุวโรจน์ ลุนหวิทยานนท์ ผกก.สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายวางระเบิดสังหารอาสาสมัครรักษาดินแดนประจำที่ว่าการอ.สุไหงปาดี ปฏิบัติหน้าที่ชุดคุ้มครองต.ริโก๋ ริมถนนช่วงบริเวณบ้านจือแร หมู่ 1 ต.ริโก๋ จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยนายไพโรจน์ จริตงาม นายอำเภอสุไหงปาดี ร.ต.ท.พลวัฒน์ เทพษร รองหัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจ.นราธิวาส ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง
พบบนถนนมีหลุมลึก 1.5 เมตร กว้าง 3 เมตร และเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องหนัก 50 ก.ก. ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุ้งต้ม จุดชนวนด้วยแบตเตอรีที่ลากสายไฟยาวเข้าไปในป่ารกทึบกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้าริมทาง ไหล่ถนนพบรถกระบะอีซูซุ สีน้ำตาล จอดเสียหลักชนต้นไม้ริมถนนเสียหาย ในรถพบกองเลือด
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย พลเมืองดีได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี แพทย์ส่งต่อโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ประกอบด้วย อส.มะสุหรี ดาหามิ อส.ซูแวเด็ง ดาโอ๊ะ อส.อัสรี โต๊ะจิ และอส.มะดารุ วาโด
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุอส.ทั้ง 4 นาย นั่งรถยนต์ออกจากฐานบ้านดอเฮะ หมู่ 3 ต.ริโก๋ เพื่อไปรับน้ำมันเชื้อเพลิงที่บ้านปิเหล็ง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส มาเก็บไว้ที่คลังน้ำมันของอำเภอ จากนั้นได้ขับรถกลับฐาน ถึงที่เกิดเหตุได้จุดชนวนระเบิดที่วางไว้ใต้ผิวถนน
ก่อนหน้านี้ เวลา 11.00 น. คนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4810 กรมทหารพรานที่ 48 ริมถนนบ้านปิเหล็งเหนือ หมู่ 6 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ขณะที่ทหาร 6 นายนั่งรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บฉ 3280 นราธิวาส เดินทางไปพบปะพูดคุยกับผู้นำศาสนาช่วงเดือนรอมฏอน แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ รถยนต์เสียหายเล็กน้อย

**”จักรทิพย์”ตรวจเหตุระเบิดป่วนสุไหงโก-ลก
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ตรวจสอบพื้นที่คนร้ายลอบวางระเบิดป่วนเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 8 จุด เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 8 คน ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก โดยไปยังร้านแสงเจริญ หลังตลาดสดเก็นติ้ง เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง เจ้าของร้านและญาติเสียชีวิต มี พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก เป็นผู้นำดูที่เกิดเหตุ ทั้งได้พูดคุยกับ นายจักพงศ์ โกศลพิทักษ์ ลูกชายเจ้าของร้านแสงเจริญ ที่หนีรอดออกมาได้
ซึ่งนายจักรพงศ์ยืนยันว่าจะอยู่ที่อ.สุไหงโก-ลก เพื่อเจริญรอยตามบิดา ด้วยการลงหลักปักฐานค้าขายต่อไป แต่ขอให้เจ้าหน้าที่มีความเข้มงวดในการตรวจตราย่านเศรษฐกิจให้มากขึ้น เพราะหากเกิดเหตุร้ายจะสร้างความเสียหายด้านเศรษฐกิจ จนเพื่อนบ้านเกิดความไม่มั่นใจ และกว่าความมั่นใจจะกลับคืนมาอีกครั้งต้องใช้เวลาหลายเดือน โดย จักรทิพย์ ได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้แก่นายจักรพงศ์เป็นการปลอบขวัญ
ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ไปยังสภ.สุไหงโก-ลก เพื่อให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่สามารถสืบสวนสอบสวนจนนำไปสู่การเตรียมออกหมายจับคนร้ายบางส่วนที่ร่วมก่อเหตุ จากนั้นเข้าร่วมประชุมคลี่คลายคดี รวมทั้งแนวทางสืบสวนสอบสวนหาตัวกลุ่มคนร้าย โดยภาพรวมจากการแกะรอยของเจ้าหน้าที่ และเรียกสอบปากคำพยานบุคคล สามารถนำไปสู่กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ได้ ซึ่งอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ย้ำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่ดีอยู่แล้ว ด้วยการพยายามดึงมวลชนเข้ามาร่วมให้ได้มากขึ้น เพราะเป็น กลไกสำคัญที่จะสามารถรักษาเมืองสุไหงโก-ลกให้ปลอดเหตุร้ายได้
**เผยเตรียมออกหมายจับ2คนร้ายหน้าเดิม
พล.ต.อ.จักรทิพย์ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับว่า คดีคืบหน้าไปมากแล้ว เชื่อว่าจะออกหมายจับได้ ซึ่งเป็นคนร้ายกลุ่มเดิที่ก่อเหตุ และเป็นคนในพื้นที่โดยน่าจะออกหมายจับคนร้าย 2 คนแรกได้ในเร็วๆนี้ โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งทั้ง 2 คนนั้นค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าเป็น 2 ใน 4 ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิด 2 จุด ที่อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 57 ประกอบด้วย นายซารีซานฮัมรี ดือราแม นายอิสยาซะห์ หะแย นายนูรุดดิน กาจะลากี และนายสุไลมาน สาเมาะ
ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จังหวัด ได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้ทุกคนแล้ว โดยผู้เสียชีวิต 3 ราย จ่ายเงินเยียวยารายละ 5 แสนบาท บาดเจ็บปานกลาง 2 ราย รายละ 3 หมื่นบาท และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย 1 หมื่นบาท ส่วนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และบ้านเรือน อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น