รัฐบาลชี้กรณีชาวอุยกูร์สถานการณ์จะคลี่คลาย มั่นใจทำดีที่สุดแล้ว "สมชาย" ตอกกลับมีพิรุธ "สหรัฐฯ-อียู-ยูเอ็นเอชซีอาร์" รวมหัวประณามไทย ขณะที่ "ไมเคิล ยอน" นักข่าวอิสระสัญชาติอเมริกัน แนะไทยตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการติดต่อขอส่งผู้อพยพ ทั้งโรฮีนจา อุยกูร์ ไปวอชิงตัน "ดี้ นิติพงษ์" ร่วมวงแสดงความเห็นบอกถ้าจีนโหดกับอุยกูร์ ไม่เกี่ยวกับไทย
เมื่อวานนี้ (12ก.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการดำเนินการกับชาวอุยกูร์ ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายว่า มั่นใจว่ารัฐบาลไทยดำเนินการทุกอย่างถูกต้องเหมาะสมที่สุดแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นการตัดสินใจของรัฐบาล
" เมื่อผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมีหลักฐานว่าเคยกระทำผิดในประเทศอื่นมาก่อน รวมทั้งพิสูจน์สัญชาติแล้วว่าเป็นพลเมืองของประเทศนั้น ประเทศไทยก็ไม่มีทางเลือกเป็นอื่นที่จะต้องส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง อยากถามประเทศที่ประนามไทยเช่นกันว่า หากมีผู้กระทำผิดกฎหมายร้ายแรงจากประเทศหนึ่ง หลบหนีมาพำนักในประเทศของท่าน ท่านจะดำเนินการส่งตัวกลับไปดำเนินคดียังประเทศต้นทาง หรือสนับสนุนให้ส่งต่อไปยังที่อื่น ในทางกลับกัน ถ้าเป็นผู้กระทำผิดในประเทศของท่าน แล้วหลบหนีไปประเทศอื่น ท่านต้องการให้ส่งตัวกลับไปรับโทษในประเทศของท่านหรือไม่ คำตอบนั้นชัดเจนด้วยหลักเหตุผลที่สมบูรณ์ จึงไม่มีความเหมาะสมใดๆ เลย ที่จะกล่าวร้ายต่อการปฏิบัติของประเทศไทย และในส่วนผู้ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อคดีใดๆ รวมทั้งผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว ประเทศไทยก็ดำเนินการดูแล ส่งไปยังประเทศปลายทางตามประสงค์อย่างปลอดภัย โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเสมอมา" พล.ต.สรรเสริญ กล่าวและว่า เชื่อว่าสถานการณ์ความไม่พอใจ จะคลี่คลายลงได้ เมื่อทุกฝ่ายยึดหลักเหตุและผล มากกว่า ใช้อารมณ์ และเคารพต่อกฎหมายทั้งภายในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งมีความพยายามร่วมมือกันที่จะทำให้สถานการณ์เป็นปกติโดยเร็ว
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่ สื่อจีน และสื่อต่างประเทศ เสนอข่าวและภาพทางการจีน คุมตัวชาวอุยกูร์ ด้วยการคลุมถุงดำ ใส่กุญแจมือ และประกบตัวต่อตัว บนเครื่องบิน ที่ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์นั้น ว่า คนมองภาพก็จะคิดไปต่างๆนานา แต่น่าจะเข้าใจว่า ในสถานการณ์แบบนั้น ถ้าไม่ควบคุมให้รัดกุมบนเครื่องบิน หากเกิดการต่อสู้ หรือพยายามจะจี้เครื่องบิน แล้วจะเกิดผลจะร้ายแรงแค่ไหน อีกทั้งจีนก็ระบุว่า ในจำนวนนี้มีคนที่เชื่อมโยงกับขบวนการการก่อการร้ายด้วย จึงต้องคุมเข้ม
"จึงขอความร่วมมือสื่อไทยในการเสนอข่าว เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด เพราะมันเป็นเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบินของทางการจีน ส่วนเรื่องคดีนั้น ทางการจีน ยืนยันกับรัฐบาลไทยแล้วว่า จะให้ความเป็นธรรม ใครเกี่ยวข้อง หรือไม่เกี่ยวข้อง และพร้อมให้ไทยส่งตัวแทน และองค์กรต่างๆไปร่วมสังเกตุการณ์ได้" พล.ต.วีรชน กล่าว
นายสมชาย แสวงการ รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สนช. กล่าวถึงกรณี สหรัฐฯ และนานาชาติ ร่วมประนามไทยที่ส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ว่า น่าเป็นความผิดปกติอย่างตั้งใจเล่นงานไทยมากกว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ประเทศไทยส่งชาวอุยกูร์ 172 คน ไปประเทศตุรกี ทางสหรัฐฯ อียู ยูเอ็นเอชซีอาร์ ไม่เห็นโวยวายว่าละเมิดสิทธิ ที่ส่งคนจีนไปให้ตุรกี แต่ทันทีที่ประเทศไทยส่งชาวอุยกูร์ 109 คน ที่บางคนต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุร้ายในซินเกียง ออกจากไทยปรากฏว่า ม็อบที่ตุรกี นำโดย ผู้นำอุยกูร์ที่สหรัฐฯ หนุนหลัง ก็พากำลังบุกไปสถานกงสุลไทยเกือบทันที ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งชาติตุรกี ที่มีหน้าที่เฝ้าสถานกงสุลหายไปไหน และหลังจากเกิดเหตุขึ้น ทางสหรัฐฯ และ อียู ยูเอ็นเอชซีอาร์ ควรจะตำหนิตุรกี ที่ปล่อยให้มีการบุกพังสถานกงสุลไทย เพราะถือเป็นสถานการณ์ที่อันตรายต่อทุกชาติอย่างยิ่ง แต่กลับออกเเถลงการณ์ เล่นงานไทยทันที
นอกจากนี้ทางรัฐบาลตุรกี ควรจะขอโทษรัฐบาลไทยที่ปล่อยให้ม็อบบุกพังสถานทูตไทย แต่กลับออกแถลงการณ์โจมตีประเทศไทย ทั้งๆ ที่ตุรกีรู้ดีว่า บุคคลที่ไทยส่งกลับจีนเป็นไปตามคำร้องขอของจีนในฐานะผู้ต้องสงสัยก่อเหตุร้าย เพื่อกลับไปสอบสวนดำเนินคดีตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามเเดน ซึ่งตุรกีกลับทำพาสปอร์ตทั้งหมดให้ชาวอุยกูร์เหล่านั้นทุกคน โดยอ้างว่า เป็นชาวตุรกี ทั้งๆ ที่ชัดเจนว่าคนเหล่านั้นเเม้มีเชื้อชาติเผ่าพันธุ์สืบสายมาจากตุรกี โดยคนทั้งหมดเป็นคนที่เกิดในเเผ่นดินจีน เช่นเดียวกับคนไทยที่เกิดในสหรัฐฯ ในอังกฤษ หรือคนจีน ที่มาเกิดในเเผ่นดินไทย ก็คือคนไทยเชื้อสายจีน
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ เองก็เคยขอร้องเเกมบีบบังคับรัฐบาลไทย ให้ส่งชาวต่างชาติที่ไม่ใช่อเมริกันไปสหรัฐฯ เท่าที่จำได้คือ นาย ฮัมบาลี ชาวมุสลิม เเละนายวิคเตอร์ บูธ ชาวรัสเซีย ไม่เห็นว่าสหรัฐฯ อียู จะโวยวายอะไรไทยว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่ ยูเอ็นเอชซีอาร์ เป็นตัวการที่ช่วยเหลือคนทำผิดในไทยหลายคนไปเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองในนิวซีเเลนด์ เเละฝรั่งเศส
นักข่าวมะกันแนะไทยส่งอุยกูร์ไปสหรัฐฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไมเคิล ยอน นักข่าวอิสระ สัญชาติอเมริกัน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "Michael Yon"แสดงความคิดเห็นกรณีที่สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประฌามรัฐบาลไทยที่ชาวมุสลิมอุยกูร์ กลับไปประเทศจีน โดย ไมเคิล ยอน แนะนำให้รัฐบาลไทย ตอบโต้แถลงการณ์ของสหรัฐฯ
เนื้อหาดังนี้
" สหรัฐฯ ขอประณามการเนรเทศ และเรียกร้องให้ประเทศไทย หยุดการเนรเทศผู้คนเหล่านั้นเสีย โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวอุยกูร์ จะต้องเผชิญหน้ากับการถูกกระทำด้วยความความรุนแรงเลวร้ายในประเทศจีน" จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
" เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลของไทย และรัฐบาลในประเทศใดๆ ก็ตามที่มีผู้อพยพชาวอุยกูร์อาศัยอยู่ ให้หยุดการบังคับเนรเทศผู้ที่มีเชื้อชาติอุยกูร์กลับเสีย " นายเคอร์บี กล่าว ในคำแถลงการณ์ เขายังได้เรียกร้องให้จีน รับรองว่าจะดูแลชาวอุยกูร์อย่างเหมาะสม
เสียงที่ไม่มีราคานี้ มาจากปากของสหรัฐฯ ผู้ที่เล็งอาวุธไปที่ชาวอุยกูร์ในสนามรบ ขังชาวอุยกูร์ ที่เหลือไว้ในสถานกักกันของกองทัพ เช่น ที่อ่าวกวนตานาโม (Guantanamo Bay)และต่อจากนั้น ก็จ่ายเงิน และพยายามโน้มน้าวให้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกรับชาวอุยกูร์ไปจากเราเสีย ด้วยเหตุผลที่ว่า พวกเราไม่ต้องการผู้ที่มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ก่อการร้ายเข้าไปในประเทศของเรา
นี่เป็นเสียงสะท้อนจากห้วงเวลา เมื่อครั้งที่ นอร์เวย์ ชี้นิ้วกล่าวโทษไปที่ออสเตรเลืย ในตอนที่ออสเตรเลียไม่เต็มใจที่จะรับชาวต่างชาติที่ดูเหมือนว่า จะไม่สามารถเข้ากันได้ และน่าจะนำมาซึ่งปัญหาในภายภาคหน้าไว้ ออสเตรเลีย น่าจะเสนอข้อเสนอให้กับนอร์เวย์ว่า : "เราจะออกค่าใช้จ่ายในการส่งพวกเขาไปยังกรุงออสโลให้ทั้งหมด, ขอให้มีความสุข "
แล้วก็เช่นเดียวกัน ประเทศไทย ควรจะบอกกับสหรัฐฯว่า " หากคุณต้องการรับพวกเขาไว้ พวกเราจะส่งพวกเขาไปที่สนามบิน หรือ ท่าเรือใดก็ตาม ที่คุณจะมารับ ขอแค่บอกวันเวลา และสถานที่มา"
ข้อความจากประเทศไทย และจากประเทศอื่นๆ อย่างประเทศออสเตรเลียนั้น ควรจะเป็นที่ชัดเจน และนี่ก็ควรจะเป็นข้อความที่ชัดเจนจากสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน ที่ว่า : ไม่มีการเปิดพรมแดนให้กับการอพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย
ไม่ว่าจะเป็นชาวโรฮีนจา เป็นชาวอพยพชนชาติอื่นใด หากประเทศไทย หรือ ประเทศออสเตรเลีย หรือ ประเทศอื่น แสดงให้เห็นว่า เปิดพรมแดน รับผู้อพยพได้อย่างง่ายดาย การอพยพเข้าประเทศครั้งใหญ่ จำนวนมหาศาลก็จะตามมา
ประเทศไทยควรจะเสนอข้อเสนอในการส่งชาวโรฮีนจา หรือชาวอุยกูร์ ไปยังกรุงวอชิงตัน หรือไปยังประเทศใดก็ตามที่ออกมาคัดค้าน
"ดี้ นิติพงษ์" ร่วมวงชี้ไทยโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค" นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก "Nitipong Honark" แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่รัฐบาลไทยส่งตัวชาวมุสลิมอุยกูร์ให้กับประเทศจีน จนเกิดกระแสต่อต้านจากชาวตุรกี ซึ่งมองว่าการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลไทยเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักสากล เนื้อหามีดังนี้
บางทีนะ ท่านขุน คุณหลวง...ฉันก็สงสารประเทศนัก...
เราก็อยู่ของเราเฉยๆ...โรฮิงญามา...ก็เป็นภาระ ควรจะอุปการะแค่ไหนดี ควรจะส่งต่อแค่ไหนดี...ส่งต่อ แล้วใครจะรับ....ทำซ้ายก็ถูกด่า ทำขวาก็ถูกด่า...
มึงทะเลาะกัน แต่เดินผ่านบ้านกู...กูไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
เหมือนมีเพื่อนสองคน...คนนึงเป็นฝรั่ง อีกคนนึงเป็นจีน...
ตัวใหญ่มาก...ทั่งคู่
...พอเราไปคุยกับไอ้ฝรั่ง อาตี๋แม่งก็หมั่นไส้เรา...
...พอเราไปคุยกับอาตี๋ ไอ้หรั่ง แม่งก็หมั่นไส้เรา...
ทำไมมึงไม่ไปต่อยกันหลังห้องน้ำโรงเรียนเลยวะ...
กูอยู่ของกูเฉยๆ ... ไม่ได้ ไม่เสียอะไรด้วย
แค่อยู่แถวนี้...แต่น้ำลายพวกมึงเต็มหน้ากูเลย...
กรณีอุยกูร์...
คนไทยไม่เกี่ยวอะไรเลย ไม่บวกไม่ลบทั้งสิ้น
มันเป็นเรื่องของจีน กับ คนอุยกูร์
รัฐบาลจีนจะโหดกับคนอุยกูร์ มุสลิมเติร์ก ... ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรานี่
เราไม่เคยมีปัญหากับใคร...
มันเป็นประวัติศาสตร์ของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา...
ไม่ได้อยากเผือกกับเรื่องของท่านทั้งหลายเลย...
แต่มันดันเข้ามาผ่านบ้านฉัน...
แล้วจะให้ฉันทำยังไง
ให้อยู่...ก็ไม่มีปัญญาเลี้ยงดู
ฉันแค่ ไม่อยากเกี่ยวข้อง...
เอาเก็บไว้ในบ้าน อุยกูร์เขาก็ไม่ได้อยากจะอยู่บ้านเรา
บ้านเราก็ไม่มีปัญญาเลี้ยงดู
ส่งไปตุรกี ก็ทำมาแล้ว...ตุรกีชอบ จีนโกรธ
งั้นบางส่วน ส่งกลับไปจีนละกัน ตามหลักฐานบุคคล จีนชอบ ตุรกีโกรธ
...ไม่ใช่แค่ตุรกี
มีคนโกรธอีกเยอะ...ยูเอ็นเอสซีอาร์ อเมริกา ฯลฯ
มึงโกรธกูทำไม..
กูได้อะไรมั่งไหม
กูก็อยู่ของกู ... มีคนที่มึงทะเลาะกัน แอบมาอยู่ในบ้านกู...จะให้กูทำไง
เอาไว้ในบ้านกู กูเหนื่อย
ส่งไปตุรกี...ไม่ยากดอก...แต่เมืองจีนจะโกรธกู
ส่งไปเมืองจีน ก็จะมีพวกฝรั่งอีกเยอะที่จะมาด่ากู
คือ ฝรั่งนะ...กะเมืองจีน....จะหมั่นไส้กันก็ช่วยไปชกกันเหอะ..
กูคนไทย...กูไม่ได้เกี่ยวกับพวกมึงเลยครับ...
เมื่อวานนี้ (12ก.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการดำเนินการกับชาวอุยกูร์ ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายว่า มั่นใจว่ารัฐบาลไทยดำเนินการทุกอย่างถูกต้องเหมาะสมที่สุดแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นการตัดสินใจของรัฐบาล
" เมื่อผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมีหลักฐานว่าเคยกระทำผิดในประเทศอื่นมาก่อน รวมทั้งพิสูจน์สัญชาติแล้วว่าเป็นพลเมืองของประเทศนั้น ประเทศไทยก็ไม่มีทางเลือกเป็นอื่นที่จะต้องส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง อยากถามประเทศที่ประนามไทยเช่นกันว่า หากมีผู้กระทำผิดกฎหมายร้ายแรงจากประเทศหนึ่ง หลบหนีมาพำนักในประเทศของท่าน ท่านจะดำเนินการส่งตัวกลับไปดำเนินคดียังประเทศต้นทาง หรือสนับสนุนให้ส่งต่อไปยังที่อื่น ในทางกลับกัน ถ้าเป็นผู้กระทำผิดในประเทศของท่าน แล้วหลบหนีไปประเทศอื่น ท่านต้องการให้ส่งตัวกลับไปรับโทษในประเทศของท่านหรือไม่ คำตอบนั้นชัดเจนด้วยหลักเหตุผลที่สมบูรณ์ จึงไม่มีความเหมาะสมใดๆ เลย ที่จะกล่าวร้ายต่อการปฏิบัติของประเทศไทย และในส่วนผู้ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อคดีใดๆ รวมทั้งผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว ประเทศไทยก็ดำเนินการดูแล ส่งไปยังประเทศปลายทางตามประสงค์อย่างปลอดภัย โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเสมอมา" พล.ต.สรรเสริญ กล่าวและว่า เชื่อว่าสถานการณ์ความไม่พอใจ จะคลี่คลายลงได้ เมื่อทุกฝ่ายยึดหลักเหตุและผล มากกว่า ใช้อารมณ์ และเคารพต่อกฎหมายทั้งภายในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งมีความพยายามร่วมมือกันที่จะทำให้สถานการณ์เป็นปกติโดยเร็ว
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่ สื่อจีน และสื่อต่างประเทศ เสนอข่าวและภาพทางการจีน คุมตัวชาวอุยกูร์ ด้วยการคลุมถุงดำ ใส่กุญแจมือ และประกบตัวต่อตัว บนเครื่องบิน ที่ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์นั้น ว่า คนมองภาพก็จะคิดไปต่างๆนานา แต่น่าจะเข้าใจว่า ในสถานการณ์แบบนั้น ถ้าไม่ควบคุมให้รัดกุมบนเครื่องบิน หากเกิดการต่อสู้ หรือพยายามจะจี้เครื่องบิน แล้วจะเกิดผลจะร้ายแรงแค่ไหน อีกทั้งจีนก็ระบุว่า ในจำนวนนี้มีคนที่เชื่อมโยงกับขบวนการการก่อการร้ายด้วย จึงต้องคุมเข้ม
"จึงขอความร่วมมือสื่อไทยในการเสนอข่าว เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด เพราะมันเป็นเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบินของทางการจีน ส่วนเรื่องคดีนั้น ทางการจีน ยืนยันกับรัฐบาลไทยแล้วว่า จะให้ความเป็นธรรม ใครเกี่ยวข้อง หรือไม่เกี่ยวข้อง และพร้อมให้ไทยส่งตัวแทน และองค์กรต่างๆไปร่วมสังเกตุการณ์ได้" พล.ต.วีรชน กล่าว
นายสมชาย แสวงการ รองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สนช. กล่าวถึงกรณี สหรัฐฯ และนานาชาติ ร่วมประนามไทยที่ส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ว่า น่าเป็นความผิดปกติอย่างตั้งใจเล่นงานไทยมากกว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ประเทศไทยส่งชาวอุยกูร์ 172 คน ไปประเทศตุรกี ทางสหรัฐฯ อียู ยูเอ็นเอชซีอาร์ ไม่เห็นโวยวายว่าละเมิดสิทธิ ที่ส่งคนจีนไปให้ตุรกี แต่ทันทีที่ประเทศไทยส่งชาวอุยกูร์ 109 คน ที่บางคนต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุร้ายในซินเกียง ออกจากไทยปรากฏว่า ม็อบที่ตุรกี นำโดย ผู้นำอุยกูร์ที่สหรัฐฯ หนุนหลัง ก็พากำลังบุกไปสถานกงสุลไทยเกือบทันที ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งชาติตุรกี ที่มีหน้าที่เฝ้าสถานกงสุลหายไปไหน และหลังจากเกิดเหตุขึ้น ทางสหรัฐฯ และ อียู ยูเอ็นเอชซีอาร์ ควรจะตำหนิตุรกี ที่ปล่อยให้มีการบุกพังสถานกงสุลไทย เพราะถือเป็นสถานการณ์ที่อันตรายต่อทุกชาติอย่างยิ่ง แต่กลับออกเเถลงการณ์ เล่นงานไทยทันที
นอกจากนี้ทางรัฐบาลตุรกี ควรจะขอโทษรัฐบาลไทยที่ปล่อยให้ม็อบบุกพังสถานทูตไทย แต่กลับออกแถลงการณ์โจมตีประเทศไทย ทั้งๆ ที่ตุรกีรู้ดีว่า บุคคลที่ไทยส่งกลับจีนเป็นไปตามคำร้องขอของจีนในฐานะผู้ต้องสงสัยก่อเหตุร้าย เพื่อกลับไปสอบสวนดำเนินคดีตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามเเดน ซึ่งตุรกีกลับทำพาสปอร์ตทั้งหมดให้ชาวอุยกูร์เหล่านั้นทุกคน โดยอ้างว่า เป็นชาวตุรกี ทั้งๆ ที่ชัดเจนว่าคนเหล่านั้นเเม้มีเชื้อชาติเผ่าพันธุ์สืบสายมาจากตุรกี โดยคนทั้งหมดเป็นคนที่เกิดในเเผ่นดินจีน เช่นเดียวกับคนไทยที่เกิดในสหรัฐฯ ในอังกฤษ หรือคนจีน ที่มาเกิดในเเผ่นดินไทย ก็คือคนไทยเชื้อสายจีน
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ เองก็เคยขอร้องเเกมบีบบังคับรัฐบาลไทย ให้ส่งชาวต่างชาติที่ไม่ใช่อเมริกันไปสหรัฐฯ เท่าที่จำได้คือ นาย ฮัมบาลี ชาวมุสลิม เเละนายวิคเตอร์ บูธ ชาวรัสเซีย ไม่เห็นว่าสหรัฐฯ อียู จะโวยวายอะไรไทยว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่ ยูเอ็นเอชซีอาร์ เป็นตัวการที่ช่วยเหลือคนทำผิดในไทยหลายคนไปเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองในนิวซีเเลนด์ เเละฝรั่งเศส
นักข่าวมะกันแนะไทยส่งอุยกูร์ไปสหรัฐฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไมเคิล ยอน นักข่าวอิสระ สัญชาติอเมริกัน ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "Michael Yon"แสดงความคิดเห็นกรณีที่สหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ประฌามรัฐบาลไทยที่ชาวมุสลิมอุยกูร์ กลับไปประเทศจีน โดย ไมเคิล ยอน แนะนำให้รัฐบาลไทย ตอบโต้แถลงการณ์ของสหรัฐฯ
เนื้อหาดังนี้
" สหรัฐฯ ขอประณามการเนรเทศ และเรียกร้องให้ประเทศไทย หยุดการเนรเทศผู้คนเหล่านั้นเสีย โดยกล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวอุยกูร์ จะต้องเผชิญหน้ากับการถูกกระทำด้วยความความรุนแรงเลวร้ายในประเทศจีน" จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
" เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลของไทย และรัฐบาลในประเทศใดๆ ก็ตามที่มีผู้อพยพชาวอุยกูร์อาศัยอยู่ ให้หยุดการบังคับเนรเทศผู้ที่มีเชื้อชาติอุยกูร์กลับเสีย " นายเคอร์บี กล่าว ในคำแถลงการณ์ เขายังได้เรียกร้องให้จีน รับรองว่าจะดูแลชาวอุยกูร์อย่างเหมาะสม
เสียงที่ไม่มีราคานี้ มาจากปากของสหรัฐฯ ผู้ที่เล็งอาวุธไปที่ชาวอุยกูร์ในสนามรบ ขังชาวอุยกูร์ ที่เหลือไว้ในสถานกักกันของกองทัพ เช่น ที่อ่าวกวนตานาโม (Guantanamo Bay)และต่อจากนั้น ก็จ่ายเงิน และพยายามโน้มน้าวให้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกรับชาวอุยกูร์ไปจากเราเสีย ด้วยเหตุผลที่ว่า พวกเราไม่ต้องการผู้ที่มีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ก่อการร้ายเข้าไปในประเทศของเรา
นี่เป็นเสียงสะท้อนจากห้วงเวลา เมื่อครั้งที่ นอร์เวย์ ชี้นิ้วกล่าวโทษไปที่ออสเตรเลืย ในตอนที่ออสเตรเลียไม่เต็มใจที่จะรับชาวต่างชาติที่ดูเหมือนว่า จะไม่สามารถเข้ากันได้ และน่าจะนำมาซึ่งปัญหาในภายภาคหน้าไว้ ออสเตรเลีย น่าจะเสนอข้อเสนอให้กับนอร์เวย์ว่า : "เราจะออกค่าใช้จ่ายในการส่งพวกเขาไปยังกรุงออสโลให้ทั้งหมด, ขอให้มีความสุข "
แล้วก็เช่นเดียวกัน ประเทศไทย ควรจะบอกกับสหรัฐฯว่า " หากคุณต้องการรับพวกเขาไว้ พวกเราจะส่งพวกเขาไปที่สนามบิน หรือ ท่าเรือใดก็ตาม ที่คุณจะมารับ ขอแค่บอกวันเวลา และสถานที่มา"
ข้อความจากประเทศไทย และจากประเทศอื่นๆ อย่างประเทศออสเตรเลียนั้น ควรจะเป็นที่ชัดเจน และนี่ก็ควรจะเป็นข้อความที่ชัดเจนจากสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน ที่ว่า : ไม่มีการเปิดพรมแดนให้กับการอพยพเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย
ไม่ว่าจะเป็นชาวโรฮีนจา เป็นชาวอพยพชนชาติอื่นใด หากประเทศไทย หรือ ประเทศออสเตรเลีย หรือ ประเทศอื่น แสดงให้เห็นว่า เปิดพรมแดน รับผู้อพยพได้อย่างง่ายดาย การอพยพเข้าประเทศครั้งใหญ่ จำนวนมหาศาลก็จะตามมา
ประเทศไทยควรจะเสนอข้อเสนอในการส่งชาวโรฮีนจา หรือชาวอุยกูร์ ไปยังกรุงวอชิงตัน หรือไปยังประเทศใดก็ตามที่ออกมาคัดค้าน
"ดี้ นิติพงษ์" ร่วมวงชี้ไทยโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค" นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก "Nitipong Honark" แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่รัฐบาลไทยส่งตัวชาวมุสลิมอุยกูร์ให้กับประเทศจีน จนเกิดกระแสต่อต้านจากชาวตุรกี ซึ่งมองว่าการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาลไทยเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักสากล เนื้อหามีดังนี้
บางทีนะ ท่านขุน คุณหลวง...ฉันก็สงสารประเทศนัก...
เราก็อยู่ของเราเฉยๆ...โรฮิงญามา...ก็เป็นภาระ ควรจะอุปการะแค่ไหนดี ควรจะส่งต่อแค่ไหนดี...ส่งต่อ แล้วใครจะรับ....ทำซ้ายก็ถูกด่า ทำขวาก็ถูกด่า...
มึงทะเลาะกัน แต่เดินผ่านบ้านกู...กูไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
เหมือนมีเพื่อนสองคน...คนนึงเป็นฝรั่ง อีกคนนึงเป็นจีน...
ตัวใหญ่มาก...ทั่งคู่
...พอเราไปคุยกับไอ้ฝรั่ง อาตี๋แม่งก็หมั่นไส้เรา...
...พอเราไปคุยกับอาตี๋ ไอ้หรั่ง แม่งก็หมั่นไส้เรา...
ทำไมมึงไม่ไปต่อยกันหลังห้องน้ำโรงเรียนเลยวะ...
กูอยู่ของกูเฉยๆ ... ไม่ได้ ไม่เสียอะไรด้วย
แค่อยู่แถวนี้...แต่น้ำลายพวกมึงเต็มหน้ากูเลย...
กรณีอุยกูร์...
คนไทยไม่เกี่ยวอะไรเลย ไม่บวกไม่ลบทั้งสิ้น
มันเป็นเรื่องของจีน กับ คนอุยกูร์
รัฐบาลจีนจะโหดกับคนอุยกูร์ มุสลิมเติร์ก ... ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรานี่
เราไม่เคยมีปัญหากับใคร...
มันเป็นประวัติศาสตร์ของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา...
ไม่ได้อยากเผือกกับเรื่องของท่านทั้งหลายเลย...
แต่มันดันเข้ามาผ่านบ้านฉัน...
แล้วจะให้ฉันทำยังไง
ให้อยู่...ก็ไม่มีปัญญาเลี้ยงดู
ฉันแค่ ไม่อยากเกี่ยวข้อง...
เอาเก็บไว้ในบ้าน อุยกูร์เขาก็ไม่ได้อยากจะอยู่บ้านเรา
บ้านเราก็ไม่มีปัญญาเลี้ยงดู
ส่งไปตุรกี ก็ทำมาแล้ว...ตุรกีชอบ จีนโกรธ
งั้นบางส่วน ส่งกลับไปจีนละกัน ตามหลักฐานบุคคล จีนชอบ ตุรกีโกรธ
...ไม่ใช่แค่ตุรกี
มีคนโกรธอีกเยอะ...ยูเอ็นเอสซีอาร์ อเมริกา ฯลฯ
มึงโกรธกูทำไม..
กูได้อะไรมั่งไหม
กูก็อยู่ของกู ... มีคนที่มึงทะเลาะกัน แอบมาอยู่ในบ้านกู...จะให้กูทำไง
เอาไว้ในบ้านกู กูเหนื่อย
ส่งไปตุรกี...ไม่ยากดอก...แต่เมืองจีนจะโกรธกู
ส่งไปเมืองจีน ก็จะมีพวกฝรั่งอีกเยอะที่จะมาด่ากู
คือ ฝรั่งนะ...กะเมืองจีน....จะหมั่นไส้กันก็ช่วยไปชกกันเหอะ..
กูคนไทย...กูไม่ได้เกี่ยวกับพวกมึงเลยครับ...