00 สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เห็นข่าว เสนาธิการทหารบก รองเลขาคสช. พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เปิดเผยถึงข่าวที่ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) จะเชิญ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาออกรายการ "เดินหน้าปฏิรูป" ทางโทรทัศน์ นัยว่าเพื่อเป็นการรับฟังความเห็นจากบุคคลระดับอดีตนายกฯ สำหรับการปฏิรูปบ้านเมืองในวันหน้า และตามข่าวบอกว่า อภิสิทธิ์ ได้ตอบรับเข้าร่วมแล้ว ขณะที่ทางฝ่าย ยิ่งลักษณ์ ข่าวออกมาในลักษณะที่ว่ามีการ "กดดัน" เธอ ซึ่ง พล.อ.ฉัตรเฉลิม ระบุว่า เธอยังไม่พร้อม ได้ยินข่าวแบบนี้แล้วอดขำแรงๆ ไม่ได้
00 อย่าหาว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ ถ้าเชิญ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปงานช็อปปิ้ง ตามห้างละพอว่า แต่ขอโทษถ้าเป็นงานในแบบ "วิชาการ" การแสดงความเห็นหนักๆ แบบนั้น อย่าไปเชิญให้เสียเวลาเลย และที่สำคัญที่สุดก็คือ "เธอไม่รู้เรื่อง" หรอก ขนาดท่องตามบทยังอ่านผิดๆ ถูกๆ เลย ก็เคยเห็นกันจะจะมาแล้วไม่ใช่หรือ เอาเป็นว่าปล่อยเธอเก็บเห็ดอยู่ที่บ้านเงียบๆ ระหว่างที่รอขึ้นศาลคดีรับจำนำข้าว ทั้งอาญาและแพ่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเถอะ ส่วนรายของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้นไม่ต้องห่วง รายการประเภทนี้ของชอบอยู่แล้ว ส่วนฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องส่งลูกน้องเจ้าเก่าอย่าง จาตุรนต์ ฉายแสง มาพ่นน้ำลายแทน ตามนี้แหละ
00 นี่ก็มาอีกแล้ว ประเภทรัฐบาลแห่งชาติ ที่จะดึงเอาสองพรรคใหญ่มาเป็นรัฐบาล อ้างว่าเพื่อเป็นหลักประกันเสถียรภาพรัฐบาล และการปรองดองในชาติ ก็ไม่รู้ว่าคนเสนอนี่มันโง่ หรือว่าเห็นชาวบ้านเป็นควายกันแน่ ถึงได้ดูถูกความคิดกันมาแบบนี้อยู่ตลอด ทั้งที่ในความเป็นจริง การเมืองของไทยถ้าไม่มองให้ซับซ้อน ทุกอย่างมันก็เดินหน้าไปตามปกติอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าทุกฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ใครมีคดีในศาล ก็ต้องว่ากันไปให้ถึงที่สุด ไม่ต้องมาพูดถึงเรื่องปรองดอง สมานฉันท์ให้เสียเวลา การเมืองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่วุ่นวายเป็นเพราะมันเกี้ยะเซียะไม่เคยเห็นหัวประชาชน แต่ในปัจจุบันส่วนหนึ่งที่วุ่นวายก็เป็นเพราะชาวบ้านเขารู้ทัน และไม่ยอมพวกนักการเมืองและขรก.ขี้ฉ้อ อีกต่อไป แต่อีกไม่นานหรอก ทุกอย่างก็มีแนวโน้มในทางบวกมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
00 นาทีนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด สำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องนี่แหละ นับวันยิ่งน่าเป็นห่วง ทั้งจากปัญหาภายนอก และภายใน ภายนอกที่จ่ออยู่ตรงหน้าก็คือ หายนะของกรีซ ตามด้วยฟองสบู่จีน ซึ่งอย่างหลังนี่แหละน่ากลัวที่สุด ส่วนภายในจนถึงเวลานี้การกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้อง การเบิกจ่ายงบประมาณยังอืดอาด ยืดยาดไปไม่ถึงไหน แล้วยังมีภัยแล้ง ประดังเข้ามาอีก จะเรียกได้ว่าป่วนยกกำลังสาม ก็น่าเห็นใจ "ลุงตู่" ที่เหนื่อยอยู่คนเดียว ส่วนทีมงานล้วนไม่เอาอ่าว คิดแบบระบบราชการล้าหลัง เฉื่อยแฉะ แต่ลุงตู่ ก็ยังกัดฟันกระเตงกันต่อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ "พี่ใหญ่" ดันเข้ามาตั้งแต่แรก แต่ถ้าจะให้ออกไปกลางคันก็ทำใจลำบาก และที่สำคัญงานนี้จะเสียหน้าไม่ได้เป็นอันขาด !!
00 อย่าหาว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ ถ้าเชิญ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปงานช็อปปิ้ง ตามห้างละพอว่า แต่ขอโทษถ้าเป็นงานในแบบ "วิชาการ" การแสดงความเห็นหนักๆ แบบนั้น อย่าไปเชิญให้เสียเวลาเลย และที่สำคัญที่สุดก็คือ "เธอไม่รู้เรื่อง" หรอก ขนาดท่องตามบทยังอ่านผิดๆ ถูกๆ เลย ก็เคยเห็นกันจะจะมาแล้วไม่ใช่หรือ เอาเป็นว่าปล่อยเธอเก็บเห็ดอยู่ที่บ้านเงียบๆ ระหว่างที่รอขึ้นศาลคดีรับจำนำข้าว ทั้งอาญาและแพ่งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเถอะ ส่วนรายของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้นไม่ต้องห่วง รายการประเภทนี้ของชอบอยู่แล้ว ส่วนฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องส่งลูกน้องเจ้าเก่าอย่าง จาตุรนต์ ฉายแสง มาพ่นน้ำลายแทน ตามนี้แหละ
00 นี่ก็มาอีกแล้ว ประเภทรัฐบาลแห่งชาติ ที่จะดึงเอาสองพรรคใหญ่มาเป็นรัฐบาล อ้างว่าเพื่อเป็นหลักประกันเสถียรภาพรัฐบาล และการปรองดองในชาติ ก็ไม่รู้ว่าคนเสนอนี่มันโง่ หรือว่าเห็นชาวบ้านเป็นควายกันแน่ ถึงได้ดูถูกความคิดกันมาแบบนี้อยู่ตลอด ทั้งที่ในความเป็นจริง การเมืองของไทยถ้าไม่มองให้ซับซ้อน ทุกอย่างมันก็เดินหน้าไปตามปกติอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าทุกฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ใครมีคดีในศาล ก็ต้องว่ากันไปให้ถึงที่สุด ไม่ต้องมาพูดถึงเรื่องปรองดอง สมานฉันท์ให้เสียเวลา การเมืองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่วุ่นวายเป็นเพราะมันเกี้ยะเซียะไม่เคยเห็นหัวประชาชน แต่ในปัจจุบันส่วนหนึ่งที่วุ่นวายก็เป็นเพราะชาวบ้านเขารู้ทัน และไม่ยอมพวกนักการเมืองและขรก.ขี้ฉ้อ อีกต่อไป แต่อีกไม่นานหรอก ทุกอย่างก็มีแนวโน้มในทางบวกมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
00 นาทีนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด สำหรับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องนี่แหละ นับวันยิ่งน่าเป็นห่วง ทั้งจากปัญหาภายนอก และภายใน ภายนอกที่จ่ออยู่ตรงหน้าก็คือ หายนะของกรีซ ตามด้วยฟองสบู่จีน ซึ่งอย่างหลังนี่แหละน่ากลัวที่สุด ส่วนภายในจนถึงเวลานี้การกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่กระเตื้อง การเบิกจ่ายงบประมาณยังอืดอาด ยืดยาดไปไม่ถึงไหน แล้วยังมีภัยแล้ง ประดังเข้ามาอีก จะเรียกได้ว่าป่วนยกกำลังสาม ก็น่าเห็นใจ "ลุงตู่" ที่เหนื่อยอยู่คนเดียว ส่วนทีมงานล้วนไม่เอาอ่าว คิดแบบระบบราชการล้าหลัง เฉื่อยแฉะ แต่ลุงตู่ ก็ยังกัดฟันกระเตงกันต่อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะ "พี่ใหญ่" ดันเข้ามาตั้งแต่แรก แต่ถ้าจะให้ออกไปกลางคันก็ทำใจลำบาก และที่สำคัญงานนี้จะเสียหน้าไม่ได้เป็นอันขาด !!