“อดุลย์ เขียวบริบูรณ์” เห็นด้วยรัฐบาลแห่งชาติ เผยทำได้โดยไม่ต้องพึ่งรัฐธรรมนูญ แนะดึงทุกสีเสื้อร่วม ครม. เห็นด้วย เชิญสองขั้วเสวนา ขอแค่อย่าขยายแผลเก่า
วันนี้ (12 ก.ค.) นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 และกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงแนวทางจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อเป็นทางออกจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไทย และเกิดความปรองดองอย่างยั่งยืน ว่า โดยหลักการแล้วเห็นด้วยแต่ไม่จำเป็นต้องกำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีรัฐบาลแห่งชาติหลังมีการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะสามารถทำได้ทันทีก่อนมีการเลือกตั้ง เนื่องจากสถานการณ์ของบ้านเมืองขณะที่บอบช้ำมากแล้วจากความขัดแย้งทางการเมืองที่ยังหาทางปรองดองกันไม่ได้ และปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังกระทบต่อปากท้องของพี่น้องประชาชน รวมทั้งเรื่องความมั่นคงจากสถานการณ์ในระดับโลก จึงจำเป็นที่คนในชาติต้องร่วมมือกันคิดและหาทางช่วยกันฝ่าวิกฤติไปให้ได้
นายอดุลย์ กล่าวว่า จากกระแสข่าวที่ว่าควรเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีนั้นทำให้เกิดความสับสน ซึ่งตนเห็นว่าในภาวะที่มีหลายเรื่องประดังเข้ามาให้แก้ไขขณะนี้ไม่ควรเปลี่ยนแม่ทัพแต่เปลี่ยนขุนพลได้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแม่ทัพ ต้องพิจารณาทบทวนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของท่านว่าบุคคลใดที่ไร้ความสามารถไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ก็ควรเปลี่ยนตัวได้แล้ว โดยเฉพาะกระทรวงด้านเศรษฐกิจและต่างประเทศ ควรพิจารณานำพลเรือนที่อยู่ในสายงานแต่ละด้านเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระของนายกฯ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนทั้งในและต่างประเทศไปได้มาก ทำให้ภาพความเป็นรัฐบาลทหารนุ่มนวลขึ้นด้วยสัดส่วนของรัฐมนตรีพลเรือน
“ที่สำคัญ นายกฯควรใจใหญ่ดึงบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านจากทุกฝ่าย ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มการเมืองต่าง ๆ มาร่วม ครม. เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาของชาติ หรือ เรียกว่ารัฐบาลช่วยชาติ เพราะต้องยอมรับว่าการปฏิรูปประเทศจะสำเร็จไม่ได้ หากยังปรองดองกันไม่ได้ ประชาสังคมยังไม่สามัคคีผูกพันให้อภัย เอื้ออาทรต่อกัน การแก้ไขวิกฤตของชาติ ที่มาจากภายนอก - ในประเทศ จำเป็นต้องรีบแก้ไข้ทันทีก่อนจะสายเกินแก้ ขอเรียกร้องต่อแกนนำทุกฝ่ายว่าท่านก็มีส่วนสร้างความวิกฤต จึงต้องมีสำนึกในการแก้วิกฤตร่วมกัน วันนี้ท่านพร้อมให้ความร่วมมือช่วยชาติหรือยัง คนเก่ง ๆ ใน เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ มีอยู่มากมาย บางระจัน มีความขัดแย้งหลายก๊ก เมื่อชาติมีภัย ทุกฝ่ายลืมเรื่องส่วนตน ก็รวมตัวสามัคคีปรองดอง สละแม้ชีวิตยังยอมให้ได้ แล้วพวกท่านจะถือทิฐิเอาชนะคะคานกันไปเพื่ออะไร” นายอดุลย์ กล่าว
นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า ขอชื่นชมและให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เริ่มสื่อสารเรื่องการปรองดอง โดยที่ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฎิรูป (ศปป.) เชิญทุก ๆ ฝ่ายแสดงความคิดเห็นการอยู่ร่วมกันในรายการโทรทัศน์ แต่ขอให้ ศปป. ระมัดระวัง ไม่สร้างความขัดแย้งใหม่เพราะหากตอกย้ำปัญหาเดิม ๆ แล้วไม่มีทางออกทั้งคนพูดและคนฟังก็จะเบื่อ ดังนั้น เมื่อพูดแล้วต้องนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้ด้วย ซึ่งเชื่อว่าหากทุกฝ่ายมานั่งในรัฐบาลช่วยชาติจะพูดกันเข้าใจง่ายและปัญหาต่าง ๆ ก็จะนำไปสู่การปฏิบัติเป็นรูปธรรมและนำไปสู่การปรองดองได้ในที่สุด