xs
xsm
sm
md
lg

‘ณุศาศิริ’ขายคอนโด การันตียีลด์6.5% 9ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ณุศาศิริ เปิดตัว “ณุศาวัน” ขนคอนโดฯ 8 โครงการ 2,400 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 3-35 ล้านบาท มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ขายนักลงทุนปล่อยเช่ารูปแบบโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เตรียมดึง 3 เชนโรงแรมช่วยบริหารพร้อมการันตีผลตอบแทน 6.5% นาน 9 ปี ตั้งเป้าขายหมดภายใน 2 ปี เผยเตรียมปรับเป้ายอดขายจาก 3,000 ล้านบาทเป็น 6,000 ล้านบาท ส่วนรายได้ปรับเพิ่มเท่าตัวจากเป้า 2,000 ล้านบาท
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) (NUSA) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโปรแกรม "ณุศาวัน"(NUSA ONE) ซี่งเป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “One for All All for One": ซื้อหนึ่งได้ทุกอย่าง“เป็นเจ้าของ มีผลตอบแทน และได้ท่องเที่ยว" เจาะกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน หรือรูปแบบไทม์แชร์ริ่ง โดยบริษัทการันตีรายได้ 6.5% (จากราคาเต็ม) นาน 9 ปี จ่านปันผลทุกๆ 3 เดือน โดยแบ่งเป็น เงินปันผล 5.5%ต่อปี ที่เหลือเป็น Point 1% ต่อปีสำหรับลูกค้าที่ต้องการไปพักอาศัยในคอนโดฯทั้ง 8 แห่งและใช้แลกรับบริการต่างๆ
นอกจากนี้ ยังรับซื้อคืน (Buyback) หากลูกค้าต้องการขาย โดยณุศาวันจะรับซื้อคืนในราคาที่ลูกค้าซื้อไปในปีที่ 6 หรือลูกค้าสามารถขายห้องชุดให้กับผู้อื่นได้ แต่จะต้องอยู่ในโปรแกรมไปจนถึงปีที่ 9 หลังจากนั้นจะเป็นผลตอบตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงหรือตามข้อตกลงที่ลูกค้าทำไว้กับผู้บริหารโครงการ โดยหลังจากนี้บริษัทจะคัดเลือกเชนมาบริหารประมาณ 3 ราย รวมถึงดึงพันธมิตรธนาคารพาณิชย์เพื่อจัดแคมเปญปล่อยกู้ให้แก่ลูกค้าที่สนใจซื้อเพื่อลงทุน

“บริษัทคาดว่าจะสามารถขายห้องชุดในโปรแกรมณุศาวัน จำนวน 2,400 ยูนิต มูลค่า 20,000 ล้านบาท ได้หมดภายใน 2 ปี นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มโครงการใหม่ๆเข้ามาอีก ซึ่งอาจจะมีทั้งในไทยและต่างประเทศ” นายวิษณุกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกสามารถสร้างยอดขายได้แล้วเกือบ 3,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ในเร็วนี้ เพื่อเสนอให้ปรับเป้าหมายการดำเนินงานใหม่ โดยยอดขายปรับเพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิม 3,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้คาดว่าจะปรับขึ้นเท่าตัวเช่นกันจากเป้าหมายเดิมวางไว้ 2,000 ล้านบาท หลังจากแนวโน้มการโอนโครงการในครึ่งปีหลังของปีนี้จะมากกว่าครึ่งปีแรกและส่งผลให้ผลการดำเนินงานทั้งรายได้และกำไรสุทธิในครึ่งปีหลังจะมากกว่าครึ่งปีแรกอีกด้วย โดยในครึ่งปีหลังบริษัทจะมีการโอน 3 โครงการ คือ โครงการ Up Ekamai กรุงเทพฯ, โครงการ เสตท ทาวเวอร์ และโครงการณุศา ศรีราชา คอนโดเทล ซึ่งส่วนใหญ่จะโอนในช่วงปลายปี โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในครึ่งปีหลังประมาณ 2,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 59 ทั้งหมด
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า สำหรับการร่วมทุนกับพันธมิตรกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปไนช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งการร่วมทุนในครั้งนี้จะทำให้งานก่อสร้างของบริษัทมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นและทำให้ลูกค้าที่ซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทมีความมั่นใจในคุณภาพที่เหมาะสมกับราคาอีกด้วย
ส่วนแผนการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 4,000 ล้านหุ้น บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรที่สนใจในเอเชียหลายราย แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ เนื่องจากบริษัทยังไม่มั่นใจว่า ในนอนาคตอันใกล้จะมีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากหรือไหม โดยบริษัทได้มีการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP มาเป็นตัวเลือกในเวลาที่บริษัทจะต้องใช้เงินในการลงทุนอย่างมาก ซึ่งหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP จะครบกำหนดอายุในเดือนเมษายน 59.
กำลังโหลดความคิดเห็น